ทางม้าลายมีไว้ทำไม!
องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุในรายงาน Global Status Report on Road Safety ปี 2561 ว่า ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตบนท้องถนนสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในเอเชีย โดยเสียชีวิต 32.7 คน ต่อประชากร 1 แสนคน โดยเป็นอันดับ 9 ของโลก
ที่น่าตกใจคือ นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัย มูลนิธินโยบายถนนปลอดภัย เปิดเผยผ่านรายการโหนกระแสว่า มีผู้เสียชีวิตจากการข้ามถนนบนทางม้ายลายในประเทศไทยปีละราว 500 ราย
เป็นที่มาของการตั้งข้อสังเกตถึงการมีขึ้นของทางม้าลาย!
แค่ทางม้าลายอย่างเดียวเพียงพอที่จะให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนหรือไม่?
ถ้าย้อนกลับไปดูจุดกำเนิดของทางม้าลายจะพบว่าก่อนจะเป็นทางม้าลายที่เป็นสัญลักษณ์ของทางข้ามถนนสากลนั้นมีการออกแบบและทดสอบมาหลายปี
ตั้งแต่ใช้การปักหมุดด้วยปุ่มเหล็กเล็กๆ บนเส้นถนน ให้สัญญาณคนขับรถ และใช้เสาติดตั้งด้านข้างบนทางเท้าเพื่อให้สัญญาณแก่คนข้าม เมื่อ ค.ศ.1931 ที่ประเทศอังกฤษ แล้วค่อยๆ พัฒนามาเรื่อยๆ มีการทดสอบสีของทางม้าลาย ด้วยสีเหลือง-น้ำเงิน ขาว-แดง
พบว่า ขาว-ดำ เหมาะที่สุด โดยใช้คู่กับเสาไฟสัญญาณ Belisha beacon สำหรับกดให้รถยนต์ที่กำลังขับขี่มาเมื่อเห็นแสงโคมสีส้มจะหยุดให้ข้ามอย่างปลอดภัย ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการตีเส้นซิกแซกก่อนถึงทางม้าลายเพื่อเตือนผู้ขับขี่อีกชั้นหนึ่งให้ชะลอความเร็วลง
ที่สุดได้ออกมาเป็นทางม้าลายแรกของโลกที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ทางข้ามถนนอย่างเป็นทางการ เมื่อ ค.ศ.1951 ที่เมือง Slough ประเทศอังกฤษ
อย่างไรก็ตาม ทางม้าลายได้มีการพัฒนา ออกแบบให้สอดคล้องไปกับสถานที่ตามความเหมาะสม ตัวอย่างเช่น ที่ย่านชิบุยะ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนที่แม้แต่คนญี่ปุ่นยังยอมรับว่าเป็นทางแยกที่ผู้สัญจรไปมามากที่สุดในโลก โดยข้อมูลในปี 2016 ระบุว่ามีจำนวนผู้สัญจรข้ามถนนมากถึง 3,000 คนต่อไฟเขียวในทุก 2 นาที ออกแบบเป็นทางม้าลายไขว้
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถูกรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ชนเสียชีวิตที่หน้าสถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ใจกลางกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา
เกิดข้อถกเถียงกันเป็นวงกว้าง บ้างเสนอความเห็นว่าควรจะมีการติดตั้งลูกระนาดก่อนถึงทางม้าลาย เพื่อชะลอรถยนต์/รถจักรยานยนต์ที่ขับขี่มาเร็ว บ้างว่าต้องติดตั้งสัญญาณไฟเพิ่ม รวมทั้งติดตั้งโคมไฟให้แสงสว่างเผื่อในเวลากลางคืน
หนึ่งในนั้นคือ การทำทางม้าลายสามมิติ หรือทางม้าลาย 3D
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการทดลองและใช้จริงมาในหลายพื้นที่ในประเทศไทย ตัวอย่างเช่น ที่บริเวณทางข้ามตลาดการค้าชายแดนวัดดอยเวา อ.แม่สาย จ.เชียงราย กรมทางหลวงจัดทำขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2559 กระตุ้นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้ทางม้าลายทุกครั้งที่ข้ามถนน
โครงการ “3D Crosswalk” นี้ ส่วนหนึ่งของโครงการ “จุฬาฯ สมาร์ทซิตี้ ด้าน SMART LIVING” ที่สยาWhy is there a crosswalk?มสแควร์ซอย 1 ไปจนถึง 3 จุดที่ 2 อุทยาน 100 ปีจุฬาฯ (จุฬาฯ ซอย 26), จุดที่ 3 ทางเชื่อมระหว่างคณะนิติศาสตร์ กับสามย่านมิตรทาวน์, จุดที่ 4 I AM Park , จุดที่ 5 Block 28, จุดที่ 6 สวนหลวงสแควร์ เชื่อมกับ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาฯ และจุดที่ 7 ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน
เพื่อจูงใจให้คนข้ามถนนหันมาใช้ทางม้าลายในการข้ามถนน อันเป็นการรณรงค์และสร้างวินัยจราจรให้คนข้ามถนนถูกที่ช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน.
อ้างอิงภาพจาก: Wikipedia, PMCU, Creativemove, Hatyai Today