US Navy เปิดหน้า แต่ US Air Force กลับหลบมุม?
ความเดิมจากภาคแรกใน EP3 ผมพาทุกท่านไปวิเคราะห์รายงาน UAP ฉบับปี 2021 ที่ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะอย่างเป็นทางการจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐตามคำสั่งของสภา สรุปเนื้อหาหลักคือคณะทำงานได้นำข้อมูลการพบเห็น UAP/UFO ของเจ้าหน้าที่การทหารระหว่างปี 2004 – 2021 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกองทัพเรือมาสรุปวิเคราะห์อย่างละเอียด (ในปี 2019 กองทัพเรือมีการแก้ข้อบังคับ ส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่รายงานการพบเห็น UAP/UFO ได้ง่ายขึ้น) โดยมีจุดที่น่าแปลกใจคือฝั่งกองทัพอากาศเงียบมากและไม่ค่อยให้ความร่วมมือเรื่องการศึกษา UAP สักเท่าไหร่
Roswell Incident ปฐมบทของเทคโนโลยีที่หลายคนบอกว่ามาจากนอกโลก
ถ้าเราย้อนไปดูเหตุการณ์ Roswell Incident วันที่ 7 July 1947 ที่ทหารอากาศในขณะนั้น (US Army Air Forces) เก็บกู้ยาน UFO ตกพร้อม “ผู้รอดชีวิต” แล้วนำไปเก็บไว้เป็นความลับระดับสูงสุด สองเดือนต่อมารัฐบาลกลางประกาศจัดตั้งกองทัพอากาศ (US Air Force) แยกเป็นอิสระและจัดตั้ง CIA พร้อมกันในวันที่ 18 September 1947! นับแต่นั่นมาเชื่อกันว่ากองทัพอากาศใช้ Black Budget ร่วมมือกับบริษัทเอกชนผู้ผลิตเครื่องบินรบระดับสุดยอด เช่น Lockheed Martin Skunk Works ให้ช่วย reverse engineer
เพื่อพยายามนำเทคโนโลยีมาสร้างเครื่องบินรบและอาวุธให้กองทัพอากาศ โดยมีหลายเทคโนโลยีปัจจุบันที่อาจมีจุดเริ่มต้นมาจากความพยายามดังกล่าว เช่น เครื่องบิน Stealth หรือแม้แต่การคิดค้น IC Chip และ Fiber Optic! แต่ที่วงการผู้เชี่ยวชาญ UAP/UFO ถือกันว่าเป็นที่สุดของอาวุธลับสุดยอดของกองทัพอากาศสหรัฐคือยานบินสามเหลี่ยม TR3B ที่ใช้เทคโนโลยี Anti-Gravity! ที่ลือกันว่าทำสำเร็จนานแล้วแต่ยังคงเก็บไว้เป็นความลับระดับสูงสุด ซึ่งมีผู้คนถ่ายภาพและคลิปยานลึกลับสามเหลี่ยมดังกล่าวมาเผยแพร่ให้เห็นกันเรื่อยๆ ไว้จะมาเล่าเรื่องนี้ในโอกาสต่อไปครับ
รายงาน UAP Report 2021 ฉบับลับ (Classified UAP Report 2021)
ในรายงาน UAP Report 2021 มีการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมด 144 เหตุการณ์ มี 80 เหตุการณ์ที่ยืนยันด้วยหลายอุปกรณ์กล้องและเซ็นเซอร์ตรวจจับจากหลายตำแหน่งพร้อมกันในการซ้อมรบร่วมกันของ เรือบรรทุกเครื่องบิน, เรือรบ, เรือดำน้ำ, เครื่องบินรบและเครื่องบินตรวจการ โดยข้อมูลสอดคล้องกันทั้งหมดว่าตรวจพบ UAP/UFO ที่ลอยอยู่จริง ไม่ใช่ภาพลวงตา อาการตาฝาด หรือความผิดพลาดของอุปกรณ์เซ็นเซอร์บนเครื่องบินหรือเรือลำเดียว โดยคณะทำงานพบว่ามีเพียง 1 เหตุการณ์ที่สามารถชี้ชัดได้ว่า ไม่ใช่ UAP/UFO แน่นอน ส่วนอีก 143 เหตุการณ์ไม่สามารถอธิบายได้ แต่ตั้งสมมติฐานว่าอาจเป็น 5 สิ่งนี้
- Airborne Clutter เช่น นก balloon drone หรือแม้แต่ขยะลอยมา
- Natural Atmospheric Phenomena คือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในอากาศ
- US Government or Industry Developmental Program คือเทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นความลับของสหรัฐเอง ทั้งของรัฐและบริษัทผลิตอาวุธเอกชน
- Foreign Adversary Systems คือ ระบบสอดแนมเทคโนโลยีขั้นสูงของประเทศศัตรู
- Other คือ อื่นๆ โดยไม่ตัดความเป็นไปได้เรื่องต่างดาว (extra-terrestrial) หรือแม้แต่ต่างมิติ! (ultra-terrestrial) ใครที่เคยศึกษา Quantum Physics และ M-theory มาบ้างอาจจะพอทราบว่านักฟิสิกส์ปัจจุบันหลายคนเชื่อกันว่าจักรวาลที่เรารู้จักน่าจะมี 11 มิติ!
ต้องขอบคุณเว็บไซต์ The Black Vault ที่ใช้ช่องกฎหมาย FOIA เรียกร้องขอรายงานฉบับลับ (Classified Report) ออกมาเผยแพร่จนได้ แม้ว่าจะถูกคลุมดำเนื้อหาสำคัญทั้งหมด แต่เราก็พอจะเห็นเค้ารางข้อมูลเพิ่มเติมจากฉบับสาธารณะ เช่น อธิบายการแสดงแสนยานุภาพทางเทคโนโลยีของ UAP ในรายงานหน้า 6 โดยอ้างถึงเหตุการณ์ที่กระแสลมแรงขนาดนักบินต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการประคองเครื่องบินรบให้ลอยอยู่ในอากาศ
แต่ UAP กับลอยนิ่งและเคลื่อนที่ได้แบบที่กระแสลมแรงไม่มีผลอะไรเลย อีกส่วนที่น่าสนใจมากคือมีภาพประกอบ “รูปทรง UAP ที่พบบ่อย” (Common Shapes) ในรายงานหน้า 13 แต่แน่นอนว่าภาพถูกคลุมดำทั้งหมดเป็นต้น ทั้งนี้ขอเชิญทุกท่านตามไปอ่าน รายงานลับฉบับนี้ได้ที่นี
เทคโนโลยีของใครกันแน่?
จากข้อมูลในหลายเหตุการณ์ที่บันทึกไว้ด้วยกล้องและเซ็นเซอร์ต่างๆ ประกอบการให้ข้อมูลเพิ่มเติมของนักบินและเจ้าหน้าที่หลายคน บ่งชี้ลักษณะและพฤติกรรมเฉพาะของ UAP เช่น
- มีหลายกรณีที่นักบินพบ UAP/UFO ลอยนิ่งหรือบินต้านกระแสลมแรงจัดได้แบบไม่สะทกสะท้าน เช่นกรณีคลิปวิดีโอ Gimbal UFO จากการซ้อมรบของเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Theodore Roosevelt ปี 2015 เสียงนักบินในคลิปรายงานด้วยความตื้นเต้นว่า UFO บินสวนกระแสลมแรงถึง 120 knots (222กม/ชม) แถมมีการเอียงยานโชว์ (Gimbal) ต้านลมมากขึ้นอีก! ให้เราลองพิจารณาดูว่าถ้าเป็นโดรนประเภทใบพัดหรือประเภทเฮลิคอปเตอร์คงต้านลมแรงขนาดนั้นไม่ได้แน่ ส่วนถ้าเป็นเครื่องบินรบหรือโดรนทหารเครื่องยนต์เจ็ตที่ต้องพุ่งไปข้างหน้าตลอดเวลา จะต้องปล่อยความร้อนจำนวนมากออกมาจากเร่งเครื่องต้านลม
- แต่เซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อนกลับตรวจพบว่า UAP เหล่านี้ไม่มีการปล่อยพลังงานความร้อนให้เห็น อีกทั้งเมื่อวัตถุเหล่านี้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงแบบหลายเท่าความเร็วเสียง กลับไม่เกิดปรากฏการณ์ Sonic Boom แบบที่เครื่องบินหรือจรวดทุกชนิดต้องเกิด ทำให้อนุมานได้ว่า UAP เหล่านี้ไม่ได้ทำงานอยู่บนหลักฟิสิกส์และวิศวกรรมอากาศพลศาสตร์ที่มนุษย์รู้จัก
- มีรายงานพบเห็น UAP เคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือเสียงหลายเท่าแล้วหยุดลอยนิ่งกลางอากาศได้แบบทันที และมีการบินเปลี่ยนทิศหักข้อศอก 90 องศาได้โดยไม่ลดความเร็ว อย่างกรณี USS Nimitz นักบินรายงานว่าช่วงที่ Tic Tac UFO ลอยตัวในอากาศเหนือน้ำทะเลนั้น เค้าเห็นด้วยตาว่ามันเคลื่อนที่เหมือนลูกปิงปองเด้งไปมา! ในเชิงฟิสิกส์และวิศวกรรมแล้ว เราต้องใช้วัสดุและอุปกรณ์เครื่องยนต์แบบไหนที่ทนแรง G ได้ขนาดนั้น และถ้าสมมติมีว่าสิ่งมีชีวิตควบคุมอยู่ข้างใน มันก็น่าจะเละเป็นโจ๊กอยู่ในนั้นเพราะแรง G!
- มีรายงานพบเห็น UAP บินขึ้นลงจากอากาศสู่น้ำและน้ำสู่อากาศ (Transmedium UAP) เคยมีความพยายามให้เรือดำน้ำในบริเวณใกล้เคียงตามไปดู แต่ความเร็วต่างกันมากจนต้องยกเลิกการติดตาม
- บ่อยครั้งที่เจ้าหน้าที่พบ UAP ตลอดสัปดาห์ที่ซ้อมรบอยู่ในทะเล บางครั้งลอยนิ่งอยู่เป็นวันเหมือนจงใจให้มนุษย์เห็น ไม่ได้ตั้งใจหลบซ่อนใดๆ (การที่ UAP ลอยนิ่งต้านกระแสลมได้เป็นวันๆ จะต้องใช้พลังแบบไหน?) สมมติว่าเป็นโดรนสอดแนมจีนก็ไม่น่าเปิดเผยตัวขนาดนั้น หรือสมมติต่อว่าเป็นสุดยอดโดรน Black Budget ของ US Air Force การมาโผล่กลางสนามซ้อมรบของฝ่ายเดียวกันโดยไม่บอกกล่าว ถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมาก ซึ่งมีหลายครั้งที่นักบินต้องเขียนรายงานว่า UAP มาใกล้จนเกือบเกิดอุบัติเหตุชนกับเครื่องบินของตน พฤติกรรมเสี่ยงกับพวกเดียวกันแบบนี้จึงไม่น่าเป็นไปได้ ทำให้สมมติฐานที่ว่า UAP อาจเป็นเทคโนโลยีของจีนหรือของสหรัฐเองจึงดูจะมีน้ำหนักน้อยลงไปมาก (แต่อย่าลืมเรื่อง TR3B ที่เกริ่นไว้ด้านบน!?!)
- มีคนทำคลิปสรุปเหตุการณ์ Tic Tac UFO จากกรณี USS Nimitz ปี 2004 และ Gimbal UFO จากกรณี USS Theodore Roosevelt ปี 2015 พร้อมกราฟฟิคจำลองเหตุการณ์ให้ชมค่อนข้างละเอียด ผมแนะนำให้ไปชม ได้ที่นี่ สนุกใช้ได้เลยครับ
รายงาน UAP ล่าสุดฉบับ 2022 US Navy เปิดหน้า แต่ US Air Force กลับหลบเข้ามุม ซะอย่างนั้น
ภายในเดือน November 2022 นี้ทางสภาจะต้องได้รับรายงานอัพเดต UAP ฉบับล่าสุด (คาดว่าจะมีทั้งฉบับสาธารณะและฉบับลับเช่นเดิม) ซึ่งเมื่อใกล้เวลาเข้ามาเรื่อยๆ ก็เริ่มมีข่าวลือออกมาว่ารายงาน UAP ปี 2022 นี้อาจจะเริ่มเปลี่ยนทิศทางข้อสรุปกลายเป็นว่า UAP ส่วนใหญ่เป็นบอลลูนและโดรนสอดแนมของศัตรู (ซะงั้น!) อีกทั้งเริ่มมีท่าทีว่าการให้ข้อมูลและคลิปวิดีโอ UAP สู่สาธารณะผ่านกฎหมาย FOIA นั้น ต่อไปจะยากมากขึ้นโดยอ้างเหตุผลความมั่นคงนั่นเอง
ซึ่งถ้าผู้อ่านยังพอจำความขัดแย้งทางความคิดเรื่อง UAP/UFO ภายใน Pentagon ที่เล่าให้ฟังใน EP3 ได้ เราก็อาจจะเห็นแทคติกการรับมือกับแรงกดดันให้เผยความลับเรื่อง UAP/UFO ของ US Air Force ที่ใช้แนวทางเดิมมาตลอดหลายสิบปี เริ่มต้นที่ Project Blue Book ในช่วงปี 1952 – 1969 เลย คือตั้งคณะทำงานศึกษาเป็นทางการแต่สุดท้ายสรุปว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ เชิญทุกคนแยกย้ายกลับบ้านได้
พวกเราก็ได้แต่หวังว่า “กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลัง” ความพยายามกดดันครั้งล่าสุดในยุคปัจจุบันนี้จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ประกอบกับสภาพสังคมและการเข้าถึงข้อมูลของผู้คนยุคนี้เปลี่ยนไปจากอดีตมาก ยิ่งถ้าเหตุผลจากทางการที่จะอธิบายพฤติกรรมท้าทายฟิสิกส์ที่กล่าวไว้ด้านบนฟังดูไม่มีน้ำหนักแล้วผู้คนคงเริ่มไม่เชื่อ อย่างไรก็ตามใน EP หน้าเราจะมาคุยวิเคราะห์รายงาน UAP ล่าสุดฉบับ 2022 กันครับ
โปรดติดตามตอนต่อไป …
