I-Berhad สนับสนุนโครงการดิจิทัลใน i-City พร้อมจับมือกับยักษ์ใหญ่ China Mobile สานแนวคิด metaverse ขึ้นใน มาเลเซีย
Metaverse ที่กลายเป็นคำฮิตติดหู ให้ได้ยินกันแทบทุกวันในช่วงนี้ เป็นการอ้างถึงโลกเสมือน 3 มิติ ที่เป็นอินเตอร์แอกทีฟ และยังถูกกล่าวขานว่าเป็นการปฏิวัติของอินเทอร์เน็ต
แนวคิดดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 จนต้องเกิดการล็อกดาวน์ ทำให้เกิดดีมานด์ทั้งในฝั่งธุรกิจและฝากเอนเตอร์เทนเม้นท์
แจ็คกี้ เฉิน เจียง หลง ผู้อำนวยการของ China Mobile พูดถึง metaverse ว่าเป็นตรรกใหม่ในการพัฒนาอินเทอร์เน็ตแห่งยุคหน้า และเป็นอนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัล และ China Mobile เองก็ได้เตรียมพร้อมทั้งกลยุทธ์และเทคโนโลยี สำหรับการสร้าง metaverse
“รัฐบาลจีนได้มีการเปิดตัวโปรแกรมสำหรับ metaverse เมื่อสองปีที่ผ่านมา อีกทั้งได้รวมเอาโปรแกรมนี้ไว้ในแผนพัฒนาแห่งชาติฉบับใหม่สำหรับปีนี้ โดยจะมีบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมากที่จะเข้ามาพัฒนาแพลตฟอร์ม และเนื่องจาก China Mobile มีทั้งเครือข่ายและดาต้าเซ็นเตอร์หลายแห่ง เราอาจจะให้ทรัพยากรด้านการประมวลผลเพื่อให้บริษัทเหล่านี้นำไปสร้างแอปพลิเคชัน metaverse ของตัวเอง”
เฉิน เล่าต่อ ว่า “ในมาเลเซีย เรากำลังพูดคุยกับ i-City เกี่ยวกับการนำแอปพลิเคชัน metaverse มาใช้ เนื่องจากระบบเสมือนคือสิ่งสำคัญสำหรับ metaverse เราจะพัฒนาโมเดล 3D สำหรับ i-City ทั้งหมด นอกจากนี้ เรายังจะสร้างแพลตฟอร์มบริหารจัดการ เพื่อบริหาร i-City ทั้งหมด โดยรวมระบบงานและอาคารทั้งหมดเข้าด้วยกัน และลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา i-City”
ดาตุก อู ฮง ชิว กรรมการที่ไม่ใช่ผู้บริหารของ I-Berhad ได้พูดถึงโครงการนี้ว่า ทาง I-Berhad จะลงทุน 10 ล้านริงกิต ใน metaverse โดยมี CMI หรือ China Mobile ดูแลเรื่องเทคโนโลยี ระบบโครงสร้าง รวมถึงระบบนิเวศ พร้อมกับได้อธิบายถึงความร่วมมือกับ CMI ในฐานะผู้พัฒนาระบบนิเวศ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนงานของ I-Berhad ที่จะลงทุนซ้ำใน i-City 2.0
“metaverse เป็นคำฮิตใหม่ล่าสุดของโลกโซเชียล ซึ่งเราอยากนำแนวคิด metaverse มาปรับปรุง i-City ใหม่ และนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับปรุงเรื่องการพัฒนาทั้งหมด โดยเราเชื่อว่ามาเลเซียจะได้รับประสบการณ์แบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร”
อู ยังกล่าวต่อว่า I-Berhad จะร่วมกันตกผลึกกับ CMI ทันทีใน 2 ประเด็นด้วยกัน ประเด็นแรกคือการยกระดับไลฟ์สไตล์ และความเพลิดเพลินใน i-City ด้วย metaverse และประเด็นที่สองคือ การวางจุดยืนสำหรับโครงการทั้งหมดให้เป็นเมืองอัจฉริยะสีเขียว หรือ smart green city
i-City Properties ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ I-Berhad จะประสานความร่วมมือกับ CMI เพื่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งแรกที่เป็นอาคารอัจฉริยะสีเขียว ภายใต้โครงการพัฒนาของ i-City
อาคารสำนักงานแห่งนี้ จะเพียบพร้อมด้วยกล้องและเซนเซอร์ ที่ใช้เครือข่าย 5G ในการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม การใช้พลังงาน และการสัญจรไปมาของผู้คนในอาคาร
เทคโนโลยี AI จะเข้ามามีบทบาท โดยจะถูกนำมาหลอมรวมเข้ากับโครงสร้างของอาคาร
ในระหว่างพิธีลงนามสัญญา โมนิกา อึง ผู้อำนวยการของ i-City Properties บอกว่า การเปิดใช้งาน 5G ในปีนี้ บริษัทฯ จะนำความก้าวหน้าด้าน AI มาใช้ในจำนวนมาก เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการ Ultrapolis ยังคงรักษาตำแหน่งของการเป็นเมืองอัจฉริยะแห่งแรกที่เจริญก้าวหน้าที่สุดในมาเลเซีย
i-City ที่มีมูลค่า 10,000 ล้านริงกิต จะเป็น Ultrapolis แห่งแรกและแห่งเดียวในมาเลเซีย ที่มีเครือข่าย 400G ที่พร้อมใช้งานมากที่สุด และพร้อมรองรับเทคโนโลยี 5G เพื่อคงสถานะความเป็น Multimedia Super Corridor ซึ่งเป็นเขตระเบียงเศรษฐกิจด้านมัลติมีเดียของมาเลเซีย
โครงการดังกล่าว จะทำงานร่วมกับ Data Park ซึ่งเพียบพร้อมด้วยดาต้าเซ็นเตอร์ระดับ tier-3 เพื่อรองรับความต้องการด้านแบนด์วิดธ์ของผู้เช่าที่เติบโตขึ้น
นักพัฒนากำลังขยาย Data Park ด้วยการเพิ่มศูนย์ข้อมูล 2 แห่ง บนพื้นที่ 100,000 ตารางฟุต เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง
เคาดิตภาพ China Mobile brings metaverse concept to i-City, The New Straitstimes Malaysia
เนื้อหาข่าวต้นทาง China Mobile brings metaverse concept to i-City, The New Straitstimes Malaysia
เกี่ยวกับ i-City Malaysia
เกี่ยวกับ China Mobile
