องค์กรในเอเชียแปซิฟิกเปิดรับการใช้งานโซลูชันการผลิตอัจฉริยะมากที่สุดในโลก

Share

 

รายงาน The State of Smart Manufacturing Report เผย 9 ใน 10 ขององค์กรในเอเชียแปซิฟิกเชื่อมั่นว่า โซลูชันการผลิตอัจฉริยะเป็นกุญแจสำคัญที่จะพาธุรกิจของพวกเขาไปสู่ความสำเร็จในอนาคต

 

Plex Systems บริษัทในเครือ Rockwell Automation เผยผลสำรวจจากรายงาน “The State of Smart Manufacturing Report” โดยการศึกษาดังกล่าวพบว่า อัตราการใช้งานโซลูชันการผลิตอัจฉริยะทั่วโลกขยายตัวรวดเร็วขึ้นถึง 50% ในปี 2564 และเทคโนโลยีใหม่เหล่านี้ได้ช่วยแก้ไขปัญหาความท้าทายที่สำคัญของอุตสาหกรรม ทั้งนี้ องค์กรในเอเชียแปซิฟิก (APAC) ถึง 93% มองว่า การผลิตอัจฉริยะมีอิทธิพลต่อความสำเร็จในอนาคตในระดับ “มาก” หรือ “สูงมาก” เมื่อเทียบกับองค์กรในอเมริกาเหนือ (NA) ที่ระดับ 84% และองค์กรในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) ที่ระดับ 75%

องค์กรใน APAC ส่วนใหญ่มีแผนนำโซลูชันการผลิตอัจฉริยะมาปรับใช้ในองค์กรในกรอบเวลาที่สั้นกว่าเดิม หรืออยู่ในช่วง 7-11 เดือนข้างหน้า เทียบกับองค์กรในภูมิภาค NA และ EMEA ที่ส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปีข้างหน้า สะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติเชิงบวกของภูมิภาค APAC ที่มีต่อระบบดังกล่าว

ผลการศึกษาระดับโลกนี้ได้ทำการสำรวจผู้ผลิตมากกว่า 300 รายในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ ยานยนต์ อวกาศ อาหารและเครื่องดื่ม อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าอุปโภคบริโภค พลาสติกและยาง การขึ้นรูปโลหะ และอื่น ๆ รายงานประจำปีนี้ซึ่งจัดทำขึ้นโดยได้รับความร่วมมือจาก Hanover Research นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์เกี่ยวกับแนวโน้ม ความท้าทาย และแผนในอนาคตสำหรับผู้ผลิตทั่วโลก

“รายงานนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้ผู้ผลิตกำหนดกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีของตนเอง และนำแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการผลิตอัจฉริยะไปใช้ได้ เพื่อให้แข่งขันและประสบความสำเร็จในตลาดต่อไป กลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีที่มีความยืดหยุ่นทำให้สามารถปรับใช้โซลูชันได้เพิ่มขึ้น และใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาที่ผู้ผลิตมองหาวิธีการปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต ขณะที่พยายามแก้ปัญหาที่มีความท้าทายในปัจจุบัน พวกเขาจึงให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อปรับปรุงและยกระดับผลลัพธ์ทางธุรกิจที่แท้จริง” Jerry Foster ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Plex Systems กล่าว

ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เห็นปัญหาที่มีอยู่ในภาคการผลิตชัดเจนขึ้น อีกทั้งยังตอกย้ำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปกว่าเดิม โดยปัญหาขาดแคลนแรงงานทักษะ การแข่งขันในตลาด และการหยุดชะงักของซัพพลายเชนคือ 3 ปัญหาสำคัญที่องค์การในเอเชียแปซิฟิกกำลังเผชิญ อันเป็นผลพวงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยเหตุนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามจาก APAC 9 ใน 10 ราย (93%) จึงเชื่อว่า การผลิตอัจฉริยะคือกุญแจสำคัญที่จะพาธุรกิจของพวกเขาไปสู่ความสำเร็จในอนาคต

“ภาคการผลิตของเอเชียได้รับผลกระทบในเชิงลบจากการระบาดใหญ่ ตลอดจนวิกฤตการณ์ระดับโลก อาทิ สถานการณ์ความไม่สงบในยุโรปตะวันออก โดยในฐานะศูนย์กลางการผลิตระดับโลกที่สำคัญ ซึ่งมีผลผลิตคิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งของการผลิตทั่วโลก[1] เศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิกจึงจำเป็นต้องพึ่งพาภาคอุตสาหกรรมเพื่อผลักดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุคหลังโควิด” Steven Chiu หัวหน้าฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Plex Systems กล่าว

“การนำโซลูชันการผลิตอัจฉริยะมาใช้ เช่น เทคโนโลยีบนคลาวด์ กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์กรใน APAC ที่จะช่วยให้แข่งขันกับคู่แข่งและประสบความสำเร็จได้ รายงานพบว่าองค์กรต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาผลลัพธ์ทางธุรกิจ” คุณ Chiu กล่าวเสริม

ผลการศึกษาที่สำคัญอื่น ๆ ได้แก่

  • อัตราการใช้งานโซลูชันการผลิตอัจฉริยะขยายตัวรวดเร็วขึ้นทั่วโลก โดยภายในสิ้นปี 2565 องค์กรราว 75% จะนำองค์ประกอบบางส่วนของการผลิตอัจฉริยะมาใช้ เทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติกำลังขับเคลื่อนภาคการผลิตยุคใหม่ และอัตราการใช้งานโซลูชันการผลิตอัจฉริยะจะขยายตัวรวดเร็วเช่นนี้ต่อไปในปี 2565
  • โควิด -19 เป็นตัวเร่งให้องค์กรต่าง ๆ หันมาใช้โซลูชันการผลิตอัจฉริยะ ในแง่การลงทุน องค์กรใน APAC มีแผนที่จะใช้ระบบอัตโนมัติในกระบวนการทางธุรกิจ การบังคับใช้กระบวนการอัตโนมัติ และการวางแผนห่วงโซ่อุปทาน
  • องค์กรกว่าครึ่งจากการสำรวจยอมรับว่า องค์ประกอบการผลิตทั้งหมดมีความสำคัญ ภูมิภาคที่ทำการสำรวจทั้งหมดซึ่งรวมถึง APAC ยอมรับว่า ระบบปฏิบัติการผลิต (MES) (69%) เป็นความคิดริเริ่มด้านการผลิตอัจฉริยะที่สำคัญอย่างยิ่ง/สำคัญที่สุด ตามมาด้วยการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) และการจัดการประสิทธิภาพสินทรัพย์ รองลงมาคือระบบการจัดการคุณภาพ (QMS) และการวางแผนซัพพลายเชน (SCP)
  • การเรียนรู้ของเครื่องจักรและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นเทคโนโลยีหลักที่องค์กรวางแผนจะใช้งานในอีก 5 ปีข้างหน้า องค์กรส่วนใหญ่ทั่วโลกใช้ข้อมูลเพื่อการวางแผน เช่น การวางแผน/การจัดกำหนดการปล่อยผลิตภัณฑ์ (46%) และการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ (44%) ขณะที่องค์กรในเอเชียแปซิฟิก (54%) เลือกใช้ข้อมูลที่รวบรวมมาสำหรับการใช้งาน AI เป็นหลัก
  • กว่า 50% ขององค์กรใน APAC นำระบบคลาวด์มาใช้เพื่อลดความเสี่ยง การใช้เทคโนโลยีคลาวด์ การจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการเข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านกฎระเบียบ/การปฏิบัติตามข้อกำหนด เป็นกลยุทธ์ที่พบบ่อยที่สุดในบรรดาองค์กร APAC ที่ต้องการลดความเสี่ยงทางธุรกิจ

หากต้องการรับชมผลการศึกษาทั้งหมด โปรดดาวน์โหลดรายงาน 7th Annual Plex State of Smart Manufacturing Report ที่ plex.com/sosm

Related Articles