Review Xiaomi Mi Pad6 เสปคเด่น ราคาดี ถ้า (คุณ) ไม่ติดแบรนด์

Xiaomi Mi Pad6 กับรีวิวแบบใช้งาานจริง จ่ายจริง ไม่มีแสตนด์อิน เพื่อให้รู้กันไปว่า Tablet ราคาค่าตัว หมื่นต้น จะคุ้มค่าแค่ไหน
Share

 

Tablet ถือเป็นอุปกรณ์พกพาอีกแบบที่เป็นที่นิยมของคนทั่วไป ทั้งเอามาใช้ส่วนตัวไปจนถึงใช้ในการทำงานประจำวัน แต่ถ้าหากจะต้องเลือกซักตัวจากตลาดด้วยเรื่องราคาและสเปคต่างๆ อุปกรณ์ที่หยิบมารีวิวตัวนี้ถือว่าน่าสนใจ แต่อย่างไรด้านล่างมีคำตอบ

 

ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าที่ผ่านมาหากพูดถึงอุปกรณ์ที่เรียกว่า Tablet นั้น ในความคิดของผมเองนั้นคงไม่มีอะไรที่ Remind มากไปกว่าสินค้าในเครือของ Apple ไม่ว่าจะเป็น iPad Air หรือ iPad Pro แล้วถามว่าเพราะอะไรถึงเกิดรีวิว Xiaomi Mi Pad6 ตัวนี้มาได้

คำตอบก็คือ นี่คือรีวิวนี้เกิดขึ้นแบบที่เรียกว่า “ซื้อจริง จ่ายจริง ใช้จริง” เพราะอย่างนั้นรีวิวนี้จะนำเสนอความรู้สึกจริง และประสิทธิภาพของการนำมาใช้งานจริงๆ ในชีวิตประจำวัน

 

Xiaomi Mi Pad6 ภาพรวม ประสิทธิภาพต่อราคา เรียกว่า มาเกิน

ด้วยราคาค่าตัว 12,990 บาท อุปกรณ์ตัวนี้ถือว่าจัดอยู่ในกลุ่มของ Tablet ราคาประหยัด ที่มีขายผ่านช่องทางจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ต้องบอกก่อนว่ารุ่นที่นำเข้ามาขายในประเทศไทยนั้นจะมีอยู่ 2 เสปค นั่นก็คือแบบ Ram 8GB Rom 128 GB ซึ่งจะมีขายเฉพาะในร้านค้าออนไลน์

แต่สำหรับตัวที่มารีวิวให้ได้อ่านเป็นเสปค Top นั่นก็คือ Ram 8GB Rom 256GB หมายเหตุ Xiaomi ไม่ได้นำเอารุ่นที่รองรับเครือข่ายเซลลูลาร์เข้ามาขายในประเทศไทย หากผู้อ่านเจอสินค้ารุ่น Pro ที่รองรับเครือข่ายมือถือให้รู้ไว้ว่านั่นคือเครื่องจากจีน เพราะปัจจุบันตลาด Global นั้นก็ไม่มีรุ่นดังกล่าวออกขายเช่นเดียวกัน

เริ่มกันที่สภาพภายนอกนั้นแรกเห็นบอกได้ทันทีเลยว่า พี่เขาคงได้แรงบันดาลใจจากอุปกรณ์ของพี่ใหญ่ของวงการ Tablet อย่าง Apple นั่นเอง นั่นคือทั้งตัวเครื่องถูกออกแบบให้มีความเรียบแต่ก็มี Gimmick อยู่เล็กน้อยตรงด้านหลังที่มีตำแหน่งของจุดติดตั้งกล้องที่ต้องบอกว่าใหญ่เกินงาม เพราะในนั้นมีกล้องอยู่ตัวเดียวแต่ก็นักออกแบบคงทำมาให้บ่นเพื่อเป็น Gimmick จริงๆ นั่นแหละ

ตัวเครื่องภายนอกนั้นทำมาจากอลูมิเนียมอัลลอย สำหรับเครื่องนี้เป็นสี Gravity Grey ถ้าเทียบกับแบรนด์พี่ใหญ่ก็น่าจะประมาณ Space Grey นั่นแหละ

ลงลึกกันไปที่เสปคนอกจาก Ram 8GB Rom 256GB หน่วยประมวลผลที่ใช้นั้นก็ไม่ธรรมดาเพราะนี่คือ Snapdragon 870 ก็ไม่ได้เก่าจนเกินไป ที่สำคัญคือตัดปัญหาเรื่องร้อนอกร้อนใจที่หลายคนมักเจอกับพวก Snapdragon 8 Gen1 ทำให้หมดปัญหาเรื่องของความเร็วในการใช้งานไปได้เลย ซึ่งการใช้งานจริงก็ไม่เจออาการเครื่องร้อนแต่อย่างใด

 

อุปกรณ์เสริม ดี แต่ก็แอบแพงเล็กน้อย

Tablet ยุคปัจจุบัน อุปกรณ์ที่มักจะถูกนึกถึงเหมือนมันต้องมาด้วยกันก็คือปากกา แม้ว่าศาสดาของศาสนา Apple อย่าง Steve Jobs นั้นจะเคยพูดถึงว่าเป็นไอเดียที่ไม่เข้าท่า เพราะว่ามนุษย์นั้นพระเจ้าให้ปากกาที่ดีที่สุดอย่างนิ้วมือมาอยู่แล้ว แต่บางครั้งคำพูดของศาสดาเองพอถึงเวลาใช้งานจริงหรือเมื่อเทคโนโลยีมันถูกพัฒนามาแล้ว ถ้ามันดีกว่าก็ควรใช้มันแหละ

ปากกา Smart Pen 2nd Generation และ Keyboard ของ Xiaomi Mi Pad6

 

ปากกาที่ชื่อว่า Smart Pen ที่มากับเครื่องรุ่นนี้ถูกเรียกว่าเป็น 2nd Generation สำหรับขนาดเองจริงๆ แล้วก็เหมาะมือ น้ำหนักเบา ไม่ได้รู้สึกเป็นภาระมากกับการนำมาใช้งาน ถามว่าในการใช้งานจริงนั้นสำหรับที่พบเจอจริงนั้นความรู้สึกคือขึ้นอยู่กับแอพพลิเคชันที่นำมาใช้คู่กัน แต่คุณสมบัติรวมๆ นั้นถือว่าไม่น้อยหน้าพวกปากการาคาสี่ห้าพันแน่นอน

อุปกรณ์อีกชิ้นที่เป็น Add On ที่ต้องซื้อเพิ่มก็คือ Keyboard Cover ที่ออกแบบมาให้เป็นทั้งเคสและเติมชุดคีย์บอร์ดเข้ามา สิ่งที่น่าสังเกตและชื่นชมก็คือคุณภาพของวัสดุ รวมถึงขนาดและน้ำหนักเมื่อประกอบพร้อมใช้กับตัว Tablet แล้วนั้นน้ำหนักไม่ได้เพิ่มมากจนรู้สึกว่าหนักขึ้นแบบเห็นความแตกต่างได้ชัด ถือว่าออกแบบมาได้ดี

แต่ด้วยความใช้งานร่วมกับ Tablet ที่มีขนาดจอเพียง 11 นิ้ว ทำให้ชุดคีย์บอร์ดนั้นจะมีปุ่มพิมพ์ทั้งหมดแค่ 64 ปุ่ม การใช้งานจริงนั้นก็ต้องยอมรับละว่ามันไม่สามารถวางนิ้วแบบปกติในการใช้งานได้ แต่ถ้าพูดถึงในเรื่องการนำไปใช้งานกลางแจ้งก็ถือว่ามีประโยชน์อยู่พอตัว แต่ที่ต้องตินิดนึงก็คือ Position ในการใช้งานมันยังทำได้ไม่หลากหลาย

เรียกว่า ท่าเดียวก็เสร็จ (งาน) เท่านั้น ซึ่งมันอาจจะเป็นส่วนที่ Trade off กันกับเรื่องน้ำหนักรวม และหากถามว่าระยะกดของแป้นพิมพ์นั้นทำได้ดีแค่ไหน เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ต้องชมว่าทำออกมาได้ดีไม่ต้องเกร็งนิ้วหรือใส่น้ำหนักพิมพ์ที่มากเกินไป ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คนเราเกิดอาการ Office Syndrome อย่างหนึ่ง

สนนราคาของอุปกรณ์เสริมทั้งสองตัวนั้น มาในราคาเดียวกันคือ 3,000 บาท มีเงินทอนเป็นเหรียญสิบบาท ซึ่งถ้าซื้อทั้งสองตัวก็เรียกได้ว่าน่าจะมีโอกาสที่คุณจะได้เลิกใช้ Laptop แล้วเปลี่ยนมาใช้ Tablet + Keyboard + Pencil ถ้าถามถึงการพกพาทั้งหมดไม่ได้สร้างภาระจนเกินไป แต่จะใช้จริงได้แค่ไหนก็แล้วแต่คนแตกต่างกันไป

 

จอละเอียด สดใส เสียงดังสนั่นระดับ Dolby Atmos

หลุดจากเรื่องภายนอกจะเรื่องมีสาระไปแล้ว มาถึงเรื่องบันเทิงรื่นเริงจิตใจ เริ่มด้วยจออย่างที่เรารู้ไปแล้ว่าขนาด 11 นิ้ว แต่ที่ทำให้อึ้งก็คือความละเอียดของจอนี้คือระดับ 2.8K และมีอัตรารีเฟชสูงสุดถึง 144Hz รองรับทุกมาตรฐานความชัดเจนในโลกของการมองเห็น ไม่ว่าจะเป็น HDR10, Dolby Vision และ DCI-P3 นั่นดูแล้วเครื่องนี้มันไม่น่าจะราคาไม่ถึงหมื่นสามนะนี่

เรื่องเหล่านี้นอกจากจะสะท้อนไปที่การใช้ทำงานที่ถนอมสายตาและทำให้เวลาใช้งานไม่เหนื่อยล้ามากแล้ว การรองรับมาตรฐานทั้งหมดเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าแบรนด์ผู้ผลิตอย่าง Xiaomi นั้นใส่ใจกับการสรรหาคุณภาพของวัสดุที่นำมาประกอบ ส่วนตัวแล้วถ้าตัดประเด็นเรื่องของ OS และ Ecosystem ออกไปแล้ว นี่คืออุปกรณ์แบรนด์หนึ่งที่คุณภาพคับแก้วเลยทีเดียว

มาที่เรื่องเสียงด้วยลำโพง 4 จุดที่รองรับมาตรฐาน Dolby Atmos ทำให้คุณภาพของเสียงที่มาจากสื่อความบันเทิงต่างๆ นั้นทำออกมาได้ดีเกินกว่าที่คาดไว้ ซึ่งเอาเข้าจริงนี่ดีกว่า Laptop บางรุ่นที่แปะแบรนด์ว่าออกแบบคู่กับยี่ห้อ H แต่ก็แน่นอนคงยังสู้หลายๆ รุ่นระดับบน แต่สำหรับ Tablet ตัวนี้ถือว่าใช้ได้ในระดับ B+ หรือ A- เลยทีเดียว

ซึ่งมันก็ทำให้ส่งผลให้กับใครที่จะเอา Xiaomi Mi Pad6 นี้ไปใช้ในการเรียนหรือประชุมออนไลน์ละก็อย่างแรกต้องเชื่อว่าเสียงมันจะดังและชัดใสเอามากๆ บวกกับไมโครโฟนที่ออกแบบมาเพื่อการประชุมทางหน้าจอโดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากจะรับเสียงได้ดียังมีฟังก์ชันในการช่วยตัดเสียงจากตัวเครื่องให้ด้วย

พอมาถึงเรื่องของการประชุมหรือเรียนออนไลน์ จะไม่พูดเรื่องกล้องหน้าก็ไม่ได้นอกจากความชัดในระดับ8 ล้านพิกเซล ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันในการจัดภาพบุคคลให้อยู่กึ่งกลางหน้าจอ เรียกว่าไม่น้อยหน้าฝั่ง Apple ที่เขามีฟีเจอร์ Center Stage ใน iPad Air และ Pro

 

บทสรุปกับ Xiaomi Mi Pad6

บทสรุปของ Tablet ตัวนี้ก็คือ “คุ้มยังกับแฟลตปลาทอง” (รู้อายุคนเขียนรีวิวเลย) เพราะถ้าโจทย์ของคุณคืองบประมาณไม่เกิน 15,000 บาท ใน Setup ในการใช้งานจริง นี่คือตัวเลือกที่น่าสนใจ คู่เทียบที่อาจจะทำให้กวนใจอย่าง Huawei MatePad 11.5 ที่เปิดราคาพร้อมอุปกรณ์ครบทั้งปากกาและคีย์บอร์ดในงบเดียวกัน

แต่ก็อย่าลืมว่า ณ วันนี้อุปกรณ์ของ Huawei นั้นยังใช้งาน GMS Ecosystem ได้ไม่เต็มที่ ทำให้สำหรับใครที่ไม่ชำนาญทางเทคนิคมากอาจจะมีปัญหากับการลงมือเพื่อซิกแซก นั่นคือปัญหา

เรื่องหนึ่งที่ต้องทำใจก็คือ มันไม่มี Modem 4G หรือ 5G มาด้วยในตัว ทำให้ทุกครั้งที่เดินทางออกไปทำงานนั้นก็ต้องหาเครือข่าย WiFi ต่อด้วยตัวเอง แต่ด้วยราคานี้บวกกับเสปคขนาดนี้ก็เรียกว่าไม่ได้ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ เพราะถ้าด่วนจริงๆ ก็แชร์เน็ตจากมือถือได้

และตบท้ายด้วยการพกพาออกไปทำงานนอกสถานที่ ถือว่าสะดวกเพราะจุดประสงค์ของการนำมาใช้ก็คือใช้แทนสมุดจดข้อมูลเวลาออกไปประชุม หรือบางครั้งก็ใช้ในการตรวจเอกสารเร่งด่วนนั่นเอง

ถ้าวันนี้โจทย์คือการย่อขนาดของอุปกรณ์ทำงานให้เล็กลงและหยิบใช้งานได้ตลอดเวลา Xiaomi Mi Pad6 ถือเป็น Tablet ตัวเลือกอีกตัวที่น่าสนใจ ที่เริ่มแรกคือการหาอุปกรณ์ที่เอามาใช้รอให้รุ่นใหญ่ออกตัวใหม่ แต่ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นของติดมือไปใช้งานนานกว่าที่คิด

 

สำหรับผู้อ่านที่ชอบการรีวิว อุปกรณ์หรือ Gadget รุ่นใหม่ๆ ทางเรากำลังติดต่อกับทางเจ้าของผลิตภัณฑ์ อีกไม่นานจะมีรีวิวออกมาให้อ่านอีกมาก ส่วนที่เราเคยรีวิวไปแล้วสามารถอ่านได้ ที่นี่ 

Related Articles