TCCtech ได้ร่วมมือกับ TSPACE และ STT GDC พร้อมทั้งพันธมิตรทางเทคโนโลยีจาก 7 บริษัทชั้นนำระดับโลกจัดแสดงโซน “TECH GROUP ECOSYSTEM” ด้านเทคโนโลยีโซลูชั่น มาแบ่งปัน ดังนี้
SX2022 พร้อมพรั่งโซลูชันน้ำหน้าระดับโลก
Accenture
“The Nth Floor” เทคโนโลยีโซลูชั่นที่เอคเซนเชอร์ได้นำมาจัดแสดงภายใน SX2022 เป็นเทคโนโลยีที่ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อกับโลกเสมือนจริง
(Metaverse) ผ่านโมเดลจำลองเสมือน (Digital Twin) ส่งผลให้สามารถจำลองการทำงานหรือสถานการณ์ต่างๆได้เหมือนจริงโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังสถานที่นั้นๆ เมื่ออัตราการเดินทางลดลงจะล้วนส่งผลให้อัตราการผลิตก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศน้อยลงตามลำดับ นอกจากนั้น ยังสามารถช่วยเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ของผู้คนในพื้นที่ห่างไกลได้ ยกตัวอย่างเช่น งานประชุมในต่างประเทศ โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล การนำเทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้จะช่วยส่งเสริมให้นักเรียนสัมผัสถึงประสบการณ์จริงและเข้าถึงการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น มากไปกว่านั้น เทคโนโลยีโซลูชั่นนี้ยังสามารถช่วยพัฒนาสังคมให้เกิดความเท่าเทียมเช่นกัน กล่าวคือเมื่อผู้ใช้งานเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริงนั้น ทุกคนจะมีอิสระในการแสดงออก โดยปราศจากการตัดสินด้านเพศภาพ สีผิว เชื้อชาติ หรือการศึกษา เป็นต้น
Mr. Jurgen Coppens, Managing Director, Sustainability Lead, Southeast Asia, Accenture ได้ฝากแนวคิดไว้ว่า จากผลสำรวจ CEO Survey ที่ได้ทำร่วมกับ UNGC (United Nations Global Compact) ผู้บริหาร C Level ล้วนมีมุมมองที่คล้ายคลึงกันเกี่ยวกับการตระหนักถึงความสำคัญของความยั่งยืนทั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยมีการนำมาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์และนโยบายขององค์กร
Dell Technologies
“Dell PowerScale” หนึ่งในเทคโนโลยีโซลูชั่นที่เดลล์ได้นำมาจัดแสดงภายในงาน SX2022 เป็นระบบซอฟต์แวร์สำหรับจัดเก็บข้อมูลแบบไร้โครงสร้าง (Unstructured data) นอกจากนี้ยังมี “Data Protection and Backup Solutions” เทคโนโลยีโซลูชั่นสำหรับการจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัยและสามารถสำรองข้อมูลไว้ใช้ในภายหลัง และเทคโนโลยีอันดับสุดท้ายมีชื่อเรียกว่า “Sustainable devices & Infrastructure” อุปกรณ์และแพคเกจจิ้งที่มีขั้นตอนการผลิตโดยการนำอุปกรณ์เดิมที่ไม่ต้องการใช้มาผลิตซ้ำ รวมไปถึงขยะจากทะเล อาทิเช่น หลอดหรือขวดพลาสติก เป็นต้น มาเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตสินค้านั้น ซึ่งจากที่กล่าวไปข้างต้นนั้น
คุณอโณทัย เวทยากร, Vice President, Asia Emerging Markets and South Asia Consumer Business, Dell Technologies ได้แบ่งปันมุมมองไว้ว่า เทคโนโลยีได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนในยุคปัจจุบัน ซึ่งส่งผลให้มีอัตราการผลิตสินค้าด้านเทคโนโลยีสูงขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ในขณะเดียวกันนั้น การกำจัดสินค้าหลังการใช้งานเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรจำเป็นต้องให้ความสำคัญและตระหนักถึงเช่นกัน
Huawei
“Huawei FusionSolar Smart PV Solutions” เทคโนโลยีโซลูชั่นที่ผลิตพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์แบบครบวงจร และนำมาผสานรวมกับระบบ AI อัจฉริยะที่สามารถตรวจจับการทำงานที่ผิดพลาดจากระบบโซลาร์ได้ เช่น อาร์ค (Arc) เป็นต้น เมื่อมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ระบบจะสามารถตรวจจับการทำงานที่ผิดปกติและสั่งหยุดการทำงานทั้งหมดของอินเวอร์เตอร์ได้ภายใน 0.5 วินาที เพื่อป้องกันการเกิดกระแสไฟฟ้าไหลขึ้นในระบบ อีกทั้งยังสามารถกักเก็บพลังงานไฟฟ้าที่คงเหลือจากช่วงกลางวันไว้ใช้ภายหลังได้ด้วยระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System หรือ ESS)
F.E. (Edwin) Diender, Chief Innovation Officer, Global Electric Power Digitalization Business Unit, Huawei Technologies Co., Ltd. ได้แบ่งปันมุมมองไว้ว่า เทคโนโลยีดิจิทัลนั้นเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนแนวคิดเกี่ยวกับ Sustainability เนื่องจากความสามารถในการคำนวณ วิเคราะห์ และแสดงผลของข้อมูลอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เพิ่มโอกาสในการป้องกันและพัฒนาทรัพยากรด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในหลากหลายภาคส่วนอาทิเช่น ภาคอุตสาหกรรม ภาคการศึกษา และภาคการแพทย์ เป็นต้น
Microsoft
“Microsoft Hololens“ เทคโนโลยีโซลูชั่นที่ไมโครซอฟท์ได้นำมาจัดแสดงภายในงาน SX2022 เป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อกับโลกความเป็นจริงและโลกดิจิทัล (Mixed reality) เมื่อผู้ใช้งานสวมใส่อุปกรณ์นี้จะสามารถจับต้องและเคลื่อนย้ายวัตถุที่ต้องการผ่านภาพ 3D เสมือนจริง
ยกตัวอย่างเช่น ในส่วนของภาคการศึกษา ผู้เรียนและผู้สอนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ในรูปแบบ 3D ผ่าน Hololens ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นการเรียนรู้และเพิ่มพูนประสบการณ์ในการเรียนการสอน หรือทางด้านการแพทย์ที่ Hololens สามารถดึงข้อมูลของผู้ป่วยออกมาในรูปแบบ 3D เพื่อช่วยให้แพทย์ทำการรักษาได้สะดวกยิ่งขึ้น เป็นต้น นอกจากนั้น ภายในงานไมโครซอฟท์ได้นำเสนอ “Dynamics 365 Remote Assist” เพิ่มเติม ซึ่งสามารถช่วยสนับสนุนการทำงานแบบไฮบริดในยุคปัจจุบัน (Hybrid working) โดยการแบ่งปันมุมมองแบบเรียลไทม์กับผู้เชี่ยวชาญจากระยะไกลเพื่อรับความช่วยเหลือที่ต้องการ
คุณวิสสุต เมธีสุวกุล, CMO Lead, Microsoft (Thailand) Ltd. ได้แบ่งปันมุมมองไว้ว่า Sustainability เป็นสิ่งสำคัญที่ควรตระหนักถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเดินทางในชีวิตประจำวัน ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆได้ถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหานี้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดต้นทุนด้านเวลา
Salesforce
“Salesforce Net Zero Cloud” หนึ่งในเทคโนโลยีโซลูชั่นที่เซลส์ฟอร์สได้นำมาจัดแสดงภายในงาน SX2022 โดยเทคโนโลยีโซลูชั่นนี้มีส่วนช่วยให้สามารถตรวจจับและวัดปริมาณค่าคาร์บอนภายในองค์กรหรืออุตสาหกรรมได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการวัดค่าปริมาณนั้นจะถูกอัพโหลดขึ้นผ่าน Cloud เพื่อแสดงผลลัพธ์และง่ายต่อการตรวจสอบ
นอกจากนี้ “SLACK by Salesforce solution” ยังได้ถูกนำมาจัดแสดงภายในงานเช่นกัน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เข้ามามีส่วนช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในด้านการแพทย์ โดยทำงานร่วมกับ Tele home Health Solution ซึ่งผู้ป่วยสามารถเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้นผ่านอุปกรณ์ดังกล่าว และข้อมูลเบื้องต้นจะถูกอัพโหลดขึ้นผ่าน cloud เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์อาการเชิงลึกและพูดคุยผ่านวิดิโอคอลเพื่อแจ้งผลตรวจการรักษากับผู้ป่วย
คุณกิตติพงษ์ อัศวพิชยนต์, Area Vice President & Managing Director, Salesforce Thailand ได้แบ่งปันมุมมองไว้ว่า สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบันนั้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อการใช้ชีวิตของผู้คน ซึ่งทุกคนจำเป็นต้องร่วมมือหาวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกัน โดยองค์กรต่างๆสามารถเข้าร่วม Carbon Credit กิจกรรมรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ
SAP
“SAP’s 3 Zeros Strategy” เทคโนโลยีโซลูชั่นที่เอสเอพีได้นำมาจัดแสดงภายในงาน SX2022 ประกอบไปด้วย Zero Emission (อัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์), Zero Waste (อัตราการปล่อยของเสียเป็นศูนย์) และ Zero Inequality (อัตราความไม่เท่าเทียมเป็นศูนย์) โดยในส่วนของ Zero Emission นั้น ระบบซอฟต์แวร์จะตรวจวัดค่าปริมาณคาร์บอนและจัดเก็บข้อมูลภายในองค์กรได้ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย
เพื่อให้แต่ละองค์กรสามารถประเมินและพัฒนาต่อยอดเป็นองค์กรที่มีอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ในขณะที่ Zero Waste นั้น ระบบซอฟต์แวร์จะคำนวณกระบวนการผลิตทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิต Packaging ที่องค์กรสามารถ Reuse และ Recycle จากสิ่งที่มีอยู่แล้วได้ และ Zero Inequality เปรียบเสมือนพื้นที่ที่เปิดรับความคิดเห็นจากทุกคนในองค์กรโดยไม่ได้ระบุตัวตน เพศ หรือการศึกษา ซึ่งมีส่วนช่วยให้สามารถพัฒนาเป็นองค์กรที่มีความเท่าเทียม
Mr. David Coldrey, Sustainable Lead, SAP SEA ได้เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่มาทางบริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญต่อลูกค้าและสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด จึงได้พัฒนา Holistic Steering & Reporting เพื่อแสดงรายงานจากการคำนวณข้อมูลในการดำเนินธุรกิจ และช่วยเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจเพื่อใช้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างให้สอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาสู่ความยั่งยืนที่ตั้งไว้
Tencent Cloud
“Tencent IoT platform” หนึ่งในเทคโนโลยีโซลูชั่นที่เทนเซ็นต์ คลาวด์ ได้นำมาจัดแสดงภายในงาน SX2022 เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่ออุปกรณ์และเทคโนโลยีต่างๆ ภายในองค์กรเข้าด้วยกันเพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานและอัพโหลดขึ้นผ่าน Cloud อาทิเช่น ปริมาณการใช้ไฟฟ้าภายในองค์กร เป็นต้น ส่งผลให้องค์กรสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์และพัฒนาเพื่อช่วยลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
นอกจากนั้นยังมี “Tencent Cloud Smart Video Analysis Platform (SVAP)” เทคโนโลยีโซลูชั่นที่มีการนำ AI มาทำงานร่วมกับกล้องวงจรปิด ซึ่งสามารถช่วยตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมในพื้นที่นั้นได้ ยกตัวอย่างเช่น SVAP สามารถวิเคราะห์ปริมาณขยะที่อยู่ในแหล่งน้ำได้ว่ามีปริมาณเท่าไหร่ ซึ่งข้อมูลจะถูกส่งต่อและแจ้งเตือนไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องผ่าน Cloud เพื่อทำการเก็บและดูแลบริเวณแหล่งน้ำดังกล่าว ส่งผลให้พื้นที่ในบริเวณนั้นสะอาดและน่าอยู่อาศัย เป็นต้น
“Tencent Ray Data Virtualization Interactive System” ที่มีการนำข้อมูลจริง ณ เวลานั้นมาสร้างให้อยู่ในรูปแบบ 3D model ยกตัวอย่างเช่น การเก็บข้อมูลจาก 3D model เกี่ยวกับปริมาณไฟฟ้าที่ถูกใช้ในแต่ละชั้นขององค์กรว่ามีมากน้อยเพียงใด เพื่อช่วยควบคุมการใช้พลังงานภายในองค์กรได้อย่างเหมาะสมและแม่นยำ เป็นต้น
Mr. Chang Foo, Chief Operating Officer, Tencent Cloud under Tencent (Thailand) Co., Ltd. ได้แบ่งปันมุมมองไว้ว่า ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีส่วนช่วยทำให้ชีวิตของผู้คนสะดวกสบายขึ้น แต่ในทางกลับกันนั้นอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้นการพัฒนาเทคโนโลยีด้านความยั่งยืนจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อจุดมุ่งหมายในการร่วมกันปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero Emission)
สำหรับท่านผู้อ่านที่ติดตาม ข่าวสาร และ บทความ ทางด้านความก้าวหน้า เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่