ครอบครัวยุคใหม่หมดกังวลกับภาวะร่างกายขาดแคลเซียม กับทางเลือกใหม่อย่าง Yahee Calcium water

Share

 

ปัญหาเรื่องภาวะร่างกายขาดแคลเซียมนับเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทย กระทรวงสาธารณสุขได้มีการเปิดเผยข้อมูลว่าคนไทยมีความเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุนถึง 90% ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากที่ร่างกายขาดแคลเซียมส่งผลให้กระดูกบางลง ทำให้เปราะหักง่าย เนื่องจากสาเหตุร่างกายได้รับแคลเซียมในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ต่อทุกเพศทุกวัย

นอกจากนี้ข้อมูลยังพบว่าคนไทยอายุ 70 ปีขึ้นไป เป็นโรคกระดูกพรุนมากกว่า 50% โดยพบในเพศหญิงถึง 35% มากกว่าเพศชายถึง 20% นอกจากนี้ยังพบด้วยว่าคนไทยมีแนวโน้มว่าอายุเฉลี่ยของผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุนจะลดลงทุกปี ปัจจุบันภาวะกระดูกบางหรือกระดูกพรุน สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย เนื่องจากพฤติกรรมการทานอาหาร หรือ การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป นับเป็นปัญหาด้านสุขภาพของคนไทยที่ถดถอยลงเรื่อย ๆ

นายแพทย์ สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท โอสถสภา ยันอี เบฟเวอเรจ

นายแพทย์ สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท โอสถสภา ยันอี เบฟเวอเรจ ระบุสาเหตุของภาวะร่างกายขาดแคลเซียมไว้ว่า “แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อร่างกายมนุษย์เรามากที่สุดเมื่อเทียบกับแร่ธาตุชนิดอื่น แคลเซียมอยู่ในร่างกายเราถึง 98% ในส่วนของกระดูก มีผลต่อการสร้างมวลกระดูกที่แข็งแรง ไปจนถึงระบบประสาทที่มีผลต่อการพัฒนาสมองของคนเรา และที่สำคัญร่างกายไม่สามารถผลิตแคลเซียมได้เอง ต้องมีการบริโภคอาหารที่มีแคลเซียมเข้าไปให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย”

ไม่ใช่แค่เด็กหรือผู้สูงอายุเท่านั้นที่ต้องการแคลเซียม สำหรับคนทั่วไป ร่างกายต้องการแคลเซียมในปริมาณเฉลี่ยที่ 1,000 มิลิกรัมต่อวันเพื่อนำมาใช้ทดแทนแคลเซียมที่สูญเสียไปในแต่ละวัน เราสามารถเลือกรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมได้จาก ข้าวโอ๊ต คะน้า บล็อกโคลี่ กุ้งแห้ง เพื่อให้ได้ปริมาณแคลเซียมตามที่ร่างกายต้องการ หากแต่ว่าพฤติกรรมการใช้ชีวิตในปัจจุบันส่งผลให้เราไม่สามารถทานอาหารหลักที่ได้ปริมาณแคลเซียมครบตามที่ร่างกายต้องการ

สำหรับหญิงที่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ หรือ ตั้งครรภ์ ร่างกายจะต้องการปริมาณแคลเซียมในปริมาณที่มากกว่าคนทั่วไป ปริมาณเฉลี่ยที่ต้องการ 1,500 มิลิกรัมต่อวัน เพื่อให้ทารกสามารถนำแคลเซียมไปใช้ในการสร้างตั้งแต่ระบบประสาท กระดูก กล้ามเนื้อ และฟันในทารก อีกทั้งยังเสริมสร้างความสมบูรณ์ของเซลล์ ที่ควบคุมระบบการทำงานของหัวใจ ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดในร่างกายของทารก รวมถึงหัวใจและระบบประสาทของทารกก็ใช้แคลเซียมด้วย อีกทั้งยังเสริมสร้างสติปัญญาของทารกในครรภ์
หากคุณแม่มีแคลเซียมไม่เพียงพอต่อความต้องการของทารก ทารกจะดึงแคลเซียมสะสมของคุณแม่ไปใช้ ส่งผลให้แคลเซียมสะสมของคุณแม่น้อยลง อาจทำให้เกิดช่วงนี้ก็ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน

วิธีการที่ดีที่สุด คือ การกินอาหารที่มีประโยชน์ให้หลากหลายครบ 5 หมู่  และรับประทานแคลเซียมเสริม เพื่อให้ร่างกายได้รับปริมาณแคลเซียมที่เพียงพอเหมาะสมกับความต้องการของแต่ละช่วงวัย แต่ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตและข้อจำกัดของแต่ละบุคคลทำให้การเลือกรับประทานอาหารไม่หลากหลายและเพียงพอ ส่งผลให้ร่างกายได้สารอาหารไม่ครบถ้วน รวมไปถึงในบางคนมีอาการแพ้อาหารบางชนิด จึงมีความจำเป็นต้องหาวิธีการชดเชยแร่ธาตุที่ขาดไปมาทดแทน”

ทพญ. สุชาวดี สัมฤทธิวณิชชา กรรมการบริหาร บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ จำกัด และบริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ

ทพญ. สุชาวดี สัมฤทธิวณิชชา กรรมการบริหาร บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ จำกัด และบริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ  กล่าวว่า “การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง, การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือ แอลกอฮอล์ เป็นปัจจัยที่ขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมและส่งเสริมให้มีการขับแคลเซียมออกจากร่างกาย ดังนั้น การรักษาระดับการบริโภคอาหารให้สอดคล้องกับระดับแคลเซียมที่ร่างกายต้องการจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก และเพื่อทดแทนแคลเซียมที่สูญเสียไปในแต่ละวัน การเลือกรับประทานแคลเซียมเสริมควบคู่กับวิตามินดีจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น”

นอกจากนี้แคลเซียมยังสำคัญกับเด็กในวัยเจริญเติบโต เด็กที่มีภาวะร่างกายไม่สูง หรือร่างกายหยุดพัฒนา นับเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความกังวลใจให้กับพ่อ แม่ ผู้ปกครอง และอาจส่งผลต่อความมั่นใจกับเด็กในวัยนี้ด้วยเช่นกัน เมื่อต้องพบปะผู้คน หรือ พบปะเด็กในช่วงวัยเดียวกันที่สูงกว่า ปัจจุบันผู้ปกครองจึงให้ความสำคัญกับการเลี้ยงดูบุตรหลาน เพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโตและมีโอกาสสูงอย่างต่อเนื่อง

“เด็กแต่ละช่วงวัยมีความต้องการแคลเซียมในการเสริมสร้างการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน เด็กอายุไม่เกิน 3 ปี ต้องการแคลเซียมวันละประมาณ 200 – 700 มิลลิกรัม และ เด็กที่มีอายุ 3-10 ปี ต้องการแคลเซียมวันละประมาณ 600 – 800 มิลลิกรัม ในวัยรุ่นที่ร่างกายกำลังเติบโตร่างเต็มที่นั้น ร่างกายมีความต้องการแคลเซียมถึงวันละ 1,300 มิลลิกรัมต่อวัน ทั้งนี้ การใช้ชีวิตประจำวันในเด็ก เช่น การวิ่ง หรือ การกระโดด ทำให้กระดูกข้อต่อเสียดสี เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สูญเสียแคลเซียมไปได้ การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ก็จะช่วยในเรื่องของการเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง ทั้งนี้ควรทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และการพักผ่อนที่เพียงพอ เพราะโกรทฮอร์โมน ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของความสูงในเด็กที่อยู่ในวัยเจริญเติบโต

ปัจจุบันได้มีผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเสริมแคลเซียมที่มีประสิทธิภาพในการช่วยเพิ่มแคลเซียมให้กับร่างกายในปริมาณที่เพียงพอได้ อย่างน้ำดื่ม ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์ นวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภค ช่วยเสริมสร้างแคลเซียมให้กับร่างกายที่อยู่ในรูป Organic Salt นั่นก็คือ Calcium Glycerophosphate ที่เป็นสารอินทรีย์ที่ร่างกายเรามีความคุ้นเคย ซึ่งทำให้สามารถดูดซึมนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า มากกว่า Calcium carbonate ถึง 4 เท่า รสชาติดีกว่าอีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสดชื่น และสามารถดื่มทดแทนน้ำเปล่าได้

ทำไม “Calcium Glycerophosphate”  จึงเป็นนวัตกรรมที่ล้ำหน้าและมีประสิทธิภาพได้ถึงเพียงนั้น ? นั้นก็เพราะว่า Calcium Glycerophosphate  มีความสามารถในการละลายที่ดีมากทั้งในกระเพาะอาหารและในลำไส้เล็ก เนื่องจากมีโครงสร้างเป็นแบบ Chelate’s complex structure ซึ่งมีความแข็งแรงและช่วยให้แคลเซียมไม่แตกตัวในกระเพาะอาหารที่มีสภาพเป็นกรดและสามารถผ่านเข้าสู่ลำไส้เล็กที่มีสภาพเป็นด่างได้จนถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด แตกต่างจากแคลเซียมในรูปแบบอื่น ๆ ที่มักจะเกิดการแตกตัวในกระเพาะอาหารและจะตกตะกอนในลำไส้เล็กทำให้เกิดการดูดซึมที่น้อยกว่า

นอกจากนี้ยังพบว่า Calcium Glycerophosphate ยังสามารถถูกดูดซึมเข้ากระดูกได้ดี เนื่องจากสัดส่วนของแคลเซียม เท่ากับ 1:3 ซึ่งเป็นสัดส่วนเดียวกันกับในกระดูก และร่างกายสามารขับออกมาทางปัสสาวะ ทำให้ไม่มีปัญหาตกค้างของแคลเซียม ที่อาจทำให้เกิดนิ่วหรือกระดูกงอกได้ เพราะว่าเป็น Calcium Organic ที่ดูดซึมได้ดี

ฟังข้อมูลจากคุณหมอแล้ว ลองมองหาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเสริมแคลเซียม Yanhee Calcium Water ที่มีระบบควบคุมการผลิตสินค้าเพื่อให้มีคุณภาพ มีมาตรฐานต่าง ๆ ให้การรองรับ มีการวิจัยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปัญหาด้านสุขภาพโรคกระดูกพรุนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยน้ำยันฮีแคลเซียม 1ขวด ให้แคลเซียมสูงถึง 200 มิลลิกรัม หากมีอาการแพ้นมหรือแพ้แลคโตส ก็เสริมแคลเซียมได้ เพราะไม่มีแลคโตสผสม ไม่มีน้ำตาล แคลลอรี่ สามารถดื่มได้ทุกวันได้ทุกวัย คุณแม่ตั้งครรภ์ก็สามารถดื่มได้ โดยเด็กที่มีอายุตั้งแต่ ขวบขึ้นไป 

โดยทาง ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์ ได้มี โครงการเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง” กับปฏิบัติการร่วมทดลองดื่ม ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์” น้ำแคลเซียมเจ้าแรกในประเทศไทย พร้อมพิสูจน์บริบท โรคกระดูกพรุนคือภัยเงียบ ทานแคลเซียมป้องกันได้ เป็นงานวิจัยที่มีโครงการอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะช่วยให้คนไทยมีมวลกระดูกที่แข็งแรงต่อไป

Related Articles