ครั้งแรกในประเทศไทย ในการตั้งศูนย์ฝึกอบรมเฉพาะทางด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เน้นที่การฝึกและเรียนรู้ในทุกระดับ
Cloudsec Asia จับมือ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ลงนามความร่วมมือจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรม CalCes บุกเบิกปั้น 2 หลักสูตรความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
บริษัท คลาวด์เซค เอเซีย จำกัด และ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม จัดพิธีลงนามความร่วมมือจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรม CalCes บุกเบิกเปิดหลักสูตรปริญญาโทด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Master of Science in Professional Cybersecurity) และหลักสูตรระยะสั้นด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Short Courses) สำหรับผู้บริหาร ตั้งเป้าผลิตบุคลากรผู้เชี่ยวชาญปฏิบัติงานได้จริง ป้อนองค์กรภาครัฐและเอกชน พร้อมเปิดศูนย์ความปลอดภัยไซเบอร์ช่วยเหลือสังคม ห่างภัยคุกคามทางไซเบอร์
นายกฤษณยศ บูรณะสัมฤทธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาวด์เซค เอเชีย จำกัด กล่าวว่า คลาวด์เซค เอเซีย เป็นผู้นำในการให้บริการด้านความปลอดภัยสารสนเทศ และเทคโนโลยีโซลูชัน และเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ของประเทศไทยตลอดมา โดยมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้านระบบคลาวด์ และนวัตกรรมโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัย
ซึ่งปัจจุบัน ความสำคัญของความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity) เกี่ยวข้องกับการปกป้องข้อมูลและระบบสารสนเทศจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่สามารถก่อให้เกิดความเสียหายได้ทั้งในระดับบุคคล องค์กร หรือแม้กระทั่งระดับชาติ นี่คือเหตุผลที่ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ความร่วมมือครั้งนี้จะสามารถผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพในด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์เข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีแนวโน้มจะขาดแคลนสูงอย่างต่อเนื่อง จึงต้องการสร้างความแตกต่างในการผลิตบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ให้สามารถปฏิบัติงานในภาคอุตสาหกรรมได้จริง เนื่องจากบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ยาวนานในด้านการรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์
จึงสามารถสนับสนุนหลักสูตรที่ทันยุคสมัยและวิทยากรจากสถาบันฝึกอบรมด้านไซเบอร์ระดับนานาชาติ รวมถึงสามารถเชื่อมโยงวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามกับหน่วยงานและองค์กรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งความร่วมมือนี้จะทำให้หลักสูตรปริญญาโทมหาบัณฑิตสาขาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม
สามารถทำงานได้อย่างมืออาชีพ รวมถึงหลักสูตรระยะสั้นด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ สำหรับผู้บริหาร มีความแข็งแกร่ง สามารถผลิตบุคลากรที่ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี
“โครงการนี้มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนวัยทำงาน หรือนักศึกษาที่เรียนจบในสาขาที่เกี่ยวข้อง และครอบคลุมบุคลากรที่จบในสาขาอื่น แต่มีภาระหน้าที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญต่างๆ อาทิ เจ้าหน้าที่การเงิน การบริหารทรัพยากรบุคคล การสื่อสารภายในองค์กร การบริหารงานลูกค้าสัมพันธ์ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจในการบริหาร หรือปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัยจากภัยไซเบอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ จากความร่วมมือครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยเพิ่มบุคลากรที่มีความสามารถปฏิบัติงานได้จริง โดยเพิ่มความเชี่ยวชาญ สร้างบุคลากรความมั่นคง ส่งเสริมองค์กรและภาคธุรกิจ กระจายแนวคิดความมั่นคงปลอดภัย และสร้างชุมชนความมั่นคง โดยช่วยสร้างชุมชนที่มีความรับผิดชอบทางสังคมและวงการธุรกิจในการปกป้องและรับมือกับภัยคุกคามด้านไซเบอร์ต่อไป” นายกฤษณยศ กล่าว
CalCes ความร่วมมือเพื่อพัฒนา คน ด้านไซเบอร์
ด้าน ผศ.พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช อธิการบดี วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม กล่าวว่า วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามมุ่งมั่นที่จะสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และสามารถปฏิบัติงานในภาคอุตสาหกรรมได้จริง วิทยาลัยฯ จึงได้จัดทำข้อตกลงกับบริษัท คลาวด์เซค เอเซีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับสากล และมีผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ที่ครอบคลุมการทำงานทั่วเอเชียแปซิฟิก
ทั้งคลาวด์เซค เอเชีย และวิทยาลัยฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการผลิตบุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมได้จริง โดยในปี 65 เราได้ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่ทันสมัยและสอดรับกับเทคโนโลยีแห่งอนาคต มุ่งเน้นในการผลิตบุคลากรที่สามารถนำความรู้ไปปฏิบัติงานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นผู้ปฏิบัติงานในบริษัทต่างๆ เจ้าของกิจการ หรือนักวิชาการ
ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรม ณ ชั้น 11 ของอาคารโครนอส สาทร โดยมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 250 ตารางเมตร ประกอบด้วยห้องฝึกอบรม ห้องแล็บที่ทันสมัย ห้องประชุมสัมมนา รวมถึงพื้นที่เล้าจ์ที่โอ่อ่าและกว้างขวาง นอกจากนี้ ศูนย์ฝึกอบรมนี้ยังสามารถรองรับการจัดสัมมนาวิชาการในสาขาอื่นๆ ที่เป็น Top-Tier สำหรับผู้เข้าสัมมนาทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย
“ประเทศไทยยังไม่เคยมีหลักสูตรความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่มุ่งเน้นที่ภาคปฏิบัติอย่างจริงจังมาก่อน และจากการขาดแคลนบุคลากรสาขานี้อย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่มีคุณภาพ สามารถสร้างความแตกต่างจากสถาบันอื่นได้อย่างชัดเจน และเชื่อมั่นว่าหลักสูตรนี้จะเป็นที่สนใจของอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก” ผศ.พรพิสุทธิ์ กล่าว
ดร.วารินทร์ แคร่า (Dr. Varin Khera) ผู้อำนวยการ Calces Lab กล่าวว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cybersecurity Threats) เป็นสถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีภาวะที่สามารถทำให้เกิดความเสียหายหรือความเสี่ยงต่อข้อมูล ระบบสารสนเทศ หรือการให้บริการด้านไอทีต่างๆ ได้ ภัยคุกคามทางไซเบอร์เป็นผลมาจากการกระทำของผู้ไม่ประสงค์ดีที่มุ่งหวังทำลาย ขโมยข้อมูล หรือแทรกแซงลงในระบบที่ไม่ได้รับอนุญาต
“ภัยคุกคามทางไซเบอร์ประกอบด้วย ไวรัสและมัลแวร์ (Viruses and Malware): โปรแกรมความเสี่ยงสูงที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายข้อมูลหรือรบกวนการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์, การโจมตีด้วยการฟิชชิ่ง (Phishing Attacks): การล่อให้ผู้ใช้ในระบบกรอกข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน หรือข้อมูลบัตรเครดิตโดยการปลอมตัวเป็นแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ, การโจมตีด้วยการปฏิเสธบริการ (Denial-of-Service Attacks): การทำให้ระบบหรือเครือข่ายไม่สามารถให้บริการได้โดยการเขียนโปรแกรมทำให้เกิดการรบกวนที่มีประสิทธิภาพ, การละเมิดข้อมูล (Data Breaches): การเข้าถึงหรือโจมตีระบบเพื่อขโมยหรือทำลายข้อมูลที่สำคัญ, การแทรกแซงข้อมูล (Data Interception): การดักรับข้อมูลที่ถูกส่งผ่านเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, ซอฟต์แวร์ที่มีช่องโหว่ (Software Vulnerabilities): การใช้ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์เพื่อทำลายหรือเข้าถึงข้อมูล”
“ด้วยเหตุที่ภัยคุกคามไซเบอร์เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเทคโนโลยี ศูนย์ฝึกอบรมแห่งนี้จึงเข้ามาเสริมความเป็นเลิศด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้ประเทศไทย โดยบุกเบิกวงการผสมผสานความรู้วิชาการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์กับการใช้งานจริง และพร้อมกำหนดนิยามใหม่ให้กับการศึกษาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในประเทศไทย โครงการนี้ จึงนับได้ว่าเป็นความร่วมมือที่จะพลิกโฉมวงการการศึกษาของประเทศเลยทีเดียว” ดร.วารินทร์ กล่าว
หลักสูตรเน้น 3 กลุ่ม
เป้าหมายของหลักสูตรที่ครอบคลุมความรู้ด้านความมั่นคลปลอดภัยไซเบอร์ในกลุ่มบุคคลากร 3 กลุ่มหลัก กลุ่มแรกคือผู้คนทั่วไปที่ในวันนี้จำเป็นต้องมีความรู้ในระดับเบื้องต้นในเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์ ซึ่งรวมถึงพนักงานส่วนใหญ่ที่อยู่ในองค์กรต่างๆ
“ทุกวันนี้เวลาที่เกิดการโจมตี เป้าหมายหรือการโจมตีก็จะเกิดที่คน” กฤษณยศ กล่าว และเสริมว่า “ในต่างประเทศปัจจุบันกลายเป็นเรื่องมาตรฐานที่พนักงานในองค์กรจะต้องผ่านการอบรมและวัดความรู้ในเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์นี้ทุกๆ ปี ถ้าไม่ผ่านเรื่องเหล่านี้ก็จะมีผลในการประเมินผลการทำงาน เพราะถ้าคนทำงานเหล่านี้ไม่พร้อมหากเกิดการโจมตีความเสียหายต่อธุรกิจจะมีมูลค่ามหาศาล”
กลุ่มที่สองก็คือบุคคลากรที่ทำงานทางด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ซึ่งปัจจุบันไม่เฉพาะในประเทศไทยที่บุคคลากรทางด้านนี้ขาดแคลนแต่หมายถึงทั่วโลก และยังสะท้อนไปถึงในประเทศไทยที่ธุรกิจขนาดเล็กและกลางไม่สามารถจ้างพนักงานทางด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ไว้ในองค์กรเนื่องจากมีคนน้อยและมีอัตราจ้างที่แพงมาก ทำให้การผลิตบุคคลากรกลุ่มนี้คือสิ่งที่อุตสาหกรรมต้องการอย่างมาก
โดยหลักสูตรและเนื้อหาที่จะได้เรียนรู้ใน CalCes นั้นจะเป็นเนื้อหาของเรื่องความมั่นคงปลอดภัยด้านไซเบอร์ในระดับสากล นั่นหมายถึงการนำเอาองค์ความรู้จากบริษัทในอุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์ระดับโลกที่เป็นพันธมิตรกับทาง คลาวด์เซค เอเซีย มาเปลี่ยนเป็นเนื้อหาการเรียนที่เข้มข้น เพื่อให้ทุกคนที่ผ่านหลักสูตรนี้สามารถทำงานได้จริง
และกลุ่มสุดท้ายก็คือ ผู้บริหารธุรกิจ ที่ในวันนี้จำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องของความปลอดภัยไซเบอร์เช่นกัน เพราะโลกธุรกิจวันนี้ความปลอดภัยไซเบอร์ถือเป็นหัวข้อสำคัญที่ธุรกิจนั้นต้องเข้าใจ และสามารถจัดการและมีความเข้าใจทั้งก่อนและหลังถูกโจมตี โดยองค์ความรู้จะถูกคัดสรรในสิ่งที่ผู้บริหารต้องเรียนรู้และเข้าใจโดยเฉพาะ
สำหรับท่านที่ติดตามข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยไซเบอร์ ต่างๆ สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ ที่นี่