Fortinet ย้ำชัดต้องสร้างความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยให้ Operation Technology

Secure Operational Technology Summit 2023 Fortinet ยังคงย้ำความสำคัญในการก้าวเข้าไปเสริมความแข็งแกร่งให้ Operation Technology
Share

 

จากงานสัมมนา Secure Operational Technology Summit ของภูมิภาคเอเชีย Fortinet ยังคงย้ำความสำคัญในการก้าวเข้าไปเสริมความแข็งแกร่งให้ เทคโนโลยีในกระบวนการผลิต ที่เป็นเบื้องหลังในการผลิตเชิงอุตสาหกรรม หลังพบแนวโน้มการโจมตีที่อาจพาไปสู่การหยุดชะงักของสายการผลิตหลักได้

 

เมื่อกล่าวถึงเทคโนโลยีที่มีคอมพิวเตอร์เกี่ยวข้อง ในมุมมองของคนส่วนใหญ่มักจะคิดหรือมองเห็นภาพของ เทคโนโลยีสารสนเทศหรืออะไรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอยู่กับทางด้านของการดำเนินธุรกิจ ไม่ค่อยมีการนึกถึงอีกด้านของการนำไปใช้กับโลกของฝ่ายผลิต หรือคนก็มักจะเรียกมันว่า Operation Technology หรือเทคโนโลยีด้านการผลิต หรืออะไรก็แล้วแต่

ถามว่าทำไมถึงเป็นเช่นนนั้น ก็ไม่แปลกหลอกที่คนมักจะเข้าใจว่าโลกของ Operation Technology นั้นอยู่คนละฝากโลกกับ Information Technology เพราะที่ผ่านมาหลายสิบปีนั้นเทคโนโลยีด้านการผลิตนั้นมักจะเป็นโลกปิดทุกอย่างเป็นเรื่องของการไม่มีอะไรที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับโลกภายนอกได้มากนัก ข้อมูลใดๆ ก็ตามที่จะออกมาจากฝ่ายการผลิตนั้นไม่ค่อยสามารถเรียกออกมาดูได้แบบ Realtime เพราะฉันนั้นคือเทคโนโลยีเฉพาะที่ใครก็จะมาเข้าถึงโดยง่ายไม่ได้

 

Secure Operational Technology Summit ชี้

Digital Transformation เปลี่ยนทำให้โลกทั้งสองชนกัน

การมาของความเปลี่ยนแปลงที่สร้างให้โลกนั้นต้องแข่งขันกันด้วยความรวดเร็ว และยังต้องสามารถมีและเรียกหาและหยับจับข้อมูลไปใช้ได้กับทุกภาคส่วนของธุรกิจ ได้รวดเร็ว ฉับไว ทันเวลา นั้นกลายเป็นเรื่องที่ธุรกิจไม่ว่าใหญ่หรือน้อยต่างถูกขับดันให้ต้องมีความสามารถนี้อยู่ในองค์กร ไม่ว่าคุณนั้นจะพร้อมที่จะทำหรือไม่

Fortinet ให้ความเห็นทางด้านการป้องกันภัยคุกคามยุคใหม่เบื้องต้นในงานสัมมนา ระดับภูมิภาคเอเชียโดย Joe Sarno หัวหน้าฝ่าย Operation Technology และ รองประธานฝ่ายขายตลาดเกิดใหม่และภูมิภาคเอเซียแปซิฟิคและญี่ปุ่น ของ Fortinet ให้ความเห็นว่า Digital Transformation นั้นเป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้วันนี้ Operation Technology กลายเป็นหนึ่งอีกพื้นที่สำคัญ ที่ไม่ใช่แค่คำนึงถึงการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ด้วยเทคโนโลยีพื้นๆ อย่างที่เข้าใจกัน

Joe Sarno หัวหน้าฝ่าย Operation Technology และ รองประธานฝ่ายขายตลาดเกิดใหม่และภูมิภาคเอเซียแปซิฟิคและญี่ปุ่น ของ Fortinet“วันนี้ Operation Technology คือสนามสำคัญที่ภัยคุกคามนั้นตั้งเป้าหมายในการโจมตี เพราะในวันนี้เหล่าผู้ไม่หวังดีเริ่มมองเห็นและมีความสามารถมากพอที่จะจู่โจมเข้าถึงระบบทางด้านการผผลิตได้แล้ว โดยอาศัยการเปลี่ยนแปลงยุคใหม่ที่เริ่มมีการนำเอาเทคโนโลยีการเชื่อต่อของโลก IT ไปใช้ ทำให้เป็นเรื่องง่ายที่ความรู้ที่ไม่เคยเข้าถึงได้เมื่อหลายสิบปีก่อนสามารถเข้าถึงได้แล้วด้วยประตูที่เปิดขึ้น”

Joe Sarno ยังชี้ให้เห็นถึงประเด็นต่อเนื่องไปอีกว่า กว่า 30 ปีที่แล้ว Operation Technology มีระบบการเชื่อมต่อและเทคโนโลยีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นของตัวเอง เรียกว่าเป็นระบบปิดที่แม้กระทั่งหากคุณใช้เทคโนโลยีการผลิตจากคนละบริษัทก็ป่วยการที่จะนำเอาสองระบบเชื่อมต่อเพื่อทำงานร่วมกันได้อย่างง่าย

พูดง่ายๆ ก็คือว่าหากมองกลับมาที่ IT บนเทคโนโลยีการผลิตนั้น มันไม่ได้มี TCP/IP เป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ ไม่ได้มี EDI (electronic data interchange) ให้เป็นมาตรฐานสำหรับแต่ละผู้ผลิตเทคโนโลยีมาใช้ ทุกบริษัทต่างพัฒนาของตัวเองซึ่งก็ต่างบอกว่าดีที่สุดและดีกว่าของแบรนด์อื่นๆ

ความเปลี่ยนแปลงที่สร้างปัญหา แต่รู้เหตุย่อมเกิดปัญญาและสร้างประโยชน์ได้

แม้ว่าการเกิด Digital Transformation นั้นจะสร้างผลกระทบเชิงปัญหาให้กับสิ่งที่เคยเป็นกับ OT แต่ดูเหมือนมันจะเป็นแค่เหตุแห่งปัญญานำไปสู่การแก้ไขนำไปสู่ประโยชน์ที่มากมายมาหาศาลในอนาคต เพราะในทางที่เรานั้นก็เห็นแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ทำให้เกิดการสอดประสานร่วมกันระหว่าง Information Technology และ Operation Technology อย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน

“แม้ว่าเราจะรู้ว่าความเสี่ยงที่ต้องแบกรับมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อมีระบบจากฝ่าย Operation Technology หรือจากฝ่ายผลิตเข้ามาดูแลเพิ่มขึ้น แต่ในระยะยาวนั้นหากสามารถแก้ไขและป้องกันปัญหาได้อย่างครบถ้วนทุกจุดที่อาจจะเกิดขึ้นได้แล้ว ภาพรวมขององค์กรนั้นก็คือการมีระบบเดียวที่ให้ทั้งประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ บริหาจัดการได้ทั้งฝั่งบริหารและการผลิตสินค้า อีกฝ่ายที่จะสามารถทำงานได้อย่างมีความสุขคือหน่วยงานด้านไอทีนั่นเอง”

 

ซึ่งตรงกับ Will Nelson หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยระบบสารสนเทศระบบ Operation Technology ของ Fotinet ที่บอกว่า “ในอนาคตจะมีอุปกรณ์ IoT เข้ามาอยู่ในระบบของ OT มากขึ้น แม้ว่าจะเกิดความซับซ้อนขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่การสร้างระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพมากพอนั้น จะช่วยแก้ปัญหาใดๆ ที่จะเกิดขึ้น และที่สำคัญก็คือองค์กรธุรกิจนั้นจะสามารถเรียกประสิทธิภาพจากระบบโดยรวมมากขึ้น ยกระดับขีดความสามารถของการขยายธุรกิจในการตอบรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีขอบเขตน้อยลง”

ระบบที่ครอบคลุม คือทางออกสำหรับ IT และ OT

ผู้บริหารทั้งสองของ Fortinet ให้ความเห็นในเรื่่องของการวางแผนและสร้างระบบป้องกันและคุ้มครองภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่สามารถดูแลได้ทั้งระบบ IT และ OT ในทำนองเดียวกันไว้ว่า องค์กรนั้นต้องมองหาโซลูชันหรือระบบป้องกันที่สามารถจัดการหรือทำหน้าที่ดูแลได้ทั้งระบบ IT และ OT ได้ในเวลาเดียวกัน

Joe Sarno ให้ความเห็นไว้น่าสนใจ “แม้ว่าวันนี้องค์กรของคุณจะเดินหน้าเข้าสู่ Digital Transformation หรือไม่ แต่การดึงเอา Operation Technology เข้ามาใกล้กับฝ่ายบริหารธุรกิจก็คงยังจะเกิดขึ้นอยู่ดี แม้ว่าฝ่ายการผลิตของคุณจะไม่ได้มีการซื้อเทคโนโลยีด้านการผลิตใหม่มาใช้ แต่ความพยายามที่จะทำให้ข้อมูลทุกอย่างไหลเข้าสู่ระบบ IT ก็ยังคงเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้น”

“ทำให้การเตรียมพร้อมในวันนี้ก็ควรเกิดขึ้นหรือมันก็จะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน การวางแผนที่ดีหรือเตรียมการไว้ก่อนก็เป็นเหมือนการเตรียมรับมือที่ควรพร้อมเอาไว้”

ด้าน Will Nelson ให้ไอเดียว่า “คุณจะแปลกใจเมื่อวันหนึ่งพบว่ามีจำนวนของอุปกรณ์ IoT ในฝั่งผลิตเกิดขึ้นมาก คำถามที่คุณต้องรีบคิดก็คือจะควบคุมพวกมันได้อย่างถูกต้องเหมาะสมอย่างไร การมีระบบที่พร้อมทั้งในแง่ของการป้องกันและจัดการเรื่องของภัยคุกคามไซเบอร์ที่ครอบคลุม นั่นคือโจทย์สำคัญและคือคำตอบที่คุณต้องตอบให้ได้”

 

สำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจข่าวสารและบทความที่เกี่ยวข้องกับ ความปลอดภัยไซเบอร์ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Related Articles