เบื้องหลังแมทช์ประวัติศาสตร์ รักบี้สมานฉันท์ แมนเดลา

Credit : www.nelsonmandela.org
Share

 

“เนลสัน แมนเดลา” บุคคลที่กลายเป็น Icon ของการต่อต้านการแบ่งแยกสีผิว ถึงแม้วันนี้โลกจะสูญเสียบุคคลสำคัญท่านนี้ไปแล้ว แต่ความตั้งใจและมุ่งมั่นในการลดการแบ่งแยกยังถูกสืบทอดจนถึงปัจจุบัน

 

ถ้าพูดถึงกีฬาที่มีบทบาทโดดเด่นทางการเมือง และเป็นจดจำในระดับโลกโดยมากจะนึกถึง “การทูตปิงปอง” การแข่งขันปิงปองระหว่างสองมหาอำนาจในช่วงต้นปี พ.ศ.2513 เพื่อเปิดสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและอเมริกาเป็นครั้งแรก

แต่ถ้าเป็นประเด็นของการสมานฉันท์ ที่ได้รับการโจษจันจนโลกต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์คือ การแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกครั้งแรกในทวีปแอฟริกา ในยุคที่มีประธานาธิบดีผิวสีคนแรกที่ชื่อ “เนลสัน แมนเดลา”

เนลสัน แมนเดลา เกิดเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2461 ที่มเวโซซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในแคว้นทรานส์คีย์ ประเทศแอฟริกาใต้ เป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียม เป็นที่จดจำในฐานะรัฐบุรุษผู้มีความกล้าหาญ และศรัทธาอย่างแรงกล้า เป็นแรงบันดาลใจของนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลก เช่น มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์, โรซา ปาร์คส์ นักต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองในสหรัฐอเมริกา ในปี 2552 องค์การสหประชาชาติกำหนดได้ให้วันที่ 18 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันเนลสันแมนเดลาสากล (Nelson Mandela International Day) โดยชาวแอฟริกาใต้ และผู้คนทั่วโลกจะรำลึกถึงการอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือคนยากจน และทำสิ่งดีๆให้กับสังคมของเขา

ตลอดชีวิตวัยหนุ่มของแมนเดลาเติบโตภายใต้การเหยียดสีผิว เขาร่วมก่อตั้งสันนิบาตเยาวชนพรรค ANC ซึ่งเป็นแกนนำการประท้วงนโยบายแบ่งแยกสีผิวหลายต่อหลายครั้ง เป็นเหตุให้เขาถูกจองจำอยู่ในเรือนจำนานถึง 27 ปี และเมื่อได้รับการปล่อยตัวแมนเดลาได้รับการเลือกตั้ง และก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของประเทศแอฟริกาใต้

กระนั้น สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างคนผิวสีและคนผิวขาวไม่เพียงไม่ได้ลดน้อยลง กลับทวีความรุนแรงขึ้น แมนเดลาจึงได้นำแนวความคิดเรื่องกีฬามาเป็นเครื่องมือในการรวมคนในแอฟริกาใต้ให้เป็นหนึ่งเดียว โดยมีแรงบันดาลใจจากสิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากเรือนจำที่เกาะรอบเบ็น (Robben)

เล่ากันว่าในระหว่างที่แมนเดลาเป็นนักโทษการเมือง เขาช่วยจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลในพื้นที่ของนักโทษขังเดี่ยว จนเขากลายเป็นแฟนกีฬา (นักโทษ) ตัวยง แต่สุดท้ายผู้คุมกลั่นแกล้งด้วยการสร้างกำแพงกั้นระหว่างนักโทษขังเดี่ยวกับนักโทษทั่วไป

แมนเดลาเคยให้สัมภาษณ์ถึงประสบการณ์การเชียร์ฟุตบอลในเรือนจำว่า “กีฬาเป็นมากกว่าเกมการแข่งขัน แต่ช่วยสร้างความหวังในพื้นที่อันสิ้นหวัง กีฬาช่วยให้เรารู้สึกมีชีวิตชีวาอีกครั้ง”

Credit ภาพ : https://www.history.com/

เชื่อกันว่านี่คือจุดเริ่มต้นให้แมนเดลาผลักดันให้แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพรักบี้โลกปี 1995 และฟุตบอลโลกปี 2010

ประเด็นคือ “รักบี้” กีฬาที่เขาเลือกเป็นเครื่องมือสร้างความสมานฉันท์ให้กับชาวแอฟริกัน ณ ขณะนั้นเป็นกีฬาสำหรับคนขาว ไม่แปลกที่คนผิวสีเกลียดทั้งกีฬา คนเล่น และทีมชาติรักบี้ของเขา

แมนเดลาเลือกที่จะให้อภัยกับสิ่งที่เคยถูกกระทำ และยังสนับสนุนรักบี้ทีมชาติแอฟริกาใต้ เขาใส่ชุดสีเขียวและหมวกที่มีสัญลักษณ์ทีม พร้อมเชิญชวนให้คนผิวสีหันมาร่วมเชียร์ทีมชาติของพวกเขาเอง เพราะนี่คือเกียรติยศของชาติ ภายใต้แนวคิด “One Team One Country”

แมทช์แรกแอฟริกาใต้เอาชนะออสเตรเลียแชมป์เก่าไป 27-18 จุด ก่อนจะเอาชนะฝรั่งเศสได้ในรอบรองชนะเลิศด้วยสกอร์ 19-15 จุด ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

ขณะที่เกมการแข่งขันที่ค่อยทวีความเข้มข้นขึ้น เริ่มเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงประการหนึ่ง คนผิวสีเริ่มเดินเข้าสนามร่วมเชียร์ทีมชาติแอฟริกาใต้ในการสู้ศึกรอบชิงชนะเลิศ

เช้าวันที่ 24 มิถุนายน 1995 ที่เอลลิส พาร์ก สเตเดียม ในโจฮันเนสเบิร์ก ชาวแอฟริกันแต่งชุดเขียว โบกธงชาติด้วยความหวังเต็มเปี่ยมที่จะได้เห็นชัยชนะของทีมชาติเหนือทีมนิวซีแลนด์ ออลแบล็ก

80 นาทีของการแข่งขัน ทั้งสองทีมเสมอกัน 12-12 จุด ทำให้ต้องตัดสินกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ ที่สุดทีมแอฟริกาใต้คว้าแชมป์โลกรักบี้ได้สำเร็จ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ด้วยคะแนน 15-12 จุด ท่ามกลางเสียงตะโกนเชียร์อย่างกึกก้องทั้งสนาม

กัปตันทีมฟรังซัวร์ พินาร์ ให้สัมภาษณ์ระหว่างการถ่ายทอดสดในการแข่งขันที่ได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ครั้งนี้ว่า “ชาวแอฟริกาไม่ได้มีแค่ 65,000 คนในสนาม แต่เรามีกัน 43 ล้านคน”

รักบี้สมานฉันท์เป็นเพียงหนึ่งในความงอกงามจากประสบการณ์ในเรือนจำที่เกาะรอบเบ็น ยังมีสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ข้อกำหนดเนลสันแมนเดลลา” (The Nelson Mandela Rules) เพื่อส่งเสริมสิทธิผู้ต้องขัง การรณรงค์ต่อต้านโรคเอดส์โดยระดมทุนผ่านโครงการ 46664 ซึ่งตั้งตามชื่อหมายเลขนักโทษของเขา เป็นต้น

…เพราะคุกขังได้เพียงกาย แต่ไม่สามารถขังความคิดและจิตวิญญาณของการต่อสู้เพื่อสิทธิเท่าเทียมกันของเขาได้-เนลสัน แมนเดลา วีรบุรุษประชาธิปไตยและความเท่าเทียม.

rabbit2themoon

rabbit2themoon

คอลัมนิสต์หน้าไม่ใหม่ เคยพำนักอยู่ใต้ชายคามติชน ประจำกอง บก.นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ก่อนขยับมาเป็นผู้สื่อข่าวเซ็กชั่นประชาชื่น เขียนสัมภาษณ์บุคคล-สกู๊ปเชิงไลฟ์สไตล์-ท่องเที่ยว-อาหาร-จิปาถะ สถานะปัจจุบัน นอกจากเป็นคอลัมนิสต์ ยังเป็นนักเขียนอิสระ เขียนบทความเชิงประชาสัมพันธ์

Related Articles