เทรนด์ความยั่งยืน มาแรง กระแทกใจ “Gen Z”

Share

 

เทรนด์ความยั่งยืน มาแรง กระแทกใจ “Gen Z”

 

ชั่วโมงนี้ ใครไม่อยากตกกระแส ให้รีบจ้ำเท้าวิ่งตามความยั่งยืน โดยเฉพาะแบรนด์ต่างๆ เพราะวันนี้ ผู้บริโภครุ่นใหม่เริ่มส่งสัญญาณถึงความใส่ใจเรื่องนี้กันมากขึ้น

ความยั่งยืน คือหนึ่งในคุณค่าสำคัญที่คู่ควรกับมนุษย์ทุกคนบนโลก เพราะทำให้เราอยู่ดีมีสุข ร้อนตามฤดู หนาวตามฤดู ไม่ใช่หนาวในฤดูร้อน หรือร้อนในฤดูหนาว  เพราะความเหวี่ยงของอากาศที่แปรปรวนจากโลกร้อน รวมถึงช่วยให้หลีกเลี่ยงภัยพิบัติต่างๆ ไม่มากก็น้อย

สรรพสิ่งและภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งเล็กและใหญ่ ได้พิสูจน์แล้วว่า “ความยั่งยืน” ไม่ใช่เรื่องเก๋ๆ ที่คนแค่พูดเพื่อให้ดูดี หรือเพื่อให้แบรนด์ดูมีคุณค่ามากขึ้น เพราะวันนี้ กระแสสังคมหลักในทั่วโลก ต่างเทความสำคัญไปที่การสร้างความยั่งยืน เพื่อเยียวยาสิ่งแวดล้อม สังคม และมนุษยชาติ

หลายองค์กรเริ่มเห็นพ้องต้องกันในหัวข้อนี้ และหันมาให้ความสำคัญอย่างมากกับเรื่องของความยั่งยืน เพราะสังคมสะท้อนถึงการอยู่ร่วมกันระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค โดยเฉพาะยุคของผู้บริโภครุ่นใหม่ๆ ที่ทุกอย่างเข้ามาเกี่ยวพันกันอย่างลึกซึ้งกับสังคมแวดล้อม และยังขับเคลื่อนกลไกในอนาคต ปรับแต่งเส้นทางเศรษฐกิจและสังคมไปสู่ความยั่งยืนนอกเหนือจากบริบทของโลกร้อนที่เราคุ้นกับคำนี้กันมานานแสนนาน

เมื่อพูดถึงคนยุคใหม่ Gen Z คือหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความใส่ใจเรื่องความยั่งยืนมากเป็นพิเศษ และยังอาจส่งแรงกระเพื่อมไปถึงคนรุ่นอื่นๆ อีกด้วย ถ้าจะให้นิยามความเป็น Gen Z  ก็คือคนรุ่นใหม่ที่เกิดในช่วงประมาณปี 2529-2553 ซึ่งจะมีอายุระหว่าง 12-27 ปีบวกลบ โดยถือเป็นเสียงส่วนใหญ่ในบรรดากลุ่มผู้บริโภคที่บรรดาแบรนด์ต่างๆ ต้องการแย่งเค้ก หรือบางกระแสก็เรียกคนรุ่นนี้ว่าเป็น คนรุ่น “Tik Tok”

Gen Z จะตัดสินใจตามทางเลือกที่ตัวเองมองว่ามีคุณค่า ไม่ได้วิ่งตามกระแสนิยมแบบไม่ลืมหูลืมตา และการใส่ใจโลก รักษ์โลก ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่คนรุ่นนี้ให้คุณค่า อย่างการลดการใช้ทรัพยากร หรือลดการปล่อยคาร์บอน รวมถึงให้การสนับสนุนสินค้าท้องถิ่น แม้จะเป็นแบรนด์เล็กๆ หรือกำลังการผลิตเล็กๆ ก็ตามที่มีส่วนร่วมในเรื่องของการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน

ผลสำรวจชี้ว่า 3 ใน 4 ของคนกลุ่มนี้จะซื้อสินค้าที่ดูแล้วให้ความยั่งยืนมากกว่าสินค้าพวกแบรนด์เนม จากการสำรวจทัศนคติของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการช้อปปิ้งที่เน้นความยั่งยืน โดย Baker Retailing Center ที่ Wharton School of the University ในเพนซิลวาเนีย ยังพบว่าคนกลุ่มนี้ เป็นพวกที่ตัดสินใจซื้อสินค้าโดยอาศัยข้อมูลประกอบ และเลือกไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตโดยให้ความสำคัญกับความยั่งยืนเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ ผลสำรวจผู้บริโภคในสหราชอาณาจักร โดย Deloitte ก็ออกมาในแนวทางที่สอดคล้อง โดยแสดงให้เห็นว่า คนกลุ่มนี้ มักจะปฏิเสธการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง และกว่า 3 ใน 4 ของผู้ร่วมสำรวจบอกว่าจะเลือกแบรนด์สินค้าที่ให้คุณค่ากับการดูแลสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน โดยประมาณ 1 ใน 5 ของกลุ่มนี้ จะไม่ซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ไม่มีจรรยาบรรณ หรือไม่ให้คุณค่าเรื่องความยั่งยืน

นอกจาก Gen Z แล้ว อีกกลุ่มที่เป็นแรงผลักดันสำคัญของตลาดผู้บริโภคที่ไม่น้อยไปกว่ากัน คือคนกลุ่มมิลเลนเนียล หรือ Gen Y ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่คาบเกี่ยวในช่วงอายุระหว่าง 24-40 ปี และเป็นฐานคนทำงานส่วนใหญ่เช่นกัน ที่เริ่มหันมาใส่ใจในองค์กรที่มีแนวคิดหรือหลักปฏิบัติเรื่องความยั่งยืน และจะให้คะแนนพิศวาสเป็นพิเศษ ในการตัดสินใจเมื่อต้องสมัครงาน หรือทำงานกับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน ส่วนในการจับจ่ายสินค้า คนกลุ่มนี้จะยอมจ่ายสินค้าในราคาพรีเมียมหากรู้สึกว่าสินค้าเหล่านั้นให้ความสำคัญในเรื่องของความยั่งยืน หรือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในส่วนของแวดวงอีคอมเมิร์ซนั้น ผู้บริโภครุ่นใหม่จะยอมจ่ายเงินให้กับแบรนด์ที่มีส่วนร่วมในการสร้างความยั่งยืน อย่างการโพสต์เนื้อหาเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่เน้นความยั่งยืน หรือในเรื่องของการท่องเที่ยวก็ตาม นักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ จะยอมจ่ายเงินในราคาพรีเมียมกับแบรนด์ที่ใส่ใจและพยายามสร้างความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในรูปแบบต่างๆ เพื่อชดเชยเรื่องของคาร์บอน

สำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV แม้จะยังไม่แมสมากเท่าไหร่ แต่เรากำลังเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น จากฐานสมาชิกกลุ่มเฟซบุ๊ค EV ที่มีสมาชิกเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว โดยจากปี 2563-2564 มีสมาชิกเข้าร่วมกลุ่ม EV เพิ่มขึ้นถึง 99% หรือในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มมิลเลนเนียล และ Gen X ก็ยังให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่ใส่ใจเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยโพสต์ที่มี แฮชแทก ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน จะได้รับความสนใจมากกว่าโพสต์อื่นๆ จากแบรนด์สินค้า ถึง 4.2 เท่า

เหล่านี้คือสิ่งสะท้อนถึงแนวโน้มความยั่งยืน ที่เริ่มส่งแรงกระเพื่อมจากระดับมหภาค ขยายมาลงสู่จุลภาค และจากแบรนด์ถึงผู้บริโภค จากผู้บริโภคย้อนขึ้นไปสู่แบรนด์ เพราะความยั่งยืนนำไปสู่คุณค่าที่แท้จริง ที่จะช่วยเยียวยาทุกชีวิต ทุกธรรมชาติบนโลกให้อยู่รอดปลอดภัย

 

ข้อมูล: Forbes.com , Weforum.org , Facebook

Related Articles