Meta เตรียมดึง WhatsApp ให้ใช้ร่วมกับ Workplace ได้ ช่วยคนทำงานด่านหน้าสื่อสารเชื่อมต่อได้ทั่วถึง
ผลการศึกษาพบว่าพนักงานด่านหน้ารู้สึกว่าตัวเองไม่เชื่อมต่อกับองค์กรเท่าที่ควร Workplace จึงโดดเข้ามาเชื่อมรอยต่อด้วยการนำเสนอการทำงานร่วมกับ WhatsApp
Workplace by Meta เผยแผนรวมการทำงานเข้ากับ WhatsApp ในปีนี้ เพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานของพนักงานด่านหน้า จากที่โควิดทำให้หลายพนักงานหลายบริษัททำงานยาก เพราะการเชื่อมต่อสื่อสารภายในองค์กรไม่สะดวกเท่าที่ควร
จากผลการศึกษา Deskless Not Voiceless: The 2021 Frontline Barometer ที่ศึกษาการทำงานของพนักงานด่านหน้าจำนวน 7,000 ราย และผู้บริหารระดับสูง 1,350 คนใน 7 ประเทศ พบว่ามีพนักงานเพียง 55% เท่านั้นที่รู้สึกว่ายังติดต่อกับออฟฟิศได้ดี และ 75% บอกว่าไม่ค่อยมั่นใจว่าองค์กรจะอัพเดตหรือส่งข่าวสารได้อย่างชัดเจน
เรื่องนี้ อัจจ์วาล ซิงห์ หัวหน้างาน Workplace by Meta กล่าวว่าคนทำงานส่วนใหญ่มักไม่ได้อีเมล แอดเดรส หรือแล็ปท็อป ตอนเข้าทำงาน นั่นหมายถึงว่าแต่ละคนจึงอาศัยระบบสื่อสารจากแอปบนมือถือ ในการติดต่อกับเพื่อนร่วมงานกันเอง
“หากบริษัทไม่ได้ให้แพลตฟอร์มเพื่อสื่อสารและประสานการทำงานร่วมกันในองค์กร พนักงานก็จะหาวิธีสื่อสารเอง เพื่อให้ตัวเองเชื่อมต่อในการทำงาน และสร้างผลงานได้ หนึ่งในโซลูชันที่ว่ามีใช้กันเยอะ โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานด่านหน้าก็คือ WhatsApp” เวยน์ เคิร์ทซแมน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยฝ่าย social and collaboration solutions ของ IDC
ผลศึกษาจาก Workplace พบว่า 84% ของคนทำงานด่านหน้าเชื่อว่าการเข้าถึงเทคโนโลยีด้านการสื่อสารควรเป็นเรื่องมาตรฐาน 56% บอกว่าอยากย้ายไปทำงานด่านหน้าส่วนอื่นเพื่อให้มีเครื่องมือช่วยในการทำงานแต่ละวัน ในขณะที่ 92% ของผู้นำธุรกิจและไอที บอกว่าต้องให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับคนทำงานหน้างานได้ในลักษณะเดียวกับเทคโนโลยีที่ใช้ในออฟฟิศและบนโต๊ะทำงาน
ซิงห์ ยังบอกว่า 61% ของคนทำงานด่านหน้าพูดว่าอยากได้เครื่องมือเสริมที่ช่วยให้เชื่อมต่อกับคนในองค์กรทั้งหมดและสามารถแชร์ข้อมูลร่วมกันได้
แผนงานในการควบรวมการทำงานของ Workplace จะมุ่งเน้นไปที่เรื่องนี้ โดยจะช่วยให้องค์กรแชร์โพสต์บน Workplace ไปยัง WhatsApp ได้โดยตรง ซึ่งจะช่วยให้คนทำงานด่านหน้าที่ไม่มีเวลาอ่านโพสต์หลายอัน หาข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ง่าย
“เราเชื่อว่าการเชื่อมต่อคนทำงานด่านหน้าพร้อมมอบศักยภาพในการใช้งานด้านข้อมูล ช่วยให้องค์กรธุรกิจดึงคนเหล่านี้เข้ามามีส่วนร่วมกับงานได้ดีขึ้นและทำงานได้มีความสุขมากขึ้น และให้บริการผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้นเช่นกัน” ซิงห์ยังกล่าวต่อว่า “ส่วนหนึ่งที่ทำให้การผสานรวมการทำงานกับ WhatsApp เป็นเรื่องสำคัญก็คือ เราทุกคนต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าคนทำงานด่านหน้าใช้ WhatsApp กันในหลายประเทศทั่วโลก และเราอยากตอบโจทย์คนทำงานด้วยเครื่องมือที่ใช้กันอยู่แล้ว”
การผสานรวมการทำงานดังกล่าว คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีและขยายต่อไปหลังจากนั้น “มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่เร่งรีบขนาดนั้น เพราะเราอยากดำเนินการให้รอบคอบ เนื่องด้วยเป็นข้อจำกัดของการนำเครื่องมือสำหรับผู้บริโภคที่มีอยู่แล้วมาใช้” ซิงห์กล่าว
ในขณะที่เคิร์ทซแมน ได้ตั้งข้อสังเกตว่า WhatsApp เป็นสิ่งที่พนักงานใช้กันอยู่แล้ว โดยเฉพาะในเวลาที่ไม่ได้มีซอฟต์แวร์สำหรับประสานการทำงานร่วมกัน โดยเขาเชื่อว่าหากการผสานรวมการทำงานรูปแบบใหม่นี้ออกมา ฝ่ายไอทีจะสามารถปรับให้สอดรับกับความต้องการเรื่องกฏระเบียบและข้อบังคับในการใช้งานภายใน Workplace ได้ดี
“การทำงานร่วมกับ WhatsApp จะช่วยตอบโจทย์คนทำงานที่ใช้ Workplace enterprise อยู่แล้ว อีกทั้งการใช้ร่วมกับ WhatsApp ที่คุ้นเคยอยู่แล้วจะช่วยให้ใช้งานได้ง่ายและดูแลเรื่องการสื่อสารหลักให้เข้ากับกฏระเบียบขององค์กร รวมถึงเรื่องความปลอดภัยได้ดี”
เคิร์ทซแมน ยังให้ข้อสังเกตถึงงานวิจัยจาก IDC ที่แสดงให้เห็นว่า 55% ของแอปพลิเคชันด้านการประสานการทำงานร่วมกันส่วนใหญ่เริ่มจากการเป็นแอปพลิเคชันที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ แต่เนื่องจากความจำเป็นที่ต้องทำงานจากทุกที่ จึงทำให้โซลูชันเหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่องค์กรอนุมัติให้ใช้ และไม่ได้เป็นประเด็นสำหรับพนักงานอีกต่อไป”
Credit บทความตั้งต้น : Meta’s Workplace touts upcoming WhatsApp integration for frontline workers, ComputerWorld USA
เกี่ยวกับ Meta
