5 Misconceptions to Accelerate Green Development

Huawei ชวนคนทั้งโลกแก้ไข 5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการพัฒนาสีเขียว
Share

 

Huawei ชวนคนทั้งโลกแก้ไข 5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการพัฒนาสีเขียว

 

Huawei เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Huawei Day 0 Green Forum ภายใต้หัวข้อ Lighting up the Future ในฐานะผู้นำการประชุม Mobile World Congress 2022 ณ เมืองบาร์เซโลนา ดร.ฟิลิป ซอง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของหัวเว่ย แคเรียร์ (Huawei Carrier) ขึ้นกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการพัฒนาสีเขียว” ซึ่งระบุว่า “การพัฒนาสีเขียวกลายเป็นคำติดปาก เช่นเดียวกับกลศาสตร์คลาสสิกของนิวตัน ไปจนถึงทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ วิวัฒนาการของมันจะวนเวียนอยู่ในระหว่างความเข้าใจผิดและความจริง เราต้องก้าวข้ามความเข้าใจผิดทั้ง 5 ประการโดยเร็วที่สุด เพื่อเร่งดำเนินการพัฒนาสีเขียวของอุตสาหกรรม ICT”

ประการแรก อุตสาหกรรม ICT มีส่วนทำให้เกิดการปล่อยคาร์บอนเพิ่มขึ้น รายงาน SMARTer2030 ของโครงการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมโลก (GeSI) ระบุว่า คาดว่าอุตสาหกรรม ICT จะคิดเป็นเพียง 1.97% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกภายในปี 2573 ที่สำคัญกว่านั้น อุตสาหกรรมอื่นคาดว่าจะลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนลง 20% ด้วยการใช้เทคโนโลยี ICT ซึ่งมีปริมาณรวมมากกว่าถึง 10 เท่าของการปล่อยคาร์บอนของอุตสาหกรรม ICT ค่าการการลดคาร์บอนไดออกไซด์นี้เรียกว่า Carbon handprint

ขนาดของมันทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้าน ICT มีความสำคัญมากขึ้นในยุทธศาสตร์ระดับชาติ โดยคาดการณ์ว่าข้อมูลขนาด 1 ยอตตะไบต์ (1 ล้านล้าน เทราไบต์) ทั่วโลกจะถูกจัดเก็บบนคลาวด์ภายในปี 2573 ซึ่งหมายความว่าสามารถลดการปล่อยปริมาณคาร์บอนได้ 150 ล้านตันต่อปี หากโครงสร้างพื้นฐานในปัจจุบันมีเทคโนโลยีการส่งข้อมูลแบบออปติกทั้งหมดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ค่าการลดคาร์บอนไดออกไซด์จะมีปริมาณจะเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 200 ล้านต้น ซึ่งมากพอที่จะครอบคลุมพื้นที่ทั่วทวีปยุโรป

ประการที่ 2: การมุ่งเน้นการปล่อยมลพิษในห่วงโซ่อุปทานมากเกินไป โดยมองว่าเป็นสาเหตุที่ใหญ่ที่สุดของการปล่อยคาร์บอนสำหรับอุปกรณ์เครือข่าย ตามที่ดร.ซองอธิบายระหว่างการนำเสนอ หากดูวงจรชีวิตทั้งหมดของอุปกรณ์เครือข่าย มีการปล่อยคาร์บอนเพียง 2% เท่านั้นในระหว่างการผลิต ขณะที่อีก 80-95% เกิดขึ้นระหว่างการใช้งาน หลักสำคัญในการลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรม ICT คือการนำเทคโนโลยีที่เปี่ยมนวัตกรรมมาใช้พัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

ประการที่ 3: มันเป็นเรื่องของเทคโนโลยีพลังงานสีเขียวเท่านั้น แม้ว่าการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมจะมีความสำคัญต่อการพัฒนาสีเขียวในอุตสาหกรรม ICT แต่การปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงานของเครือข่ายเทเลคอมอย่างเป็นระบบก็สร้างประโยชน์ได้มหาศาลเช่นกัน ดังนั้น โซลูชันสีเขียว 3 ระดับ “Green Site, Green Network และ Green Operation ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายบรรลุเป้าหมาย “More Bits, Less Watts”

ประการที่ 4: ประสิทธิภาพด้านพลังงานของเครือข่ายคือผลรวมของการใช้พลังงานของอุปกรณ์ทั้งระบบ การประเมินประสิทธิภาพพลังงานของชุดอุปกรณ์เพียงชุดเดียว ย่อมไม่เพียงพอสำหรับการวางแผนตามสถานการณ์และการตัดสินใจดำเนินโครงการก่อสร้างได้อย่างครอบคลุม ทำให้ต้องมีระบบตัวบ่งชี้แบบมาตรฐาน (NCI) ที่เป็นแบบอย่างเดียวกัน เพื่อให้สามารถประเมินและกำหนดนโยบายประหยัดพลังงานได้อย่างแม่นยำสำหรับทั้งเครือข่าย

ประการที่ 5: การประหยัดพลังงานไม่ควรส่งผลต่อประสิทธิผลการทำงานของเครือข่ายในด้านใด ๆ เลย ความเป็นจริงคือฟีเจอร์พลังงานต่าง ๆ นั้นส่งผลกระทบต่อตัวชี้วัดเครือข่าย อย่างไรก็ตาม เราสามารถนำฟีเจอร์เหล่านี้มาปรับใช้ด้วยการลดอัตราสูงสุดและตัวชี้วัดอื่น ๆ โดยไม่ส่งผลต่อประสบการณ์ของผู้ใช้จริง  5

 

innomatter

innomatter

ข่าวไอที นวัตกรรม พลังงาน และความยั่งยืน

Related Articles