ทำไมชาเขียวจึงอยู่ในพิธีกรรมญี่ปุ่น?!?

Share

 

มัทฉะ มาเนีย ยังคงอยู่ในกระแสความนิยม และนับว่าติดลมบนกลายเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคทั่วโลกไปแล้ว

 

ส่วนหนึ่งมาจากการเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ ที่มากับ เจ-ป๊อป และค่อยๆ รุกคืบเข้าไปอยู่ในหลายๆ สิ่ง เป็นสารสำคัญทั้งในเครื่องอุปโภคบริโภค อาหาร-เครื่องดื่ม โดยเฉพาะไอศกรีมชาเขียว ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในญี่ปุ่น

ปัจจัยเด่นคือ คุณค่าในเชิงสมุนไพรและสรรพคุณทางยาที่สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับผู้พบเจอตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่ชาเขียวได้รับการแนะนำตัวอย่างเป็นทางการแก่มนุษย์

กล่าวคือเมื่อครั้งที่ โชกุนมินาโมโตะ ซาเนะโมโตะ ในยุคคามาคุระ ที่ต้องทุกทรมานเพราะพิษจากการร่ำสุราอย่างหนัก ที่ปัจจุบันรู้จักกันดีว่า แฮงก์ หรือเมาค้าง ครั้งนั้นหลังจากได้ดื่มน้ำชาไม่นานอาการทุกข์ทรมานที่ว่าก็หายเป็นปลิดทิ้ง

เหตุการณ์อันลือเลื่องนี้ได้รับการโจษขานและบันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่ว่าด้วยกำเนิดของชา

อีกปัจจัยที่สนับสนุนให้โพสิชันนิ่งของชาเขียวค่อนข้างแตกต่างจากเครื่องดื่มอื่นๆ คือ การเป็นเครื่องดื่มในพิธีชงชา เป็นเสน่ห์ของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมญี่ปุ่น ที่ทำให้ชาเขียวได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย

Credit: Freepik

ทั้งนี้ ต้องอธิบายก่อนว่า คำว่า “ชาเขียว” กับ “มัทฉะ” นั้นไม่เหมือนกันเสียทีเดียว กล่าวคือ “ชาเขียว” จะมาในรูปของใบชาแห้งใช้ชงกับน้ำเป็นเครื่องดื่ม ขณะที่ “มัทฉะ” เป็นผงละเอียดเหมาะกับการใช้ปรุงในขนมหรือไอศกรีม

 

น่าสนใจว่า “ชาเขียว” เครื่องดื่มที่แสนธรรมดา เหตุใดจึงเข้าไปอยู่ในพิธีกรรมของญี่ปุ่น?

 

ประเด็นนี้ต้องย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของชาเขียว ที่ญี่ปุ่นเรียกว่า “เรียวคุชะ” เล่ากันว่าการค้นพบชาเกิดขึ้นที่ประเทศจีน ที่มณฑลยูนนาน เมื่อราว 5,000 ปีก่อน โดยจักรพรรดิจีนผู้มีนามว่า เสินหนงสื่อ จากการทรงลองดื่มน้ำต้มสุกที่ใบชาหล่นใส่แล้วให้ความรู้สึกสดชื่น แต่นั้นชาวจีนก็ได้รู้จักกับ “น้ำชา” เป็นครั้งแรก

ใบชาเป็นที่รู้จักในแผ่นดินซามูไรในยุคเฮอันตอนต้น โดยนักบวชจากวัด Bonshakuji จังหวัดไอจิ ชื่อ Eichu ที่เดินทางไปจีนเพื่อศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรจีน นำเข้ามาญี่ปุ่น แต่ครั้งนั้นยังเป็นที่นิยมเฉพาะในกลุ่มชนชั้นสูง

ต่อมาในยุคคามาคุระตอนต้น นักบวช Eisai ผู้ก่อตั้งนิกาย Rinzai หนึ่งในพุทธศาสนาเซน ได้นำเมล็ดชามาจากจีนเป็นจำนวนมากพร้อมกับกรรมวิธีการผลิตชา โดยมีการส่งเสริมการปลูกชาเพื่อใช้เป็นสมุนไพรอย่างแพร่หลาย ด้วยพบว่าชานอกจากเป็นเครื่องดื่มดับกระหาย ยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น และช่วยขับสารพิษผ่านทางปัสสาวะ

ยิ่งเห็นความมหัศจรรย์ของสรรพคุณชาที่ช่วยให้โชกุนมินาโมโตะ ซาเนะโมโตะ หายจากอาการทุกข์ทรมานเพราะการร่ำสุรา ความศรัทธาที่มีต่อชายิ่งพอกพูนมากขึ้น นักบวช Eisai ถึงกับออกเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับชาไปทั่วญี่ปุ่น นับแต่นั้นมาชาจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งในพิธีกรรมบางอย่าง ในฐานะเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเพื่อการรักษาโรค

สำหรับพิธีชงชาแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น (Chanoyu) เว็บไซต์ marumura.com ให้ข้อมูลว่า เริ่มมีขึ้นในยุคมุโระมาจิ โดยมีการผสมผสานทางด้านความคิด จิตวิญญาณ และการสร้างสรรค์ศิลปะในแบบธรรมชาติ รวมทั้งให้ความสำคัญกับภาชนะที่ใช้ในพิธีชงชา อย่างไรก็ตาม การดื่มชายังเป็นที่นิยมในการพบปะสังสรรค์ของชนชั้นนักรบ ที่มีการร้องเล่นเต้นรำไปด้วย

Credit: Freepik

ต่อมานักบวชเซน Shuko Murata ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการดื่มชาเพื่อความสนุกสนาน มองว่าการดื่มชาด้วยความเรียบง่ายและมีสมาธิในแบบของเซนจะช่วยให้จิตใจสามารถพัฒนาขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ จึงออกแบบห้องพิธีชงชาขนาดเล็ก สนับสนุนการชงชาตามอุดมคติของนักบวช Eisai โดยผสมผสานจิตวิญญาณของนิกายเซนเข้าไปด้วยในพิธีชงชา

อย่างไรก็ตาม กว่าที่พิธีชงชาและการดื่มชาจะขยายวงกว้างลงมาถึงชนชั้นล่างก็เมื่อเข้าสู่ยุคเอโดะ

ชาเขียวญี่ปุ่นเริ่มเป็นที่รู้จักในระดับเวิลด์ไวด์ หลังมีการเปิดท่าเรือการค้าโยโกฮามาใน ปี 1859 โดยเสน่ห์และความนิยมชาเขียวจับใจผู้บริโภคและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

ทุกวันนี้ ชาเขียวนอกจากจะเป็นเครื่องดื่มประจำชาติญี่ปุ่นแล้ว จึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง…ไปทั่วโลก.

rabbit2themoon

rabbit2themoon

คอลัมนิสต์หน้าไม่ใหม่ เคยพำนักอยู่ใต้ชายคามติชน ประจำกอง บก.นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ก่อนขยับมาเป็นผู้สื่อข่าวเซ็กชั่นประชาชื่น เขียนสัมภาษณ์บุคคล-สกู๊ปเชิงไลฟ์สไตล์-ท่องเที่ยว-อาหาร-จิปาถะ สถานะปัจจุบัน นอกจากเป็นคอลัมนิสต์ ยังเป็นนักเขียนอิสระ เขียนบทความเชิงประชาสัมพันธ์

Related Articles