Tesla Effect ผลกระทบอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย หรือแค่กระแสชั่วคราว

Tesla Effect ผลกระทบอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย หรือแค่กระแสชั่วคราว หลังการเข้ามาของ Tesla อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ใครได้ใครเสีย
Share

 

การเปิดตัวอย่างน่าตื่นเต้นของ Tesla ในประเทศไทย หลายคนมองว่ามันคือคลื่นลูกใหญ่ที่จะเข้ามากระแทกอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย แต่บางคนก็มองว่าเป็นแค่ความเคลื่อนไหวของรถยนต์ไฟฟ้าอีกแบรนด์ที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย

 

Tesla ถือเป็นบริษัทแนวหน้าในการเปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้า สู่โลกยานยนต์ ถึงขั้นที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีในการเข้าสู่อุตสาหกรรมและมีการเปิดตัวสินค้าหรือมีรุ่นรถที่ออกขายอยู่เพียง 4 รุ่น ณ ขนาดนั้นคือ S, 3, X และ Y ตามแนวคิดของผู้ถือหุ่นใหญ่นาม อีลอน มัสก์ ที่นิยามว่ารถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla จะต้องมีความ SEXY ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเขาทั้ง เซ็กซี่ เร้าใจ และกระตุ้นต่อมความอยากของผู้คนไปทั่วโลก

Timeline ของการเข้ามาในประเทศไทย

ความตื่นเต้นของ Tesla Effect มันเริ่มมีเค้าลางมาสักประมาณช่วงปลายไตรมาสแรกของต้นปีที่ผ่านมา (2565) โดยเหมือนจะมีหนึ่งใน Influencer ของวงการรถยนต์ไฟฟ้ารายหนึ่งได้ออกมาเกริ่นเบาๆ ว่า “กำลังจะมีเรื่องใหญ่เกิดในประเทศ” ก็มีการเดากันไปทั้งวงการทั้งถูก ไม่ถูก หรือหวิดจะถูก แต่สุดท้ายความจริงก็ปรากฏขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายน 2565 ในการพบว่ามีชื่อ บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท (Innomatter.com เคยรายงานเรื่องนี้ไปแล้ว สามารถอ่านได้จาก ที่นี่)

Tesla launches Official in Thailand
Picture Credit : www.prestigeonline.com

เอาเข้าจริงตอนข่าวลือเริ่มหนาหูขึ้น หลายคนในวงการยานยนต์ก็เสียวหลังกันวาบๆ ว่ามันจะเป็นเรื่องเดจาวูเหมือนที่เกิดขึ้นเมื่อครั้ง Motor Expo 2015 หรือไม่ แต่แหล่งข่าวหลายรายยืนยัน นอนยัน ในข้อมูลว่ามีความจริงเกินกว่า 70% หลังจากนั้นมีการวิเคราะห์กันต่อไปว่าใครจะมาได้ชื่อว่าเป็นกรรมการชุดแรก และที่สำคัญคืออีกนานแค่ไหนที่ เทสลา ประเทศไทย จะออกมา สวัสดี ประเทศไทย อย่างเป็นทางการ

หลังจากวันที่ 25 เมษายน 2565 ทุกอย่างก็กระจ่างชัดว่า อย่างน้อย ณ ตอนนั้น เทสลา (ประเทศไทย) ได้มีออฟฟิศเพื่อขายแน่นอนแล้ว กลับไปที่คำถามของย่อหน้าที่แล้วก็คือแล้วเมื่อไหร่ละที่จะประกาศเข้าทำตลาดสินค้าที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างจริงจัง โดยที่ ณ เวลานั้นส่วนใหญ่แทบจะ 99% คิดไปในทางเดียวกันว่า “อย่างเร็วที่สุดก็คงหลังจากต้นปี 2566 ไปเป็นแน่”

แต่แล้วเซอร์ไพร์สเที่ยวล่าสุดในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ในเมืองไทยก็มาถึง และเป็นเซอร์ไพร์สที่ทำเอาเรียกว่าทุกคนต้องตั้งคำถามเลยว่า “จริงเหรอ” เพราะ เทสลา ประเทศไทย ประกาศ สวัสดี ประเทศไทย ไปเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 เร็วกว่าที่ทุกคนในประเทศไทยจะคาดคิด อ้าปากค้างกันตั้งแต่ยูทูปเบอร์ ผู้เชี่ยวชาญ ยันไปถึงผู้บริหารค่ายรถที่รู้สึกถึงแรงสะเทือนของเก้าอี้ในที่ทำงานของตัวเอง เพราะไม่คิดว่า เทสลา จะจู่โจมตีประตูเมืองไทยเร็วขนาดนี้

พูดกันตรงๆ ก็คือ กลิ่นของเซอร์ไพร์สรอบนี้มากันแบบไม่ตั้งตัวจริงๆ เพียงสัปดาห์นิดๆ เพราะมีคนไปแอบเห็น คำทักทายจาก เพจอย่างเป็นทางการของ เทสลา ประเทศไทย ขึ้นข้อความชวนคิด ตามด้วยอีกสองวันที่ภาพพร้อมการทักทาย Hello Thailand สวัสดี ประเทศไทย ก็โผล่บน Line Official Tesla Thailand พร้อมกับมีการแอบไปเห็นว่าจากทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาทในวันแรก มีการเพิ่มทุนเป็น 253 ล้านบาทเพียงไม่กี่วันก่อน

แถมในวันที่ 7 ธันวาคม วันที่ผู้บริหารออกมาเจอกับสื่อมวลชนครั้งแรก เซอร์ไพร์สขั้นกว่าคือการเปิดราคาของ 2 ผลิตภัณฑ์ที่จะนำเข้ามาขายในประเทศไทย นั่นก็คือ Model 3 และ Model Y ที่มีราคาเริ่มต้นทำเอาคนไทยที่กำลังจ้องมองรถยนต์ไฟฟ้าต้องใจสั่น เพราะเริ่มต้นที่ 1,759,000 บาท ลบภาพของของเล่นคนรวยราคาแพงที่นำเข้าจากผู้นำเข้าอิสระที่ว่ากันที่ 3 ล้านทอนไม่กี่พันในอดีตออกไป

Tesla Effect เมื่อลูกพี่มาเอง ใครโดนกระแทกตรง โครโดนลูกหลงไปบ้าง

การเข้ามาของ Tesla ด้วยการตั้งสำนักงานประจำประเทศไทย ซึ่งแน่นอนแหละว่าถ้าเราไม่ได้อานิสงส์ของกลุ่มผู้ใช้ Tesla จำนวนเป็นพันคันที่เสียสละทั้งเงินและเลือดซิบๆ นำเข้ามาใช้กันก่อน จนทำให้เห็นว่าตลาดของไทยนั้นมีดีมานด์และโตเร็วจนการเกิดของ Tesla Thailand นั้นก็ต้องพูดว่าใช้ความเร็วดั่งปีศาจ และกำหนดราคาได้ “ดุดัน ไม่เกรงใจใคร”

ต้องยอมรับเลยว่าการประกาศราคาของ Tesla ทั้งสองรุ่นที่ผลิตจากโรงงาน Giga Shanghai คลื่นยักษ์ลูกแรกที่โดนซัดกันไปจังๆ แบบหลบไม่ทันเลยก็คือ บรรดาผู้นำเข้ารถยนต์อิสระหรือที่เรามักเรียกว่า เกรย์ มาร์เก็ต นี่แหละ ที่มีทั้งหนีไม่ทันแบบยังมีรถที่เอาเข้ามาค้างสต็อกอยู่ โดยที่ทั้งราคาขายและราคาต้นทุนที่รับมานั้น เรียกว่าติดดอยสอยเท่าไหร่ก็เอาไม่ลง อาการก็ไม่ค่อยต่างจากอีกหลายคนที่ยังดอยกับเหรียญคริปโตในช่วงที่ผ่านมา

บางรายแม้ว่ารถในสต็อกที่ถืออยู่ในประเทศจะหมดแล้ว ก็ยังคงดอยอยู่ดีเพราะก่อนหน้านั้นไม่มีใครได้กลิ่น Official กันมาก่อน ระดมสั่งรถเตรียมที่จะขนใส่เรือเข้ามา ที่ดอยก็เพราะของแบบนี้จะสั่งรถทั้งทีจะมีรอบการสั่งที่สำคัญคือวางเงินมัดจำกันก่อนเสียด้วย และก่อนหน้านั้นจากปัญหา Chip Shortage ก็ทำให้ Model 3 และ Model Y ทั่วโลกผลิตไม่ทัน แถมไทยเป็นกลุ่มประเทศรถพวงมาลัยขวาจำนวนก็ออกมาน้อยตามไปด้วย รถที่มาจากอังกฤษหรือฮ่องกงนั้นก็ต้องแย่งกันจับจองเพื่อส่งออกมาที่ไทย

กลุ่มที่สองที่โดนกระแทกไปในระดับมองหางตากันเลยก็คือ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้ามาทำตลาดอย่างเป็นทางการในประเทศไทย อย่าง BYD, MG, Neta เป็นต้น แม้ว่าราคาและชื่อชั้นของรถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์ผู้ผลิตจากจีนนั้นจะอยู่คนละกลุ่มกับ Tesla แต่การเข้ามาอย่างเป็นทางการและกับราคาที่ตะลึงไปทั้งตลาด ก็ทำให้ลูกค้าที่ไปจองแบรนด์จีนส่วนหนึ่งยอมเปลี่ยนใจยกเลิกแล้วไปกดจอง Tesla แทนแม้จะได้รถก็ตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคม 2566 เป็นต้นไป

คลื่นกระแทกแรง ขนาดพี่ใหญ่ 2 แบรนด์ยังต้องโชว์ของ

เจ้าแรกแม้ว่าวันนี้ความชัดเจนในการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของ Honda นั้นจะไม่มีอะไรมาก แต่ในเมื่อ Tesla สามารถเปิดตัวและกินพื้นที่สื่อไปแบบที่ไม่เหลือที่ว่างให้กับแบรนด์อื่นเลย ในฐานะที่มาก่อนทางทีมงานประเทศไทยเลยรีบส่งสัญญาณ SOS ขอไปทางญี่ปุ่นว่า ช่วยหาอะไรมาโชว์ที่เมืองไทยหน่อยเถอะไม่งั้นเดี๋ยวจากที่ก่อนหน้ามีหลายคนออกมาบอกว่า Kodak ในอุตสาหกรรมรถยนต์แทนที่จะเป็นคนอื่นจะกลายเป็นเราเสียแทน

แม้ว่าในงาน Motor Expo 2022 ที่ผ่านมาจะไม่ชัดเจนเหมือนเดิม Honda ยังมีการนำเอา Honda e Prototype มาโชว์ไว้ เพื่อให้มิตรรักแฟนปัจจุบันรู้ว่า มาแน่ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ รอฉันหน่อยนะ” (ปล. e-Prototype นั้นเป็นอีกต้นแบบหนึ่งที่เกิดในประเทศจีน ในปัจจุบันต้นแบบนี้ได้ถูกผลิตออกขายจริงแล้วในประเทศจีนในชื่อ Honda e:NP1 และ e:NS1)

Honda e Prototype in Bangkok Motor Expo 2022
Credit Picture : www.ridebuster.com/

สำหรับพี่ใหญ่อย่าง Toyota นั้น หลังจากที่เปิดตัว BZ4X อย่างเป็นทางการในประเทศไทยไปแล้ว ด้วยจำนวนรถที่พร้อมส่งมอบเพื่อประเทศไทยจริงๆ ไม่ถึง 30 คัน (แต่มีการเปิดเผยยอดจองที่ต้องปิดรับไปก่อนเวลากว่า 3,000 คัน) ก็มีอีเวนต์ขั้นกลางด้วยการเปิดตัวพลังงานทางเลือกที่เหมือนพี่เขาเป็นป๋าดันทางนั้นมากกว่าอย่าง Hydrogen บน Toyota Mirai แต่ด้วยราคาทั้งคันที่นำเข้าจากญี่ปุ่นและยังไม่มีพิกัดภาษีใดๆ รองรับ ทำให้ราคาค่าตัวเกือบ 8 ล้านบาทพร้อมสถานีเติมไฮโดรเจนสีเทา(ความหมายก็ละหม้ายคล้าย ทุนจีนสีเทา นั่นแหละ) เพียง 1 ปั๊มถ้วน ณ สิ้นปี 2565 นี้

Hilux Revo EV เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย
Picture Credit : Autolife Thailand https://autolifethailand.tv/toyota-hilux-revo-bev-ev-coming-2023/

ล่าสุดเป็นข่าวใหญ่ เมื่อ CEO อย่าง อากิโอะ โตโยดะ บินมาเซอร์ไพร์สพนักงาน ผู้บริหาร ดีลเอร์ และมิตรรักแฟนเดิมของแบรนด์ผู้แข็งแกร่งที่สุดในประเทศไทยอย่าง Toyota ที่เปิดตัวการเยือนเมืองไทยด้วยซิ่งกระบะแต่งแบบวัยรุ่นสร้างตัวขึ้นบนเวทีพร้อมเปิดตัวต้นแบบรถกระบะไฟฟ้าภายใต้เปลือกรถกระบะรุ่นปัจจุบัน และแย้มออกมาว่ารอหน่อยนะจ๊ะเราจะพยายามตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน (แต่จากสภาพของรถต้นแบบหลายสื่อพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า คงจะสืบทอดความเป็นต้นแบบนี้ไปอีกสักพัก)

สุดท้ายอยากให้รอดูคลื่นกระแทกของจริงที่จะมาในช่วงต้นเดือนมีนาคมหรือเมษายน (2566) ว่าหลังจากที่ Tesla MIC ล็อตแรกที่มาถึงประเทศไทยนั้นจะมาแบบมาแว่บเดียวหมดเพราะไม่มีใครทิ้งใบจองหรือเหลือค้างรอคนรับ เพราะถ้าเป็นแบบแรกนั่นหมายถึง Tesla จะพิสูจน์บางอย่างได้ว่า ตลาดไทยนี่มันก็พร้อมสำหรับ EV แล้วจริงๆ

 

สำหรับท่านที่ชอบและติดตามวงการ รถยนต์ไฟฟ้า คุณสามารถติดตามข่าวสารและบทความที่เกี่ยวข้อง ได้ทาง ช่องทางนี้

Related Articles