เปิดแนวคิดสำหรับปี 2024 ที่ CTO และ CIO ควรทำความเข้าใจ

Top Technologies Predictions 2024 Dell เปิดแนวคิดวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยีที่ควรจับตามองในปี 2024 พลาดไปอาจทำให้องค์กรนั้นตกขบวนธุรกิจ
Share

 

Dell เปิดแนวคิดวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยีที่ควรจับตามองในปี 2024 พลาดไปอาจทำให้องค์กรนั้นตกขบวนธุรกิจบนโลก ดิจิทัล

 

Top Technologies Predictions 2024 หนึ่งในการนำเสนอแนววิสัยทัศน์ทางด้านเทคโนโลยีเป็นประจำทุกช่วงสิ้นปี โดย Dell Technologies ได้หยิบยกเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับโลกธุรกิจยุคดิจิทัล มาขยายภาพให้ชัดเจนว่าในปีหน้า 2524 โลกจะเปลี่ยนแปลงด้วยการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้อย่างไร

 

ในช่วงสิ้นปีของทุกปี บริษัททางด้านเทคโนโลยีโดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศจะมีการสรุปความเคลื่อนไหวทั้งปีที่ผ่านมา รวมถึงการเล่าถึงวิสัยทัศน์และคาดการณ์การมาถึงของเทคโนโลยีและกานเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในปีถัดไป Dell Technologies เป็นอีกหนึ่งของผู้นำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศระดับโลก ที่มีทัศนะและคาดการณ์ด้านเทคโนโลยีล่วงหน้าที่แม่นยำอยู่ไม่น้อยในทุกๆ ปีที่ผ่านมา

และในโอกาสที่วันและเวลาเดินทางมาถึงสิ้นี 2023 ก็ถืงเวลาที่เราต้องมาอัพเดตกันแล้วว่า ในปี 2024 นั้นคาดการณ์ล่วงหน้าด้านเทคโนโลยีของปี 2024 นั้นจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทำงานดูแลเรื่องของเทคโนโลยีอย่าง CTO อาจจะต้องเก็บเอาหัวข้อต่อไปนี้เพื่อนำไปพิจารณาหรือปรับใช้เพื่อระบบตอบสนองการเติบโตของธุรกิจที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

 

Top Technologies Predictions 2024 AI เข้ารอบมาเป็นเบอร์หนึ่ง

ปีที่แล้ว โลกได้รู้จักกับ Generative AI และตลอดปีที่ผ่านมาการพูดถึงของนวัตกรรมสิ่งนี้เป็นในเรื่องของการนำเอา GenAI ไปใช้ในวงกว้างแต่ก็อยฝุ่ในรูปแบบของการทดลองเพื่อทำความรู้จักเพียงเท่านั้น แต่หลังจากนี้ปี 2024 สองเรื่องที่จะเกิดผลกระทบแบบจริงจังจากการนำเอานวัตกรรมนี้ไปใช้อย่างจริงจังก็คือ

หนึ่ง GenAI จะถูกใช้งานในลักษณะของของการถูกกำหนดจากผู้บริหารลงสู่หน่วยงานต่างๆ องค์กรจะเปลี่ยนจากการทดลองแบบกว้างไปสู่การมุ่งเน้นกลยุทธ์แบบ Top-Down ในการเลือกโครงการ GenAI ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง ปัจจุบัน องค์กรส่วนใหญ่กำลังทดลองกับ GenAI และต้องการให้เทคโนโลยีนี้เป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล

ในปี 2024 พวกเขาจะตระหนักว่าแม้จะมีกรณีการใช้งานหลายร้อยกรณีที่อาจสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ แต่ไม่มีใครจะมีบุคลากร โครงสร้างพื้นฐาน หรืองบประมาณเพื่อนำมากกว่าสองสามรายการไปสู่การผลิตแบบขยาย นั่นจะทำให้จำเป็นต้องมีการจัดลำดับความสำคัญแบบ Top-Down ที่มุ่งเน้นไปที่การนำโครงการ GenAI ที่สำคัญและมีคุณค่าที่สุดเท่านั้นไปสู่การผลิต

และสองคือ GenAI จะถูกผสานเข้ากับสภาพแวดล้อมการใช้งานอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้อุตสาหกรรมไอทีได้เห็นไปแล้วจากการผนวกเอา ChatGPT ในชื่อของ Copilot เข้าไว้ในระบบปฏิบัติการอย่าง Windows11

ระบบนิเวศของเครื่องมือและบริการ AI ของเรากำลังขยายใหญ่ เชี่ยวชาญขึ้น และปรับขนาดมากขึ้น ส่งผลให้เราจะเห็นความหลากหลายของเฟรมเวิร์ก AI มากขึ้น (เช่น โครงการ ULX ใหม่ของ Linux Foundation) นักพัฒนาจะสามารถใช้งานและสร้างอินเทอร์เฟซกับคอมพิวเตอร์เร่งความเร็วหลายประเภทและเฟรมเวิร์กแบบบูรณาการได้อย่างง่ายดาย ด้วยตัวเร่งความเร็วแบบใหม่และหลากหลาย เช่น PyTorch บนฝั่งไคลเอ็นต์, ONYX และเฟรมเวิร์กเวลาทำงาน AI มาตรฐานเปิดอื่นๆ บนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะทำให้พื้นที่การเร่งความเร็วแบบ co-pilot เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น

Zero Trust กลับมาอีกครั้งกับงานด้านความปลอดภัย

ในปี 2023 เราพูดถึง Zero Trust และความสำคัญของมันต่อความปลอดภัยไซเบอร์ ในปี 2024 Zero Trust จะพัฒนาจากคำฮิตไปสู่เทคโนโลยีจริงที่มีมาตรฐานจริง และแม้กระทั่งการรับรองก็ปรากฏขึ้นเพื่อชี้แจงว่าอะไรคือ Zero Trust และอะไรไม่ใช่

ในปี 2024 โครงการ Fort Zero ของ Dell จะถูกนำออกสู่ตลาดในฐานะระบบคลาวด์ส่วนตัว Zero Trust เชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบแรก แม้เบื้องต้นจะมุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เข้มงวดที่สุดในโลก (หน่วยงานด้านกลาโหม ฯลฯ) แต่การเปิดตัว การรับรอง และกรณีการใช้งานของโครงการนี้จะแสดงให้ทุกอุตสาหกรรมเห็นว่าสถานะสุดท้ายของการนำ Zero Trust ไปใช้งานอาจเป็นอย่างไร

คาดว่า Zero Trust จะถูกกำหนดให้ใช้ในกรณีการใช้งานของอุตสาหกรรมที่หลากหลาย สิ่งนี้จะจุดประกายการพัฒนาสถาปัตยกรรม Zero Trust จริงสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่การป้องกันในระดับพื้นฐาน ไปจนถึงมหาวิทยาลัยที่ทำวิจัยที่ได้รับทุนจากรัฐ ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ (อุตสาหกรรมและดิจิทัล)

และด้วยสิ่งนี้ การรับรองจะปรากฏขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญประการหนึ่งของ Zero Trust – ใครก็ตามสามารถเรียกอะไรบางอย่างว่า Zero Trust ได้ แม้จะนำเอาบางส่วนมาใช้เท่านั้นและทำในโซลูชันจุดที่กระจัดกระจาย Zero Trust ทำงานได้เฉพาะเมื่อเป็นสถาปัตยกรรมที่ครอบคลุมสำหรับระบบ IT ในปี 2024 เราจะเห็นการรับรองเหล่านี้เริ่มแยก Zero Trust ที่แท้จริงออกจากการตลาด

 

Edge Computing ระบบประมวลผลอีกขั้นของคลาวด์

คำจำกัดความคือการขยายโครงสร้างพื้นฐานมัลติคลาวด์ไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง (โรงงาน โรงพยาบาล ร้านค้า ฯลฯ) ในปัจจุบัน วิธีการขยายบริการคลาวด์ไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงโดยทั่วไปคือใช้โซลูชันจุดที่ส่งมอบอีดจ์เฉพาะสำหรับเวิร์กโหลดคลาวด์เฉพาะนั้น ความท้าทายของโมเดล “การขยายคลาวด์” นี้คือ เมื่อคุณใช้คลาวด์และบริการคลาวด์มากขึ้น ก็จะมีระบบอีดจ์มากขึ้น… หนึ่งระบบสำหรับแต่ละการใช้งานบนคลาวด์คลาวด์

และแนวทางใหม่สำหรับอีดจ์ยุคใหม่ด้วย Dell NativeEdge แพลตฟอร์มอีดจ์แบบมัลติคลาวด์ NativeEdge นี้มอบทางเลือกแก่ลูกค้าในการสร้างแพลตฟอร์มอีดจ์กลางที่สามารถจัดหาความจุ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือให้กับเวิร์กโหลดอีดจ์ที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ ไม่ว่าจะมาจากคลาวด์ ระบบ IoT หรือระบบ IT ใดๆ ในปี 2024 เราคาดว่าแนวทาง “แพลตฟอร์มอีดจ์” นี้จะได้รับความนิยมมากขึ้น

โดยบริษัทและระบบนิเวศอื่นๆ นำเสนอโมเดลที่เรียบง่ายขึ้นและเน้นแพลตฟอร์มอีดจ์ ตัวอย่างเบื้องต้นของแนวทางนี้คือ Multi-access Edge compute (MEC) ในระบบโทรคมนาคม ปี 2024 จะเป็นปีที่องค์กรตระหนักว่ามีสองวิธีในการสร้างอีดจ์ยุคใหม่ นั่นคือ การแพร่หลายของอีดจ์เดี่ยวๆ และการใช้แพลตฟอร์มอีดจ์แบบมัลติคลาวด์

 

อนาคต ที่เหมือนเป็น โบนัสทางเทคโนโลยี

เมื่อมองไปในอนาคต สิ่งที่ชัดเจนสำหรับหลายคนคือ คอมพิวเตอร์ควอนตัมและ AI เป็นสองส่วนของเรื่องเดียวกัน ในปัจจุบัน เราเห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของกรณีการใช้งาน AI และการนำมาใช้ในช่วงเริ่มต้น ไม่มีวี่แววว่าจะชะลอลง อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญประการหนึ่งของ GenAI และ AI ขนาดใหญ่ส่วนใหญ่คือความต้องการทรัพยากรคอมพิวเตอร์ที่สูงมาก

การเปลี่ยนแปลง โมเดลแพร่กระจาย และเทคนิคใหม่ๆ อื่นๆ ภายใต้ GenAI เป็นฟังก์ชันความน่าจะเป็นที่ใช้ทรัพยากรมาก คอมพิวเตอร์ควอนตัมมีความโดดเด่นในด้านปัญหาการปรับแต่งขนาดใหญ่ ที่ต้องค้นหาคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคำถามภายในชุดตัวเลือกที่เกือบไม่สิ้นสุด ในความเป็นจริง เราเรียกคอมพิวเตอร์ควอนตัมว่า คอมพิวเตอร์ความน่าจะเป็นได้

แม้ว่าเรายังคงต้องทำงานอีกมากในการปรับขนาดระบบควอนตัมให้เกินกว่าช่วงคิวบิต 1,000 ตัวในปัจจุบัน แต่ก็ชัดเจนแล้วว่า เมื่อระบบควอนตัมขยายขนาด ธรรมชาติของคณิตศาสตร์ที่พวกมันทำนั้นเหมาะอย่างยิ่งที่จะเข้ามาแทนที่การประมวลผลหลักของระบบ AI ขั้นสูง อีกหลายปีกว่าเราจะเห็นผลกระทบที่แท้จริง แต่ในระยะยาวรากฐานคอมพิวเตอร์ของ AI ยุคใหม่จะเป็นระบบควอนตัมไฮบริด งาน AI จะกระจายไปยังสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ที่หลากหลาย และหนึ่งในนั้นคือ หน่วยประมวลผลควอนตัม เมื่อเกิดขึ้น เราอาจเห็นความสามารถของระบบ AI เพิ่มขึ้นหลายร้อยเท่าตัว หากคุณรู้สึกประหลาดใจกับก้าวกระโดดครั้งใหญ่เมื่อ GenAI ปรากฏตัวปลายปีที่แล้ว คุณควรคาดหวังว่าก้าวกระโดดครั้งใหญ่กว่านั้นอาจเกิดขึ้นใน AI เมื่อควอนตัมและ AI บรรจบกันในอนาคตอันใกล้

 

สำหรับท่านที่ติดตาม ข่าวสาร บทความ และความรู้ในเรื่องราวของเทคโนโลยีสำหรับองค์กร สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Related Articles