Breaking News! รายงาน Pentagon UAP Report 2022 มาแล้ว…แต่? Give Me a Sci Season Finale ก็มาถึงจนได้
ที่เคยเกริ่นให้ท่านผู้อ่านทราบใน EP5 ถึงรายงานฉบับปี 2022 ที่เดิมหน่วยงานศึกษา UAP อย่างเป็นทางการของ Pentagon ที่ชื่อว่า AARO (All-domain Anomaly Resolution Office) ถูกกำหนดว่าจะต้องทำส่งรัฐสภาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2022 แต่ก็ล่าช้ามาเรื่อย ในที่สุด AARO ก็ส่งการบ้านแล้วเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2023 ที่ผ่านมานี่เองครับ พวกเราสามารถไปดาวน์โหลดมาอ่านกันได้แล้ว ที่นี่ แต่อย่างที่จั่วหัวไว้ว่ารายงานฉบับนี้น่าผิดหวัง (เพราะทุกฝ่ายที่ติดตามอยู่มีความคาดหวังสูง) เมื่อเทียบกับรายงานฉบับแรกเมื่อปี 2021 จากหน่วยงานเดิมที่เรียกว่า UAP Taskforce ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น AARO และมีการเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่ชุดใหม่ในปัจจุบัน
ต้องยอมรับว่ารายงาน UAP Report 2021 ฉบับแรกถือเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของโลก เพราะเป็นครั้งแรกที่กองทัพและรัฐบาลสหรัฐออกมายอมรับต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการว่า UAP เป็นเรื่องจริงและจำเป็นต้องมีการศึกษาอย่างจริงจัง โดยเนื้อหาในรายงานฉบับแรกนั้นดังกล่าวถือว่ามีความน่าสนใจน่าตื้นเต้นไม่น้อย โดยเฉพาะสมมติฐานข้อที่ว่า UAP อาจเป็น “Others” แม้จะเลี่ยงการใช้คำตรงๆ แต่ทุกฝ่ายทราบดีว่าคำว่า “อื่นๆ” ในที่นี้หมายถึง ต่างดาว (หรือแม้แต่ต่างมิติ!) นั่นเอง ต่อมาในรายงานฉบับลับ (Classified Report) ที่มีคนใช้ช่องกฎหมาย FOIA ไปขอสำเนาออกมาทำให้พวกเราพอเห็นเค้ารางข้อมูลเพิ่มเติม เช่น รูปร่างของ UAP และรายละเอียดพฤติกรรม UAP เหนือกฎฟิสิกส์ที่มนุษย์เข้าใจในปัจจุบัน เป็นต้น
เนื้อหาของรายงาน UAP Report 2022 ซึ่งส่งช้าเลยกำหนดไปถึงเกือบสามเดือนสรุปได้ดังนี้ครับ ในรายงานฉบับใหม่กล่าวถึงการรวบรวมการพบเห็น UAP จากเจ้าหน้าที่กองทัพจนถึงเดือนสิงหาคม 2022 พบกรณีใหม่จำนวนทั้งสิ้น 366 กรณี (รายงานจากเจ้าหน้าที่เท่านั้นไม่ศึกษาการพบเห็นของประชาชนทั่วไป) เพิ่มเติมจาก 144 กรณีในรายงานฉบับปี 2021 รวมเป็นทั้งสิ้น 510 กรณี โดยมีการกล่าวถึงเหตุผลที่จำนวนรายงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะทางกองทัพได้มีความพยายามเปิดช่องทางอย่างเป็นทางการ ให้เจ้าหน้าที่สามารถรายงานการพบเห็น UAP ได้ง่ายขึ้น จะไม่ถือเป็นเรื่องไร้สาระและไม่สนใจเช่นในอดีต ซึ่งจากทั้งหมด 366 กรณีที่รับรายงานใหม่นี้มี 26 กรณีพบว่าเป็นประเภทโดรน (Unman Aircraft System = UAS) มี 163 กรณีพบว่าเป็นประเภทบอลลูน มี 6 กรณีพบว่าเป็น “Airborne Clutter” (เช่นเศษถุงพลาสติกลอยมาหรือกลุ่มนก) และเหลืออีก 171 กรณีใหม่ที่ยังไม่สามารถจัดกลุ่มและอธิบายไม่ได้
มีข้อสังเกตเล็กน้อยใน APPENDIX A ของรายงานฉบับ 2022 นี้เขียนไว้ชัดเจนว่าหน่วยงาน AARO ได้รับคำสั่งว่า “Not later than 31 October 2022, and annually thereafter until 31 October 2026, the Director, in consultation with Secretary, shall submit to the appropriate congressional committees a report on unidentified aerial phenomena.” แต่รายงานฉบับแรกของ AARO ก็ส่งช้าเลยเส้นตายไปสองเดือนกว่า! แถมไม่มีข่าวว่าทีม AARO ได้รับการคาดโทษจากความล่าช้านี้หรือไม่
ในรายงานมีการกล่าวถึงความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นต่อไปกับหน่วยงานภายนอกอื่นๆ เช่น FAA (Federal Aviation Administration) และ NASA มีการกล่าวถึงความกังวลเรื่องความปลอดภัยด้านการบินจากความเป็นไปได้ที่แครื่องบินจะเกิดการเฉี่ยวชนกับ UAP แม้จะยังไม่พบรายงานการชนกันดังกล่าว และความกังวลด้านสุขภาพของเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์พบเห็น UAP แบบใกล้ชิด ซึ่งก็ยังไม่มีรายงานอีกเช่นกันแต่ก็ยอมรับว่าปัญหาเรื่องสุขภาพอาจจะไม่พบในทันที คณะทำงานต้องคอยติดตามศึกษากันต่อไป… จบรายงานแค่นี้ครับ! โดยรวมแล้วเหมือนลอกการบ้านมาจากฉบับแรกไม่มีเนื้อหาสำคัญอะไรใหม่นัก … ถ้าเราเป็นอาจารย์สอบวิทยานิพนธ์นี่ จะให้คะแนนเท่าไหร่ดี?!? ในรอบนี้ดูเหมือนว่าไม่มีใครพยายามใช้ช่องกฎหมาย FOIA เพื่อไปขอล้วงเวอร์ชั่นลับ Classified Report ออกมาเพราะดูแล้วไม่น่าคุ้มค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายและความยุ่งยากในการเดินเรื่องติดตามเอกสารราชการ
หนึ่งบอลลูนจารกรรมจีนกับสาม UFO?
ท่านผู้อ่านน่าจะเห็นข่าวล่าสุดที่กองทัพสหรัฐตรวจพบและสอยบอลลูนจารกรรมของจีน เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2023 กันบ้างแล้วนะครับ กรณีนี้สะท้อนให้เราเห็นได้ชัดเจนว่า การแยกแยะว่าอันไหนคือบอลลูนที่ธรรมชาติลอยนิ่งหรือเคลื่อนที่ตามลมไม่ยากเลย ฝ่าย Pentagon ยิงปุ๊บรีบตีข่าวพร้อมปล่อยภาพบอลลูนชัดแจ๋ว มีข้อสังเกตุที่น่าสนใจคือปกติบอลลูนจารกรรมของจีนลูกนี้มีขนาดใหญ่ถึง 200 ฟุต (ประมาณ 60 เมตร) และปกติบอลลูนประเภทนี้จะลอยอยู่ที่ความสูงเหนือกว่าระดับเครื่องบินโดยสารทั่วไปบินอยู่มาก
ไม่กี่วันต่อมา ก็มีข่าวว่า Pentagon สอย UFO ได้อีกสามกรณีในสามวันและสามสถานที่แตกต่างกัน โดยลอยอยู่ในระดับความสูงประมาณเดียวกับการบินพลเรือนซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อเครื่องบิน ทางกองทัพจึงใช้เป็นเหตุผลในการต้องสอยให้หมดด้วยจรวดลูกละ 4 แสนเหรียญ จนถึงวันที่เขียนบทความนี้ทางประธานาธิบดี Joe Biden แถลงว่าสามกรณีหลังไม่ใช่บอลลูนจีนแน่นอน แต่ยังบอกไม่ได้ว่ามันเป็นอะไร โดยก่อนหน้ามีข่าวออกมาเป็นระยะๆ ว่านักบินรายงานว่าวัตถุลึกลับมีลักษณะเป็นโลหะมีรูปร่างแปดเหลี่ยมขนาดประมาณรถยนต์คันเล็กและมีหนึ่งกรณีมีรูปร่างเป็นทรงกระบอก
ล่าสุด ชมรมบอลลูน Northern Illinois Bottlecap Balloon Brigade ของประเทศสหรัฐแจ้งว่าบอลลูนของพวกเขาที่ชื่อว่า Pico Balloon KD9UQB ที่ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ม้วนเป็นทรงกระบอกได้หายไปจากระบบติดตามเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2023 มีความเป็นไปได้ว่าหนึ่งในสาม UFO อาจเป็นบอลลูนดังกล่าว ส่วนที่เหลือยังไม่มีเอกชนหรือหน่วยงานไหนออกมาอ้างความเป็นเจ้าของแต่อย่างใด
ทาง Pentagon เองก็ออกมาพูดแบบกลางๆ ว่าต้องไปเก็บซากมาศึกษาก่อนและยังไม่ตัดความเป็นไปได้เรื่อง UFO แต่คาดว่าน่าจะเป็นวัตถุอุปกรณ์ทดลองของเอกชนหรือหน่วยงานไหนสักแห่ง ถึงตอนนี้อาจจะเก็บซากได้ครบหมดแล้วแต่จงอย่าแปลกใจว่าข่าวนี้จะเงียบไป เพราะถ้าหนึ่งในนั้นเป็น Pico Balloon จริง ฝั่งรัฐบาลเสียหน้าแน่ และต่อให้อีกสองอันที่เหลือเป็น UFO จริง เชื่อว่ารัฐบาลก็จะเก็บเงียบอยู่ดี
ที่มา : GOP mocks Biden for shooting down possible $12 hobby balloon (nypost.com)
ทีมอเวนเจอร์ TTSA สลายตัวแล้วแยกย้ายไปทำงานเบื้องหลัง
จากบทความเดิมใน EP6 เราได้รู้จักทีม TTSA (To The Stars Academy of Arts & Sciences) ที่มีหัวหน้าทีมคือนาย Tom DeLonge หัวหน้าวงดนตรี Blink-182 กันไปแล้ว ทั้งนี้ TTSA ถือเป็นคณะบุคคลที่ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ UFO/UAP ของโลกอย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่ประมาณช่วงปี 2017 เป็นต้นมา มีหลายอย่างที่ Tom และคณะได้ทำเสร็จไปแล้ว เช่น ซีรี่ย์สารคดีหลายตอนจบเรื่อง Unidentified ใน History Channel รวมถึงการออกสัมภาษณ์สื่อต่างๆ มากมาย มีทั้งตัว Tom เองและสมาชิกสำคัญในทีมอีกสองคน Luis Elizondo และ Chris Mellon โดยทั้ง Luis และ Chris นี้ถือว่าโดดเด่นเรื่องการออกสื่อกระแสหลักและสำนักข่าวทีวี เพราะทั้งสองคนมีบุคลิกจริงจังแบบนักการทหารและนักการเมือง (ที่เค้าเป็นอยู่แล้ว) แตกต่างจาก Tom ที่มีบุคลิกแบบนักดนตรีร็อคห่ามๆ ฮาๆ ชัดเจน เขาไม่ค่อยได้รับการเชิญไปให้สัมภาษณ์เรื่อง UAP ออกสำนักข่าวปกติทั่วไปอย่าง CCN, NBC เลยซึ่งดูเหมือนว่าเขาก็รู้ตัวดี ในการให้สัมภาษณ์หลายครั้งตามช่อง Podcast และ YouTube ที่มีความเป็นทางการหน่อย เค้ามักจะดึง Luis หรือ Jim Semivan (เป็นอดีต CIA) เข้ามาร่วมให้สัมภาษณ์ด้วย
นอกจากนั้น Tom ยังออกหนังสือนิยายอิงข้อมูลจริงด้าน UAP/UFO โดยออกเป็นซีรีย์หนังสือชื่อว่า SEKRET MACHINES ซึ่งผู้แต่งหนังสือเป็นตัว Tom DeLonge คู่กับนักเขียนตัวจริงอีกสองคน ซึ่งหนังสือเล่มแรกๆ นี่แหละที่ Tom เล่าว่าไปสะดุดตาหน่วยงานความมั่นคงจนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่พาเขาไปสู่วง UAP ใน Pentagon หนังสือซีรีย์นี้มีหลายเล่มท่านผู้อ่านที่สนใจสามารถสั่งซื้อจาก Amazon ได้โดยตรง มีทั้งแบบเป็นเล่มกระดาษและเป็น Kindle e-book ครับ ในระยะหลังก็มีข่าวว่า Tom พยายามวิ่งขายลิขสิทธิ์ให้คนนำหนังสือ SEKRET MACHINES ไปสร้างเป็นภาพยนต์อีกด้วย พวกเราก็คอยติดตามกันต่อไปนะครับ
ถึงจุดนี้ดูเหมือนว่า Tom ได้ทำหลายอย่างที่เคยขายไอเดียท่านนายพลใน Pentagon ไปเกือบหมดแล้ว สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง เช่นยานต้นแบบ Anti-Gravity (ทำให้เราไม่ได้เห็นบทบาทของ Dr.Hal Puthoff และ Steve Justice ในนาม TTSA เลย) แต่บางอย่างก็สร้างการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องโดยเฉพาะการทำงานของ Chris Mellon และ Luis Elizondo ที่แม้ทั้งสองไม่ได้เกี่ยวข้องกับ TTSA แล้วในปัจจุบัน แต่ก็ยังทำงานเบื้องหลังอยู่ คาดกันว่าความสำเร็จในการผลักดันกฎหมายอภัยโทษที่จะเริ่มมีผลใช้ปีนี้ (ย้อนกลับไปดูรายละเอียดใน EP5) ให้เจ้าหน้าที่ผู้กำความลับเรื่อง UAP/UFO ออกมาให้ข้อมูลแก่คณะกรรมการที่มีอำนาจได้โดยไม่มีความผิด น่าจะมีส่วนมาจากความพยายามล็อบบี้และให้ข้อมูลของทั้งสองคนนี้ อนึ่งกฎหมายไม่ได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ออกมาบอกข้อมูลลับแก่สื่อสาธารณะนะครับ อย่าเข้าใจผิด
ในช่วงหลังนี้ดูเหมือนว่าตัว Tom เองเริ่มอิ่มตัวเรื่อง UAP และคงจะพบว่าทำอะไรเพิ่มเติมไม่ได้มากแล้ว เมื่อเริ่มว่างจึงหันกลับไปรวมวง Blink-182 และออกเพลงใหม่ออกทัวร์คอนเสิร์ตอีกครั้ง แม้ล่าสุด TTSA ยังมีงานเบื้องหลังรับจ้างกองทัพ “ศึกษาเศษชิ้นส่วนโลหะปริศนา”
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน!
ที่น่าประหลาดใจคือการให้สัมภาษณ์เรื่อง UAP ของ Tom ในช่วงปีหลังๆ จะสังเกตได้ว่าข้อมูลเชิงลึกที่เขารับทราบมาจากวงใน Pentagon หลายเรื่องเริ่มก้ำกึ่งระหว่างแนววิทยาศาสตร์กับแนวจิตวิญญาณและเทพเทวา! โดยเขาพูดในหลายๆ การให้สัมภาษณ์ว่าข้อมูลที่เขาได้มาคือพวก UAP เหล่านี้อาจไม่ได้มาจากดาวดวงไหนแต่อาจอยู่ในอีกมิติหนึ่งและอยู่ที่โลกนี้มานานแล้วก่อนมนุษย์! ไม่ว่าเทพเจ้ากรีก เทพเจ้าฮินดู หรือเทพเทวา (รวมถึงปีศาจและซาตาน) ในศาสนาคริสต์หลายองค์ อาจเป็นสิ่งเดียวกันเพียงแต่ถูกตีความและบอกเล่าโดยมนุษย์ต่างเชื้อชาติต่างวัฒนธรรมกันในสมัยอดีตกาล!! กองทัพพบว่าสิ่งเหล่านี้ชอบปั่นให้มนุษย์ทำสงครามกันมาตั้งแต่บรรพกาล (อันนี้มันแนวคิดแบบพวกทหารชัดๆ)!!! การค้นพบความจริงเรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองและเริ่มสงครามเย็นโดยยานที่พบตกที่ Roswell นั้น แท้จริงแล้วเป็นยานของกลุ่ม Nazi ย่อยที่แยกตัวหนีไปฐานลับแถวขั้วโลกใต้ ซึ่งได้รับการช่วยเหลือด้านเทคโนโลยี UFO จากผู้ทรงภูมิปัญญาต่างมิติ (เทพ) เพื่อให้มนุษย์ก่อสงครามกันไปเรื่อยๆ!!!! การโกหกว่าเหตุการณ์ Roswell เป็นมนุษย์ต่างดาวยังง่ายกว่าการยอมรับความจริงว่าเป็น Nazi ที่พึ่งแพ้สงครามไปแต่มีเทคโนโลยีล้ำหน้ากว่าสหรัฐยุคนั้นมากและการที่กองทัพพยายามทำทุกอย่างเพื่อปกปิดความจริงเล่านี้ถือว่าชอบธรรมแล้ว!!!!! ถึงตรงนี้ขอท่านผู้อ่านอย่าพึ่งรีบด่วนตัดสินใจเชื่อหรือไม่เชื่อครับ อยากให้ลองเปิดใจค้นคว้าข้อมูลเรื่อง Nazi UFO และ Operation Highjump ดูก่อน เชื่อว่าท่านผู้อ่านส่วนใหญ่น่าจะมีแนวคิดคล้ายกันคือ Skeptic but Open Minded ถ้าอยากฟังจากปาก Tom DeLonge โดยตรงแนะนำให้ไปฟังกันได้ ที่นี่ ครับ ดูแล้วน่าจะพอเห็นภาพว่าทำไมสำนักข่าวกระแสหลักไม่เชิญเขาไปสัมภาษณ์ออกทีวีบ้าง
ทศวรรษแห่งการเผยความจริงเรื่อง UFO/UAP เริ่มขึ้นแล้ว!
ถ้าฟังข้อมูลจากมุมของ Tom DeLonge แล้วเหมือนพวกเราจะวิ่งเป็นวงกลม เมื่อการศึกษาเรื่อง UAP ที่พวกเราส่วนใหญ่เริ่มด้วยความเป็นวิทยาศาสตร์แบบหนังไซไฟวัตถุบินลึกลับจับต้องได้พร้อมมนุษย์ต่างดาวตัวเป็นๆ มาจากดวงดาวอันไกลโพ้น แต่ยิ่งศึกษาลึกลงไปแล้วเรื่องกลับหักมุมกลายเป็นเกี่ยวกับเรื่องจิตวิญญาณเรื่องเทพไปได้! สมมติว่าสิ่งที่ Tom ได้รับรู้มาเป็นความจริงทั้งหมด ลองคิดกันเล่นๆ ว่าถ้าเราเป็นเจ้าหน้าที่ AARO นี่เครียดเลย มองไปทางไหนก็ยังไม่เห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ เพราะถ้าเป็นแนวผู้ทรงภูมิปัญญาต่างดาวจะให้เราศึกษาเรื่อง UAP ได้แค่ไหนถ้าเราไม่มียานจริงๆ ที่ตกมาพร้อม ET แบบที่ลือกันว่ากองทัพไปเก็บกู้มาได้มาให้วิเคราะห์ (หรือว่ามีแต่ไม่บอก?!?) จะให้กองทัพไปไล่จับก็หนีไปได้ทุกครั้ง และยิ่งเป็นแนวผู้ทรงภูมิปัญญาต่างมิติสามารถบินเข้าออกระหว่างมิติมนุษย์ปกติแบบเรากับมิติที่สูงกว่าขึ้นไปได้นี่ยิ่งเครียดใหญ่ จะให้ศึกษายังงัย? สงสัยพวกเราต้องแนะนำให้ทีม AARO มาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านต่างมิติที่ประเทศไทยซะแล้ว!
อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากหลายปัจจัยและเหตุการณ์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะกฎหมายอภัยโทษที่กล่าวถึงในบทความตอนก่อน มีความเป็นไปได้สูงว่าปี 2023 นี้อาจจะเป็นการเริ่มต้นของทศวรรษแห่งการเปิดเผยความจริงเรื่อง UFO/UAP สู่สาธารณะอย่างมีนัยสำคัญแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนก็เป็นไปได้นะครับ
Down the Rabbit Hole … เหรียญมีสองด้านเสมอ
ผมเชื่อว่าสังคมข่าวสารที่เริ่มเปิดกว้างเสรีมากในยุคนี้ประกอบกับภาคเอกชนแบบ Space X อีกไม่นานจะเริ่มได้ออกไปสำรวจดวงจันทร์เองโดยอิสระไม่มีกองทัพและ NASA มาบังคับควบคุม อาจจะทำให้ Elon Musk ได้ค้นพบและเปิดเผยความจริงเรื่องฐานทัพลับ (ของ ET และ/หรือ Nazi?!?) บนดวงจันทร์ ซึ่งนี่อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลให้ต้องรีบผลักดันการเปิดเผยความจริงเรื่อง UAP ในช่วงนี้ก็ได้ ที่สำคัญเราอาจจะพบว่าดาวโลกเป็นเหมือนจุดพัก (ยาน) ของทั้งต่างดาวและต่างมิติในบริเวณนี้ของกาแล็กซี่ทางช้างเผือกของเราก็เป็นได้ ถ้าพิจารณาในมุมต่างดาวนักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันคาดว่ากาแล็กซี่ทางช้างเผือกมีดาวฤกษ์คล้ายดวงอาทิตย์อยู่ประมาณแสนล้านดวงและในเอกภพนี้มีประมาณแสนล้านกาแล็กซี่! และท่านผู้อ่านที่ติดตามพัฒนาการด้านทฤษฎีฟิสิกส์ควอนตัมล่าสุดคงเคยได้ยินที่มีนักฟิสิกส์หลายคนเสนอไอเดียว่า Consciousness (จิตสำนึก) อาจจะเป็นจุดตั้งต้นของการมีอยู่ของจักรวาลนี้!
สุดท้ายความจริงเรื่อง UAP อาจเป็นทั้งเรื่องวิทยาศาสตร์และเรื่องจิตวิญญาณคู่กันเหมือนเหรียญที่ต้องมีสองด้านเสมอ!
Remark : Why this is Give Me a Sci Season Finale?
Tong DeLom นักเขียนเรื่องจากนอกโลกได้ส่งสัญญาณกับทางกอง บก. Innomatter.com มาว่า ขอปิด Season 1 ของ Give Me a Sci ไว้ก่อน ด้วยภารกิจอันหนาแน่นจนไม่สามารถปลีกตัวในการล้วงแคะ แกะเกา ข้อมูลใหม่ๆ เพื่อการนำเสนอที่สดใหม่สำหรับท่านผู้ติดตามได้
แต่เจ้าตัวสัญญาว่า หากภารกิจเบาลงจะกลับมานำเสนอเรื่องวิทยาศาสตร์ที่ยังคงเป็นปริศนาให้หลายคนได้รู้ เฉกเช่นที่ Agent Fox Molder จากหน่วย X-Files ได้กล่าวไว้ตลอดว่า “The Truth is Out There” เพราะความจริงมีอยู่สักที่เสมอ แล้วเจอกันเมื่อถึงเวลา
สามารถติดตามอ่านซีรียส์ Give Me A Sci ย้อนหลัง ได้ ที่นี่
