Digital divide ความเท่าเทียมด้านทักษะดิจิทัล ยกระดับการศึกษาไทยด้วยเทคโนโลยี

Huawei นำร่องโครงการ “รถดิจิทัล” เพื่อสังคม เร่งสร้างความเท่าเทียมด้านทักษะดิจิทัล ยกระดับการศึกษาไทยด้วยเทคโนโลยี
Share

 

Huawei นำร่องโครงการ “รถดิจิทัล” เพื่อสังคม เร่งสร้างความเท่าเทียมด้านทักษะดิจิทัล ยกระดับการศึกษาไทยด้วยเทคโนโลยี

 

บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด นำร่องโครงการ “รถดิจิทัลเพื่อสังคม” เร่งสร้างความเท่าเทียมด้านทักษะดิจิทัล ยกระดับการศึกษาไทยด้วยเทคโนโลยี โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล โดยเริ่มต้นโครงการที่โรงเรียนสิงหพาหุ (ประสานมิตรอุปถัมภ์) จังหวัดสิงห์บุรีเป็นที่แรก ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสถานศึกษาในประเทศไทย เพื่อมุ่งเสริมสร้างทักษะด้านดิจิทัลให้แก่เยาวชนและประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ทั้งนี้โครงการดังกล่าวยังมีจุดประสงค์เพื่อตอบรับการเติบโตด้านเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล และมุ่งพัฒนาประเทศไทยให้เป็นดิจิทัลฮับแห่งอาเซียนได้อย่างยั่งยืน โดยได้รับเกียรติจากนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) ร่วมลงพื้นที่ และเยี่ยมชมโครงการดังกล่าวด้วย

จากการเล็งเห็นถึงความพยายามของรัฐบาลไทยในการผลักดันนโยบายเพื่อพัฒนาไอซีทีและเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากนโยบายประเทศไทย 4.0 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G IoT และคลาวด์ ซึ่งจะผลักดันให้เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศมีสัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ถึง 30% ภายในปี พ.ศ. 2573 ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา หัวเว่ยได้ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ ในไทยเพื่อติดตั้งสถานีฐาน 5G ไปแล้วกว่า 20,000 แห่ง ร่วมผลักดันให้มีจำนวนผู้ใช้งาน 5G ในประเทศถึง 4.2 ล้านคน ซึ่งมากกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียนถึง 2.6 เท่า

ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยต้องการกำลังคนในสายงานดิจิทัลเป็นจำนวนมาก แต่คนที่มีทักษะในอุตสาหกรรมนี้ยังน้อย ทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านทักษะดิจิทัลและการขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ทั้งนี้ หัวเว่ยเชื่อว่าทักษะด้านดิจิทัลจะไม่ได้เป็นเพียงแค่รากฐานสำคัญสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลแต่ยังเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันในยุคดิจิทัล โดยจะเป็นการเปิดโอกาสทางอาชีพการงานใหม่ๆ ที่ดีขึ้นให้แก่ประชาชนและเยาวชนไทยได้อีกด้วย

ในฐานะที่หัวเว่ยเป็นผู้ผลักดันด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและเป็นผู้ส่งเสริมด้านคุณค่าทางสังคมมาอย่างต่อเนื่อง หัวเว่ยได้ดำเนินการฝึกอบรมเพื่อให้เยาวชนและประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเทคโนโลยีดิจิทัลผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการ Huawei ASEAN Academy โครงการ ICT Academy โครงการ Seeds for Future เป็นต้น โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 จนถึงปัจจุบัน หัวเว่ยได้มีส่วนช่วยเสริมสร้างบุคลากรด้านดิจิทัลในประเทศไปแล้วกว่า 40,000 คน ซึ่งโครงการรถดิจิทัลนี้จะช่วยตอบโจทย์ด้านการนำองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีไอซีทีเข้าไปสู่พื้นที่ห่างไกลของประเทศ

นายเอดิสัน สวี่ คณะกรรมการบริหารบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงรายละเอียดของโครงการรถดิจิทัลในครั้งนี้ว่า “ในฐานะตัวแทนจากหัวเว่ย ผมต้องขอขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ให้เกียรติมาเยี่ยมชมโครงการในครั้งนี้ รวมทั้งขอบคุณทางโรงเรียนสิงหพาหุ (ประสานมิตรอุปถัมภ์) ที่ให้ความร่วมมือในการยกระดับการศึกษาให้กับนักเรียน เราหวังว่าโครงการนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตด้านดิจิทัลและเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ให้แก่ประชาชนและเยาวชนในพื้นที่ได้ อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในด้านทักษะดิจิทัลให้กับประเทศไทย ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการนำรถดิจิทัลมาเพื่อให้ความรู้กับนักเรียนและประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นช่องทางในการเข้าถึงฐานความรู้พื้นฐานและทักษะด้านไอซีที ทั้งนี้หลักสูตรการเรียนการสอนถูกออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญของหัวเว่ย เพื่อให้หลักสูตรฝึกอบรมสามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีองค์ความรู้ที่นำไปใช้งานได้จริง

นอกจากความรู้พื้นฐานของอุตสาหกรรมไอซีทีและหลักสูตรภาคปฏิบัติเพื่อช่วยเสริมความรู้ความเข้าใจในการใช้งานมากยิ่งขึ้นแล้ว หลักสูตรของหัวเว่ยยังได้เน้นย้ำหลักสูตรด้านภัยร้ายจากอินเตอร์เน็ต เสริมสร้างความตระหนักรู้ในการใช้งานอย่างถูกวิธี ทั้งนี้ในก้าวแรก หัวเว่ยวางแผนจะนำรถดิจิทัลไปฝึกอบรมทักษะด้านดิจิทัลในอีก 10 จังหวัดของไทย ซึ่งจะครอบคลุมชุมชนในพื้นที่ห่างไกลกว่า 40 แห่ง โดยเยาวชนและประชาชนในพื้นที่อีกกว่า 1,500 คน จะได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าว ซึ่งเราจะทำงานร่วมกับภาครัฐและสถานศึกษาต่างๆ ในไทยอย่างต่อเนื่อง”

 

Huawei นำร่องโครงการ “รถดิจิทัล” เพื่อสังคม เร่งสร้างความเท่าเทียมด้านทักษะดิจิทัล ยกระดับการศึกษาไทยด้วยเทคโนโลยี

ด้านนายชัยวุฒิ​ ธนาคมานุสรณ์​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม​ (MDES) ได้ให้เกียรติเยี่ยมชมโครงการรถดิจิทัลในครั้งนี้และให้สัมภาษณ์ว่า “ในฐานะตัวแทนของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผมต้องขอขอบคุณหัวเว่ยและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านสำหรับความทุ่มเทและความอุตสาหะที่ทำให้โครงการรถดิจิทัล ในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ทางรัฐบาลยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลฮับแห่งภูมิภาคอาเซียน ซึ่งบุคลากรที่มีทักษะด้านดิจิทัลและองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีไอซีทีก็ถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะทำให้เป้าหมายดังกล่าวเป็นจริงขึ้นมาได้ และผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า การพัฒนาเยาวชนจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน”

ภายใต้กลยุทธ์ที่แข็งแกร่งในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและเทคโนโลยีให้แก่ประเทศไทยของภาครัฐ และการมีส่วนช่วยผลักดันจากภาคเอกชน ส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งในระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะประสานความร่วมมือกับหัวเว่ยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อการใช้นวัตกรรมดิจิทัลผลักดันภาคการศึกษาและทักษะบุคลากรของประเทศไทยให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด

โครงการรถดิจิทัลนี้ เป็นการให้ความสำคัญถึงบทบาทขององค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีในด้านการศึกษา หัวเว่ย ประเทศไทย รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของประเทศไทยตลอดช่วงเวลา 23 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งยังได้รับความสนับสนุนเป็นอย่างดีจากลูกค้าและพาร์ทเนอร์ในอีโคซิสเต็มของเรา โดยภายใต้พันธกิจ “เติบโตไปพร้อมกับประเทศไทย และร่วมสนับสนุนประเทศไทย (Grow in Thailand, Contribute to Thailand)” หัวเว่ยจะมุ่งมั่นนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าสู่ทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กรต่อไป โดยไม่ทิ้งใครเอาไว้เบื้องหลังในยุคดิจิทัล

innomatter

innomatter

ข่าวไอที นวัตกรรม พลังงาน และความยั่งยืน

Related Articles