กูเกิล ในวัยหนุ่ม ผ่านอะไรมาบ้าง

Google กับเรื่องในวัยหนุ่ม กว่าจะยืนหนึ่งสมรภูมิ Search Engine
Share

 

24 ปี Google จาก Search Engine สู่บริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แล้วหลังจากนี้จะได้เห็นอะไร วันเกิดครบ 24 ปีก็มาถึงในวันนี้ คงไม่มีใครคิดว่าจากไอเดียของสองหนุ่มนักศึกษาปริญญาเอก ของมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด และรู้หรือไม่เมื่อ 24 ปีที่แล้วไม่เกิดการผิดพลาดเราอาจจะไม่ได้รู้จักบริษัทในชื่ออย่างทุกวันนี้ก็เป็นได้

 

ถ้านับย้อนกลับไปเมื่อ 24 ปีที่แล้ว โลกของอินเทอร์เน็ตเองก็ไม่ได้รู้จัก Search Engine หรือเครื่องมือค้นหาข้อมูลอย่าง Google เป็นครั้งแรก แต่สมัยนั้นโลกของเรายังคงไม่ได้มีข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตมากนักทำให้รูปแบบของเครื่องมือค้นหาเว็บไซต์ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดตอนนั้น อยู่ในรูปแบบของ เว็บแหล่งรวบรวม หรือเราเรียกว่า เว็บท่า (Portal Web)

ด้วยแนวคิดที่แตกต่าง ทำให้ Google ในวันนี้สามารถแซงหน้ารุ่นพี่อย่าง Yahoo.com, AltaVista หรือไม่ว่าจะเว็บท่าหรือเว็บไดเรคทอรี่ใดๆ ทิ้งห่างอย่างไม่เห็นฝุ่น แม้ในช่วงแรกๆ อาจจะยังไม่ได้รับความสนใจ กระทั่งผู้มาก่อนอย่าง Jerry Yang ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Yahoo ยังไม่สนใจที่จะซื้อเทคโนโลยีของสองอัจฉริยะคนนี้ไป และอาจกำลังนั่งบ่นเสียดายอยู่ในตอนนี้ก็เป็นได้

ทำความรู้จักสองอัจฉริยะ

เริ่มต้น หลายคนคงอยากรู้ว่า “เขาคือใครหนอ เขามาจากไหน” สองอัจฉริยะอย่าง Sergey Brin และ Larry Page นั้น ไม่ใช่แค่เนิร์ดคอมพิวเตอร์ธรรมดา เพราะว่าพวกเขายังมองออกด้วยว่าด้วยพลังแห่งอินเทอร์เน็ตนั้นจะสามารถสร้างเงินทองให้งอกเงยผลิดอกออกผลได้มากขนาดไหน ซึ่งน่าจะหลังจากที่ได้นั่งมองเห็นความสำเร็จจากผลงานอันโดดเด่น ที่เรียกว่า Page Rank

Sergey BrinSergey Brin มีชื่อจริงว่า Sergey Mikhaylovich Brin เกิดเมื่อปี คศ. 1973 เชื้อสายยิว โดยพ่อและแม่อพยพมาจากรัสเซีย โดย ความอัจฉริยะของเขานั้นเรียกว่าเชื้อไม่ทิ้งแถว เพราะพ่อเป็นนักคณิตศาสตร์ ส่วนแม่เป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านอวกาศ ที่โดดเด่นขนาดที่ได้ไปทำงานที่ NASA ในฐานะของนักวิทยาศาสตร์อวกาศในโครงการต่างๆ ด้วย

Larry PageLarry Page หรือชื่อจริง Lawrence Edward Page มีเชื้อสายยิวเช่นเดียวกับ Sergey และได้รับ DNA ความฉลาดจากทั้งบุพการีทั้งสองเช่นกัน โดยพ่อของ Larry นั้นเป็นศาสตราจารย์ด้วยคอมพิวเตอร์ และแม่เป็นอาจารย์สอนการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เรียกว่าเชื้อไม่ทิ้งแถวกันเลยทีเดียว

ความเหมือนกันของสองคนนี้นอกจากความปราดเปรื่องเรื่องคอมพิวเตอร์แล้ว ทั้งสองคนยังถือว่าเป็นคนที่เรียกได้ว่าเก่งแบบสุดๆ อย่างที่ไม่ต้องสงสัย เพราะทั้งสองคนล้วนเรียนจบในระดับหัวแถวของเด็กรุ่นเดียวกัน จนถูกจัดอยู่ในกลุ่มอัจฉริยะ หรืออย่าง Sergey นั้นจบปริญญาตรีด้วยอายุ 19 ในขณะที่ช่วงอายุขนาดนี้ เด็กบางคนเพิ่งเริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัย หรือพักอ่านหนังสืออยู่บ้านหลังจบ ม. ปลายอยู่

เจอกันครั้งแรกที่ ม. แสตนฟอร์ด

หลายคนคงเคยรู้มาแล้วว่า ทั้งสองคนคิดโปรเจกต์เครื่องมือค้นหาหรือ Search Engine ได้ ในระหว่างที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด แต่หลายคนคงอยากรู้ว่า ณ โมเมนต์แรกที่ทั้งสองได้เจอหน้ากันนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เจอกันปุ๊บแล้วถูกใจคุยถูกคอกันเลยไหม หรือว่าออกมาการ มึนๆ เหมือนอย่างที่เด็กเนิร์ดเขาทำกัน

ถ้าคุณเลือกคำตอบหลังก็ถือว่าเข้าใจความเป็นปกติของอัจฉริยะทั้งหลาย เพราะครั้งแรกที่ Sergey รับหน้าที่เป็นรุ่นพี่พา Larry สำรวจภายในมหาวิทยาลัย จากคำบอกเล่าของทั้งสองผ่านทางสื่อหลายแห่งต่างสรุปบอกว่า ครั้งแรกที่ได้เจอหน้ากันทั้งสองคนไม่ได้คุยกันแบบคนปกติมากนัก เรียกว่าถามคำตอบคำ

แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งสองคนเริ่มมีอาการ คลิก กัน เพราะหลังจากที่ Sergey เล่าเรื่องอาคารหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัย อยู่ๆ ก็เกิดหัวข้อเรื่องของเกมส์คอมพิวเตอร์ขึ้นมา โดยที่ไม่ปรากฏว่าทั้งสองเริ่มเกิดหัวข้อสนทนากันด้วยเกมส์ไหน แต่หลังจากที่เกิดหัวข้อสนทนาแลกเปลี่ยนจากเรื่องเกมส์ก็เริ่มไหลไปเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาคอมพิวเตอร์ การเขียนโปรแกรม และหลังจากนั้นเป็นต้นมา Sergey และ Larry ก็กลายเป็นคู่หูกันตลอดมา

ปฐมบทของการเกิด Google

โปรเจกต์นี้เรียกว่าเป็นโครงงานวิจัยสำหรับดุษฎีนิพนธ์ของ Sergey และ Larry โดยที่แนวคิดของทั้งสองก็คือการมองหาไอเดียในการจัดลำดับและเรียงข้อมูลของเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีอยู่บนอินเทอร์เน็ต ซึ่ง ณ วันนั้นแนวคิดของทั้งสองยังไม่เคยมีใครตามทัน ที่มีอยู่แล้วและน่าจะดูใกล้เคียงที่สุด ก็น่าจะเป็น AltaVista (ซึ่งตอนนี้กลายเป็นของ Yahoo ไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปี 2003)

ก่อนหน้านั้น Sergey ได้ช่วยงานอาจารย์ที่ปรึกษาของเขาในโปรเจกต์ที่ชื่อว่า MIDAS (Mining Data At Stanford) ซึ่งเป็นงานวิจัยในการหาความสัมพันธ์ของข้อมูลที่มีอยู่ในเอกสารจำนวนมากๆ โดยต้องหาข้อมูลที่อยู่กระจัดกระจาย และต้องนำมารวมกันเพื่อจัดเรียงให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ให้ง่ายต่อการเรียกใช้ อีกทั้งต้องดึงเอามาใช้ประโยชน์ได้

ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มตกลงปลงใจเปิดบริษัทร่วมกัน ทั้งสองคนได้นำเอาไอเดียที่คิดได้ ไปนำเสนอให้ทั้ง AltaVista และ Yahoo โดยเสนอขายระบบและซอร์สโค๊ดพร้อมขายตัวเองไปด้วยในฐานะผู้ดูแลและพัฒนาในราคา 1,000,000 ดอลลาร์ แต่ไม่มีใครสนใจเพราะแนวคิดของ Google นั้นสวนทางกับแนวธุรกิจของทั้งสอง Search Engine ชื่อดังในขณะนั้น

เมื่อทั้งสองไม่ประสบความสำเร็จในการขาย เลยตัดสินใจ “ทำมันเองซะเลยเป็นไง” ทั้ง Sergey และ Larry จึงร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน (ซึ่งปัจจุบันยังนั่งตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของบริษัท) เตรียมก่อตั้งขึ้นเป็นบริษัท

เรื่องน่าขำอย่างหนึ่ง ตอนแรกทั้งสองคนไม่ได้ตั้งใจจะใช้ชื่อคำว่า Google ความตั้งใจแรกของ Larry Page นั้นอยากตั้งชื่อว่า Googoplex ที่แปลว่าจำนวนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หรือสามารถแทนด้วยจำนวนที่ขึ้นต้นด้วย 1 และตามด้วย 0 หลายร้อยตัว หรือ 10 ยกกำลัง 100 เป็นอย่างน้อย เพราะแนวคิดของ Page Rank ของที่ทั้งสองคนคิดมานั้น จะส่งผลให้มีเว็บไซต์เกิดขึ้นอีกมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ทั้งสองคาดการณ์ไว้อย่างถูกต้อง เพราะหลังจากปี 2000 จำนวนของเว็บไซต์และบริการบนอินเทอร์เน็ตต่างๆ ก็เกิดขึ้นมากมาย ทั้งเกิดและดับไปก็หลายตัว

แต่ด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม ซึ่งมีข่าวบางกระแสที่บอกว่าตอนนั้น Sergey เองอาจจะสับสนตอนไปขอจดชื่อโดเมนแล้วเกิดเขียนผิด สุดท้ายเขาก็กลับมาบอก Larry Page พร้อมเพื่อนๆ อีกสองคนว่าจดโดเมนเว็บเรียบร้อยแล้ว พอ Larry เปิดจดหมายยืนยันการจดโดเมนก็แถบเป็นลม เพราะในเอกสารนั้นระบุว่าโดเมนของเขานั้นคือ Google.com หาได้เป็น Googoplex อย่างที่หวังไว้ในตอนแรก

ส่วนหลังจากที่ก่อร่างสร้างอาณาจักรจนเิบใหญ่อย่างวันนี้แล้ว หลายคนคงทันหรือพอจะค้นหาข้อมูลเอาได้ เพราะถึงวันนี้จะกลายเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนชื่อจากเดิมเป็น Alphabet แต่หลายอย่างที่คนรู้ก็ยังคุ้นหูกันในชื่อของ Google อยู่นั่นเอง ซึ่งในอนาคตเราก็อาจจะยังวนเวียนอยู่กับอารยธรรมที่ทั้ง Sergey Brin และ Larry Page สร้างเอาไว้ และคอยลุ้นกันต่อไปว่าจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ จาก กูเกิล ในวัยหนุ่มกันหรือไม่

 

สำหรับท่านที่ชอบการอ่านเรื่องหรือคอนเทนต์เบาๆ ที่เกี่ยวเทคโนโลยี หรือ คนดังบนโลกไอทีและเทคโนโลยี สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ 

Related Articles