ChatGPT แรงไม่แผ่ว เสี่ยงทำ 10 อาชีพตกงาน

Share

 

ออกตัวแรงไม่มีแผ่ว กับแชทที่สร้างความสั่นสะเทือนให้โลกธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญถึงกับออกมาพูดว่า ChatGPT และ AI ที่เกี่ยวข้องอาจมาเสียบแทนตำแหน่งงานในหลายสายอาชีพได้ ว่ากันว่ามีถึง 10 อาชีพที่ต้องแข่งขันกับ AI

ตั้งแต่ที่ ChatGPT เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน ปลายปีที่ผ่านมา เรียกว่าได้รับการตอบรับอย่างดี ถึงขนาดมีคนนำมาใช้งานมากมายหลายรูปแบบกัน ไม่ว่าจะเป็นการเขียนจดหมาย หรือทำหนังสือสำหรับเด็ก กระทั่งช่วยเด็กนักเรียนโกงข้อสอบประเภทเรียงความก็ทำได้เช่นกัน

ยักษ์ใหญ่หลายรายออกมาให้ความเห็นกันเป็นทิวแถว อย่างกูเกิลเองก็มองว่าในทางทฤษฏี search engine เองก็อาจจ้างบอทที่ว่าให้ช่วยเขียนโค้ดในเบื้องต้นได้

ในส่วนพนักงานของอะเมซอนเองที่เคยทดลองใช้ ChatGPT ต่างชมเปาะถึงความเก่ง ว่าทำงานได้ดีในการตอบคำถามลูกค้า รวมถึงงานจำพวกทำเอกสารฝึกอบรมก็ไม่เบา หรือกระทั่งการตอบคำถามในเชิงกลยุทธ์สำหรับองค์กรก็ตาม

แต่ก็ยังมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง มีผู้ใช้ ChatGPT บอกว่าอาจมีข้อมูลผิดได้เหมือนกัน รวมถึงงานบางอย่าง เช่นการตอบปัญหาการเขียนโค้ดที่ไม่ถูกต้อง และแก้โจทย์เลขพื้นฐานผิดบ้าง

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ได้ทำการศึกษาและพบว่า 47% ของงานในสหรัฐอเมริกา อาจตกไปอยู่ในมือของ AI ภายใน 20 ปีข้างหน้า โดยสื่ออย่าง Insider ได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญและทำการศึกษาเพื่อรวบรวมว่ามีอาชีพใดบ้างที่มีความเสี่ยงที่จะโดน AI แย่งงาน

 

งานสายเทค (คนเขียนโค้ด เขียนโปรแกรม วิศวกรซอฟต์แวร์ นักวิเคราะห์ข้อมูล)

 

ทักษะงานในสายนี้ กำลังเป็นที่ต้องการมากและมีความเป็นไปได้ว่า ChatGPT หรือเครื่องมือ AI ที่คล้ายๆ กันจะปิดช่องว่างทักษะงานเหล่านี้ได้ในอนาคตอันใกล้ นั่นเพราะว่า AI สามารถจัดการกับพวกตัวเลขต่างๆ ได้อย่างแม่นยำนั่นเอง และยังเขียนโค้ดได้เร็วกว่าคน ทำให้ใช้คนทำงานด้านนี้น้อยลง

 

 

 

งานด้านสื่อ (งานโฆษณา สร้างคอนเทนต์ เขียนเรื่องเทคนิค สื่อมวลชน)

งานในสายนี้อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน  เพราะ AI อ่านได้ เขียนได้ แถมยังเข้าใจข้อมูลที่เป็นตัวหนังสือได้ดี การวิเคราะห์และตีความภาษาต่างๆ จากข้อมูลนับว่าเป็นทักษะที่เทคโนโลยี AI ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ งานอย่างการเขียนและรายงานบางอย่าง ChatGPT อาจทำได้เก่งกว่าคนเช่นกัน โดยอุตสาหกรรมด้านสื่อเริ่มมีการทดลองใช้ AI เขียนคอนเทนต์กันแล้ว สื่อใหญ่อย่าง CNET ก็เคยมีการใช้เครื่องมือ AI ที่คล้ายๆ กันนี้เขียนบทความหลายชิ้นแล้วเช่นกัน

 

 

งานด้านกฏหมาย (ผู้ช่วยทนายความ)

คล้ายกับงานสื่อ งานสายนี้ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากเพื่อนำมาย่อยและทำออกมาเป็นบทสรุปด้านตัวบทกฏหมายและข้อคิดเห็น เพราะข้อมูลเหล่านี้มีโครงสร้างชัดเจน ใช้ภาษาในวงการอยู่แล้ว ทำให้ AI ทำงานได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่ถึงขนาดทำได้สมบูรณ์แบบทั้งหมดซะทีเดียว เพราะต้องอาศัยมนุษย์ดูแลอยู่หากเป็นเรื่องความต้องการของลูกค้าหรือลูกความ

 

นักวิเคราะห์งานวิจัยตลาด

AI เก่งเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลและคาดการณ์ผลลัพธ์เป็นทุนเดิม และงานสายนี้ต้องรวบรวมข้อมูล ชี้ให้เห็นเทรนด์ที่มาจากข้อมูลเหล่านี้ เพื่อนำมาพัฒนาเป็นแคมเปญการตลาด ซึ่งเป็นสิ่งที่ AI ทำได้ดี

 

ครู หรืออาจารย์

ครูแทบจะทุกหัวระแหงต่างระแวงการมาของ ChatGPT กลัวว่านักเรียนจะใช้ให้ AI ทำการบ้านให้ ซึ่งในทางกลับกัน ChatGPT สามารถสอนนักเรียนได้ แม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดและความไม่แม่นยำเรื่องความรู้บางอย่าง แต่ก็ปรับปรุงได้ เพียงแค่ฝึกฝน ChatGPT ให้เก่งขึ้นเท่านั้น

 

 

งานสายการเงิน (นักวิเคราะห์การเงิน ที่ปรึกษาด้านการเงินส่วนบุคคล)

บุคลากรในสายอาชีพเหล่านี้ จะคล้ายๆ กับนักวิเคราะห์งานวิจัยตลาด ที่ต้องใช้ข้อมูลตัวเลขจำนวนมากซึ่งเป็นงานที่ AI ถนัด เพราะ AI สามารถชี้ให้เห็นเทรนด์ในตลาด ดูว่าพอร์ตไหนน่าลงทุนเพราะอะไร และสื่อสารออกมาในรูปของข้อมูลเพื่อธุรกิจการเงินนำไปคาดการณ์และผสมผสานรูปแบบการลงทุนต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

เทรดเดอร์

เจ้าหน้าที่บางตำแหน่งในตลาดหุ้นอาจเสี่ยงตกงานเช่นกัน เพราะบางตำแหน่งที่ทำงานในธนาคารเพื่อการลงทุนต้องใช้เวลา 2-3 ปีทีเดียวในการทำงานราวกับเป็นหุ่นยนต์เพื่อทำโมเดลสำหรับโปรแกรม Excel ซึ่งงานแบบนี้ AI ทำได้เช่นกัน

 

 

กราฟฟิก ดีไซนเนอร์

เดือนธันวาคมที่ผ่านมา Harvard Business Review โพสต์ว่ามีโปรเฟสเซอร์ 3 ท่านชี้ว่า DALL-E เป็นเครื่องมือ AI ที่ทำภาพได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที ซึ่งอาจเป็นการปฏิวัติวงการการออกแบบกราฟฟิกทีเดียว การเพิ่มทักษะให้คนหลายล้านคนในการสร้างและแต่งรูปอาจส่งผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจ จึงเป็นประเด็นที่ว่าความก้าวหน้าของ AI อาจสร้างความเจ็บปวดให้คนทำงานที่ปรับตัวไม่ทันหรือปรับตัวยาก

 

นักบัญชี

นักบัญชีถูกมองว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง แต่ก็ยังเสี่ยงอยู่ดี จริงอยู่ว่าเทคโนโลยียังไม่ทำให้ทุกคนตกงาน แต่ก็มีบางคนที่อาจตกงาน โดยเฉพาะแรงงานที่มีความรู้เฉพาะทางอย่างนักกฏหมาย นักบัญชี ซึ่งอาจมีความเสี่ยง

 

พนักงานบริการลูกค้า หรือตัวแทนคอลล์เซ็นเตอร์

หลายคนน่าจะเคยมีประสบการณ์ในการคุยกับบอทเวลาโทรไปฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัทที่เราต้องการติดต่อ ซึ่งงานแบบนี้ ChatGPT และเทคโนโลยีลักษณะเดียวกันก็ทำได้ โดยบริษัทวิจัยอย่าง Gartner ยังคาดการณ์ว่าแชทบอทจะกลายเป็นช่องทางหลักในการให้บริการลูกค้าถึง 25% ภายในปี 2027

 

Source: https://www.businessinsider.com/chatgpt-jobs-at-risk-replacement-artificial-intelligence-ai-labor-trends-2023-02#customer-service-agents-10

Related Articles