STT GDC Thailand ได้รับการยกย่องจาก ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน เป็นผู้ให้บริการโซลูชันและดาต้าเซ็นเตอร์ Best-in-Class ในอุตสาหกรรม

Share

 

ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ได้วิเคราะห์อุตสาหกรรมผู้ให้บริการโคโลเคชันดาต้าเซ็นเตอร์ และจากผลการวิเคราะห์ ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวนมอบรางวัล Thailand Data Center Colocation Services Company of the Year ประจำปี 2024 ให้แก่ เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ ประเทศไทย (STT GDC Thailand) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด (FPL) ผู้นำแพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร และ เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ หรือ (STT GDC) ผู้นำบริการดาต้าเซ็นเตอร์ และในเครือของ เทมาเส็ก โฮลดิงส์ ลิมิเต็ด ซึ่งมี ST Telemedia เป็นผู้ถือหุ้น โดยให้บริการโซลูชันดาต้าเซ็นเตอร์ Best-in-Class แบบครบวงจร เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเตรียมพร้อมและปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้อย่างคล่องตัว พร้อมปรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านการวางเซิร์ฟเวอร์ร่วม หรือ โคโลเคชัน (Colocation) รวมถึงเครือข่ายการเชื่อมต่อ และการให้บริการสนับสนุน โดยดาต้าเซ็นเตอร์ของ STT GDC Thailand เปิดกว้างและสามารถรองรับการเชื่อมต่อจากทุกเครือข่ายผู้ให้บริการ ช่วยให้บริษัทฯ สามารถขับเคลื่อนอนาคตดิจิทัลที่ยั่งยืนได้ผ่านการนำเสนอโซลูชันโคโลเคชันที่ยืดหยุ่นและรองรับการเติบโตของทุกธุรกิจ

สิ่งอำนวยความสะดวกในดาต้าเซ็นเตอร์ของ STT GDC Thailand สามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะเจาะจงของลูกค้า ที่สอดคล้องกับการดำเนินการตามเกณฑ์มาตรฐานภายในอย่างเข้มงวดและเป็นไปตามมาตรฐานสากลที่มุ่งเน้นความเป็นเลิศด้านดำเนินงาน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย บริษัทฯ มุ่งจัดหาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่จำเป็นเพื่อตอบสนองปริมาณความต้องการบริการดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้น ด้วยการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ระดับ Tier III จำนวน 2 แห่งในกรุงเทพฯ (STT Bangkok 1 และ STT Bangkok 3) และอยู่ระหว่างการพัฒนาก่อสร้างอีกแห่งหนึ่ง (STT Bangkok 2) ที่เปิดกว้างการเชื่อมต่อโทรคมนาคมอย่างไม่มีขีดจำกัด (Carrier-Neutral) ซึ่งดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งสามแห่งนี้ตั้งอยู่ในทำเลเชิงกลยุทธ์ที่หัวหมากและปทุมวัน โดยมีกำลังไฟรวมกันเกินกว่า 42 เมกะวัตต์

STT Bangkok 1 เป็นแคมปัสหนึ่งของ STT Bangkok ไฮเปอร์สเกลดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยที่ตอบสนองความต้องการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นจากการบริโภคสื่อที่หลากหลายและการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของภาคธุรกิจและองค์กรภาครัฐ สำหรับ STT Bangkok 2 ที่กำลังจะเปิดให้บริการเป็นคู่แฝดของอาคารระดับเรือธงอย่าง STT Bangkok 1  โดยจะรองรับกำลังไฟเพิ่มมากกว่า 20 เมกะวัตต์ พร้อมบริการโคโลเคชันที่ออกแบบมารองรับเซิร์ฟเวอร์แบบ High Density และ การประมวลผลที่มหาศาลของ AI ขณะที่ STT Bangkok 3 จะเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อกลางใจเมือง เน้นการรับ-ส่งข้อมูลอย่างรวดเร็วที่เป็นที่ต้องการขององค์กรที่ี่ต้องการการเข้าถึงข้อมูล แอปพลิเคชัน และบริการคลาวด์ที่รวดเร็วและเชื่อถือได้

นิชชัล โครานา นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมของ Frost & Sullivan กล่าวว่า “STT GDC Thailand ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยในด้านการดำเนินงานและใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความโปร่งใสทั้งในการจัดทำรายงานและด้านการสื่อสาร โดยบริษัทฯ ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการให้บริการโคโลเคชันดาต้าเซ็นเตอร์รวมถึงการจัดอบรมให้ความรู้ด้านความปลอดภัยและประเมินความเสี่ยงเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้น”

STT GDC Thailand มีความโดดเด่นในตลาดดาต้าเซ็นเตอร์จากการเป็นผู้บุกเบิกและสนับสนุนการสร้างสรรค์เทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ การระบายความร้อนด้วยของเหลว หรือ Liquid Cooling ในฐานะผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีความพร้อมสำหรับอนาคต AI-ready ที่บริษัทอยู่ในตำแหน่งที่ดีเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโคโลเคชันดาต้าเซ็นเตอร์ให้เติบโตในเฟสถัดไป โดยปัจจุบัน STT Bangkok 1 เป็นดาต้าเซ็นเตอร์ที่รองรับพาร์ทเนอร์ NCP ของ NVIDIA

มาร์กอส ไอน์ชิล นักวิเคราะห์ด้าน Best Practices Research จาก ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน เผยว่า “ด้วยประสิทธิภาพโดยรวมที่แข็งแกร่งของ STT GDC Thailand ทำให้ได้รับรางวัล Thailand Data Center Colocation Services Company of the Year ประจำปี 2024 จาก ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ในหมวดอุตสาหกรรมโคโลเคชันดาต้าเซ็นเตอร์ STT GDC Thailand อำนวยความสะดวกในด้านการเชื่อมต่อแบบเสรี มุ่งเน้นความเป็นเลิศการดำเนินงานและมีตัวเลือกการเชื่อมต่อหลากหลาย ทำให้เหมาะสำหรับธุรกิจที่กำลังมองหาโซลูชันดาดาเซ็นเตอร์ในระดับสูง โดยบริษัทฯ ยังเป็นผู้ริเริ่มในการเชิญผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยและก่อตั้ง “สมาคมดาต้าเซ็นเตอร์แห่งประเทศไทย หรือ Thailand Data Center Council (TDCC)” โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อผลักดันในระดับนโยบายสำหรับธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ให้มีเสถียรภาพและมั่นคง

ทุกปี ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน จะมอบรางวัล Company of the Year ให้กับบริษัทที่มีความโดดเด่นในการแข่งขันโดยพิจารณาจากการประสบคววามสำเร็จจากการดำเนินงานตามกลยุทธ์ที่ส่งผลให้มีส่วนแบ่งการตลาดที่แข็งแกร่ง มีภาพลักษณ์แบรนด์ที่ดี รวมถึงสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า

รางวัล Best Practices Awards จาก ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ยกย่องบริษัทต่าง ๆ ในตลาดระดับภูมิภาคและระดับโลก เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จที่โดดเด่นและประสิทธิภาพที่เหนือชั้นในการเป็นผู้นำนวัตกรรมเทคโนโลยี การให้บริการลูกค้าและการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ โดยนักวิเคราะห์ในแต่ละอุตสาหกรรมจะพิจารณาและวัดผลเปรียบเทียบบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในตลาดผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึก การวิเคราะห์และการวิจัยในระดับทุติยภูมิอย่างละเอียด เพื่อใช้เป็นแนวทางพิจารณามอบรางวัลให้แก่ผู้นำในอุตสาหกรรม

 

innomatter

innomatter

ข่าวไอที นวัตกรรม พลังงาน และความยั่งยืน

Related Articles