3 ฟีเจอร์เด็ด ช่วยใช้ LINE แบบไม่กวนใจใคร

Share

 

3 ฟีเจอร์เด็ด ช่วยใช้ LINE แบบไม่กวนใจใคร

 

รู้แหละ…ว่าบางทีชีวิตออนไลน์มันสนุกน้อยลง เพราะทั้งเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงาน และเรื่องเรียนมาอยู่บนออนไลน์แทบทั้งหมด หลายๆ คนหงุดหงิดเพราะถูกกวนใจ เพราะเส้นแบ่งความเป็นส่วนตัวจางลงไปทุกที (หรือบางทีเราเองอาจไปกวนใจใครแบบไม่รู้ตัว?) วันนี้เราเลยมาแชร์ 3 ฟีเจอร์ไม่กวนใจ ให้ใช้ LINE สื่อสารในชีวิตประจำวันแบบไม่สะดุด…และสบายใจยิ่งขึ้น

1. “อ่านทั้งหมด (Read all)” จบวันเคลียร์แชทไม่ให้ตกค้างคาใจ 

ทีมดองแชทที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งใจดอง ขึ้นแจ้งเตือนเป็นสิบ เป็นร้อย บางคนเป็นพัน ซึ่งบางทีก็ไม่สามารถกดอ่านได้ทั้งหมดได้ แต่ตัวเลขที่ขึ้นค้างก็ขัดตาขัดใจเหลือเกิน โหมด “อ่านทั้งหมด” (Read All) จึงถูกทำมาเพื่อเราโดยเฉพาะ ชาว iOS ไปที่ปุ่ม “สามขีด” มุมขวาห้องแชทหลัก ส่วนชาวแอนดรอยด์ไปที่ปุ่ม “สามจุด” ในตำแหน่งเดียวกัน จากนั้นก็เลือกอ่านทั้งหมด เป็นอันว่าเคลียร์ทุกแชทในทันที

2. “ส่งโดยไม่แจ้งเตือน” (Send Silently)” ส่ง LINE ยังไงไม่ให้รบกวนผู้รับ

ถ้าเลือกได้เราคงไม่อยากส่ง LINE กันนอกเวลางานหรือเวลาเรียน หรือยามค่ำคืนเพราะเกรงว่าจะรบกวนผู้รับ แต่บางทีอาจมีความจำเป็นที่ต้อง “แจ้งทิ้งไว้ก่อน” ปุ่ม “ส่งโดยไม่แจ้งเตือน” (Send Silently) จึงทำมาเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ เริ่มต้นด้วยการตั้งค่าปุ่มดังกล่าวให้ใช้งานได้ เพียงไปที่แท็บตั้งค่าบนแอปฯ LINE เลือก LINE Labs และ เลือกเปิดใช้งาน “ส่งข้อความโดยไม่แจ้งเตือน” (Silent Messaging) โดยเมื่อเราจะส่งข้อความหรือไฟล์ต่างๆ ให้ กดค้างที่ปุ่มส่ง แล้วเลือก “ส่งโดยไม่แจ้งเตือน” (Send Silently) เท่านี้ก็จะเป็นการแจ้งทิ้งไว้ก่อน โดยไม่แจ้งเตือนผู้รับ ผู้รับจะเห็นก็ต่อเมื่อเปิดหน้าแชทหลักเท่านั้น เสมือนเขียนโน้ตแปะไว้หน้าห้องก่อน แต่ไม่เคาะประตูนั่นแหละ

3. “ปิดการแจ้งเตือน” (Mute) LINE ไม่รบกวนเวลาทำงานและเวลาส่วนตัว

หลายคนคุ้นชินกับการปิดแจ้งเตือนเฉพาะเพื่อนบางคนหรือกลุ่มบางกลุ่ม แต่จริงๆ แล้ว LINE มีโหมดการปิดแจ้งเตือนหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้และช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ “ปิดแจ้งเตือนชั่วคราว” ที่สามารถเลือกได้ว่าจะเป็น 1 ชม. สำหรับช่วงเวลาที่ต้องการสมาธิทำงาน หรือ ปิดแจ้งเตือนถึง 8.00 น. สำหรับการพักผ่อนยามค่ำคืน แม้จะไม่ได้ปิดการแจ้งเตือนแยกเป็นรายคนก็ตาม และยังมีอีกหลากหลายโหมดให้เลือก เช่น ปิดการแจ้งเตือนเมื่อมีการกล่าวถึงคุณ ฯลฯ ไม่อยากให้รบกวนแบบไหน ก็มีให้เลือกตั้งค่าได้เลย

ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ก็เป็นส่วนช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตดิจิทัลอย่างยั่งยืน (LINE Digital Well-being) ในแคมเปญ THE OFFLINE HOUR ที่ LINE ประเทศไทยกำลังเดินหน้าผลักดันให้ผู้ใช้ LINE สามารถอยู่ร่วมกันในสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่บนโลกดิจิทัล

innomatter

innomatter

ข่าวไอที นวัตกรรม พลังงาน และความยั่งยืน

Related Articles