ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย มุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2039

Share

 

ยูนิลีเวอร์ นำร่องด้วยความสำเร็จจากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขต (Scope) ที่ 1 และ 2 ได้แล้วถึง 72% นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 ด้วย AI เพื่อยกระดับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทานการจัดการพลาสติก 

ยูนิลีเวอร์ ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 1 และ 2 ให้ได้ 100% ภายในปี พ.ศ. 2573 พร้อมทั้งมุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 3 ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมในห่วงโซ่อุปทานและการใช้ผลิตภัณฑ์ให้ได้ 42% ภายในปีเดียวกัน

นอกจากนี้ บริษัทยังมีเป้าหมายด้านการจัดการพลาสติกที่ชัดเจน โดยมุ่งเพิ่มสัดส่วนพลาสติกรีไซเคิลในบรรจุภัณฑ์ให้ได้ 25% ภายในปี พ.ศ. 2568 ลดการใช้พลาสติกใหม่ (virgin plastic) ลง 30% ภายในปี พ.ศ. 2569 และ 40% ภายในปี พ.ศ. 2571 เทียบกับปีฐาน พ.ศ. 2562 รวมถึงดำเนินการตามแผนที่จะทำให้บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบแข็งทั้งหมดสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ รีไซเคิล หรือย่อยสลายได้ภายในปี พ.ศ. 2573 และบรรจุภัณฑ์แบบยืดหยุ่นภายในปี พ.ศ. 2578

 

 

ณัฏฐิณี เนตรอำไพ ที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กร องค์กรสัมพันธ์ และความยั่งยืน กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า ยูนิลีเวอร์ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการนำเสนอทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งด้านประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และการรักษ์โลกให้กับผู้บริโภค ปัจจุบัน 57% ของบรรจุภัณฑ์พลาสติกจากยูนิลีเวอร์สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ รีไซเคิล หรือย่อยสลายได้

โดยภายใต้โครงการ Bright Future ซึ่งต่อยอดมาจาก Clean Future ที่ริเริ่มแนวคิดเมื่อปี พ.ศ. 2562 ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาบรรจุภัณฑ์และส่วนผสมให้ยั่งยืนมากขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติและย่อยสลายได้ อย่างซันไลต์ RHAMNO Clean เพื่อช่วยลด CO2 ในขอบเขตที่ 3

ที่สำคัญ เราได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มาประยุกต์ใช้ในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน การผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนได้ในท้ายที่สุด

 

 

ความสำเร็จของยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ยังเห็นได้จาก โรงงานเกตเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ได้รับการรับรองการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ตั้งแต่ปี 2566 ผ่านการพัฒนา Biomass Boiler, Solar Roof เพื่อจัดหาพลังงานหมุนเวียน ตลอดจนการนำเทคโนโลยี Digital Twin มาจำลองการผลิตและออกแบบบรรจุภัณฑ์ ทำให้ลดต้นทุน ลดของเสีย และเพิ่มคุณภาพโดยไม่ต้องใช้การทดลองจริง

ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่าความยั่งยืนไม่ใช่เพียง พันธกิจด้านสังคม แต่ยังเป็น กลยุทธ์ทางธุรกิจ ที่เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว โดยการบูรณาการ เทคโนโลยี AI และดิจิทัลเข้ากับทุกห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่แท้จริง

“เรามั่นใจว่าความยั่งยืนคือหัวใจของธุรกิจในการเติบโตอย่างมั่นคง” ณัฏฐิณี กล่าว “ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและการใช้ศักยภาพด้านนวัตกรรม ยูนิลีเวอร์จะเดินหน้าสร้างทั้ง คุณค่าทางธุรกิจ และ คุณค่าเพื่อโลกและสังคม อย่างเป็นรูปธรรม”

Related Articles