ท่าอากาศยานนานาชาติ อู่ตะเภา และ AIS จับมือพัฒนา ระบบอาคารผู้โดยสารอัจฉริยะ

ท่าอากาศยานนานาชาติ อู่ตะเภา ระยอง-พัทยา และ เอไอเอส ผนึกกำลังต่อเนื่อง พัฒนา Smart Terminal นำร่องเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
Share

 

ท่าอากาศยานนานาชาติ อู่ตะเภา ระยอง-พัทยา และ AIS ผนึกกำลังต่อเนื่องพัฒนา อาคารผู้โดยสารอัจฉริยะ นำร่องเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

 

ท่าอากาศยานนานาชาติ อู่ตะเภา ระยอง-พัทยา ร่วมกับ AIS นำเทคโนโลยีดิจิทัล พัฒนา อาคารผู้โดยสารอัจฉริยะ เพื่อสนับสนุนการพัฒนา ระบบคมนาคมขนส่ง ด้วยนวัตกรรมใหม่ ต่อเนื่อง ช่วยเสริมการพัฒนาให้เป็นท่าอากาศยานนานาชาติเชิงพาณิชย์ที่ทันสมัย ในช่วงก่อนการสร้างและเปิดใช้อาคาร 3 ให้เป็นสนามบินเชิงพาณิชย์ลำดับแห่งที่ 3 ของกรุงเทพมหานครในอนาคต ที่จะเชื่อมโยงการขนส่งผู้โดยสารและสินค้ากับสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ ตามแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC) หนึ่งในแผนยุทธศาสตร์สำคัญภายใต้นโยบาย Thailand 4.0

โดยล่าสุดได้มีการลงนาม MOU ความร่วมมือต่อเนื่องในการนำดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาและเสริมขีดความสามารถของท่าอากาศยานอู่ตะเภา เพื่อยกระดับบริการอย่างเต็มรูปแบบ ตอบสนองกับนโยบายของภาครัฐ ในการเป็นประตูหน้าด่านในการเปิดประเทศ ส่งเสริมทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ขนส่ง คมนาคม ให้แข็งแกร่ง โดยได้รับเกียรติจาก พลเรือเอกวรพล ทองปรีชา ผู้อำนวยการ การท่าอากาศยานอู่ตะเภา และคุณศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าฝ่ายงานผลิตภัณฑ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ กลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส ร่วมลงนาม

Smart Terminal เทคโนโลยีคมนาคมขนส่ง ด้วยนวัตกรรมใหม่

“การท่าฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการร่วมมือกับภาคเอกชนในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่สร้างสรรค์ด้วยคนไทย เข้ามายกระดับการให้บริการและการบริหาร ท่ากาศยานอู่ตะเภาให้ทันสมัย เป็นอาคารผู้โดยสารอัจฉริยะ อันสอดคล้องตามแนวนโยบายดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม (Digital Economy) ของรัฐบาล ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล เพื่อช่วยต่อยอดท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินพาณิชย์แห่งที่ 3 ของกรุงเทพมหานคร ที่เป็นส่วนหนึ่งของแผนงานเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เชื่อมโยงการขนส่งผู้โดยสารกับสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเป็น Aviation Hub ในภูมิภาคนี้” พลเรือเอก วรพล ทองปรีชา ผู้อำนวยการ การท่าอากาศยานอู่ตะเภา กล่าว

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ความร่วมมือระหว่าง การท่าอากาศยานอู่ตะเภาฯ และ เอไอเอส เป็นไปอย่างดียิ่ง ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่สร้างสรรค์ด้วยขีดความสามารถของคนไทยเข้ามายกระดับการให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกและมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศให้แก่ผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถด้านการรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพการบริหารอาคาร ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุด ดังนั้นแม้ว่าจะประสบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในช่วงที่ผ่านมา เกิดการชะลอตัวของการเดินทางทางอากาศ แต่การทำงานร่วมกันในช่วงที่ผ่านมาก็ไม่เคยหยุด

อันถือว่าเป็นการช่วยทำให้เราได้มีโอกาสเตรียมความพร้อมได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นในโอกาสของการลงนาม MOU เพื่อทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ เท่ากับเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ของทั้ง 2 หน่วยงานเข้าด้วยกันในการสร้างความมั่นคง แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมการบิน ที่ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักในการเปิดประตูเศรษฐกิจของประเทศ และเมื่อผนวกรวมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานหลักด้านดิจิทัลจากเอไอเอสแล้ว ก็เชื่อมั่นได้ว่า จะเป็นการทำให้พื้นที่แห่งนี้มีศักยภาพที่เต็มเปี่ยมในการรองรับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในภาคตะวันออกตามแผนงานของประเทศได้อย่างแน่นอน

“ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล – Digital Life Service Provider นอกเหนือจากมอบบริการด้านสื่อสารที่ดีที่สุดแก่คนไทยแล้ว สิ่งที่เราให้ความสำคัญคือ การพัฒนาประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพเพื่อสนับสนุนความแข็งแกร่งของประเทศในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)  ที่เป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจประเทศครั้งใหญ่ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเอไอเอส ภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากการท่าอากาศยานอู่ตะเภาฯ ที่ให้โอกาสเราเข้ามามีส่วนร่วมในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเพื่อยกระดับการให้บริการ และการบริหารจัดการ อาคารผู้โดยสาร ของท่าอากาศยานอู่ตะเภาอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง” นายศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าฝ่ายงานผลิตภัณฑ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ กลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าว

Smart Terminal เป็นรูปแบบของการร่วมกันศึกษาและทดลองใช้เทคโนโลยี 5G และ หุ่นยนต์ AI เพื่อยกระดับการให้บริการท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ให้เป็นอาคารผู้โดยสารอัจฉริยะ รวมไปถึงการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ ตลอดจน Application ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวและบุคลากรของการท่าอากาศยาน เพื่อให้สถานที่แห่งนี้พร้อมยกระดับด้วยนวัตกรรมดิจิทัลที่ทันสมัยล่าสุดให้กับภาคธุรกิจการบินของไทยต่อไป

เกี่ยวกับ AIS

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้นำด้าน Digital Life Service Provider อันดับ 1 ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1420 MHz และมีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดกว่า 45.5 ล้านเลขหมาย (ณ มิถุนายน 2565) พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ที่ครบ 77 จังหวัดแล้วเป็นรายแรกผ่าน 3 สายธุรกิจ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่, อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS Fibre และบริการดิจิทัล 5 ด้าน ได้แก่ วิดีโอ คลาวด์ ดิจิทัลเพย์เมนท์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ตลอดจนขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ อาทิ AIS eSports, AIS Insurance Service ทั้งหมดนี้เพื่อสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศขยายขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม และยกระดับ คุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกัน พบกับเราได้ที่ www.ais.th

สามารถติดตามข่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ AIS ได้ ที่นี่ 

innomatter

innomatter

ข่าวไอที นวัตกรรม พลังงาน และความยั่งยืน

Related Articles