กระบะไฟฟ้า ที่ทั่วโลกกำลังจับตาในปี 2023

Tesla Cybertruck คือกระบะไฟฟ้าที่ทั่วโลกจับตามองในปี 2023 ด้วยกำหนดเวลาที่เลยมาอย่างยาวนาน ถึงเวลาแล้วที่กระบะไฟฟ้าคันนี้จะพร้อมออกจากโรงงาน
Share

 

Tesla Cybertruck อีกหนึ่งผลงานเรียกทัวร์ลงหน้าบ้าน อีลอน มัสก์ ที่มีทั้งชมและด่า แต่ 2023 ต้องจารึกไว้เพราะว่ารถคันแรกจากสายการผลิตได้เตรียมส่งถึงมือลูกค้าที่จ่ายเงินจองแล้วก็รอมานานเกิน 2 ปี ตามไปอัพเดตว่าเจ้ารถคันที่ออกจากสายการผลิตจริงจะเหมือนที่เคยโชว์ไว้แค่ไหน

 

ก่อนอื่นต้องบอกว่า ณ วันที่รวบรวมข้อมูลนี้อยู่ ยังไม่มีใครออกมาบอกถึงรายละเอียดอื่นๆ ของรถที่กำลังเดินทางส่งถึงมือลูกค้า แต่โดยธรรมชาติของ Tesla นั้นของจริงกับภาพตัวอย่างต้นแบบที่เอาออกโชว์ไม่ค่อยต่างกันมากนัก เรียกว่ามีความคล้ายกันมาก ใครที่ชอบก็อาจตัดสินใจซื้อเลย หรือหากใครไม่ชอบก็เกลียดกันไปเลย ค่อนข้างมีความชัดเจน

ภาพรวม

Tesla Cybertruck ดูเหมือนหลุดมาจากหนัง Sci-fi ที่มีเนื้อหาไปทางมนุษย์ต่างดาว แต่ด้วยการออกแบบที่แหวกแนวขนาดนี้ จึงสามารถท้าทายกับรถกระบะที่มียอดขายสูงสุดอย่าง Ford F-150 ในแง่ของพละกำลัง ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่เฉียบคมวัสดุทำจากสเตนเลสสตีลที่ป้องกันรอยขีดข่วนและรอยบุบ ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ช่วยให้สามารถลากจูงได้มากถึง 6,300 กิโลกรัม และมีระยะการขับขี่โดยประมาณ 800 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

แม้ว่าความสามารถระดับนั้นจะมีอยู่ในรุ่น Top สุดเท่านั้น ขณะเดียวกัน กระทั่งโมเดลที่ถูกที่สุดของรุ่นจะมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 39,000 เหรียญสหรัฐ (ราคาไทยไม่รวมภาษีนำเข้า 5,627,700 บาท) ที่ผ่านมา กำหนดการผลิตรถรุ่นนี้ถูกเลื่อนมาหลายครั้ง แต่ในวันที่ 7 เมษายน 2022 อีลอน มัสก์ ซีอีโอ ประกาศยืนยันว่า รถคันแรกจะออกจากสายการผลิตของโรงงาน Giga Austin ใน Texas ภายในปีนี้อย่างแน่นอน

 

มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างสำหรับ Tesla Cybertruck 2023

Tesla มีแนวคิดในการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตนไปสู่ประเภทของรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอเมริกานั่นคือ รถกระบะ ด้วยสถิติที่น่าประทับใจอย่างมากสำหรับทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและรถกระบะ Cybertruck ช่วยให้บริษัทมียอดขายที่แข็งแกร่ง เห็นได้ว่ารถบรรทุกขายได้ดีพอสมควรในประเทศนี้

ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะวันนี้คู่แข่งของบริษัทมีทั้ง Ford F-150 Lightning, GMC Hummer EV หรือ Rivian R1T แถมยังมี Chrysler ที่กำลังวางแผนการผลิต กระบะยอดนิยมอีกรุ่นอย่าง Silverado ออกมาในรูปแบบของกระบะไฟฟ้า แถม RAM รถกระบะจากค่ายเดียวกันก็ยังหมายมั่นปั้นมือในการได้เป็น รถกระบะไฟฟ้าแห่งปี 2024 เอาไว้ด้วย

สำหรับแผนการขาย Cybertruck นั้น ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ด้วยจำนวน 3 รุ่นที่ออกขายบนฐานของจำนวนมอเตอร์ไฟฟ้าที่มี โดยรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อจะเป็นมาตรฐานแต่เป็นรุ่นมอเตอร์เดี่ยว ส่วนรุ่นที่สูงขึ้นก็จะเพิ่มจำนวนมอเตอร์ไฟฟ้ารวมถึงอัตราเร่ง ระยะทางและความสามารถในการลากจูงที่มากขึ้นตามลำดับ

 

เรื่องของ มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังและประสิทธิภาพการทำงาน

สำหรับกระบะไฟฟ้าตัวแรกจาก Tesla นั้น การออกสู่ตลาดต้องไม่ธรรมดา ฉะนั้นตัวเลือกที่เตรียมไว้ จึงไม่ใช่มีแค่รุ่นมอเตอร์เดี่ยวแต่สามารถเลือกได้ทั้งสองและสามมอเตอร์ โดยที่ทุกรุ่นจะมีความสามารถของการเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นความสามารถพื้นฐานของรถ

โดยรุ่นล่าสุด Tesla ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า สำหรับในรุ่นล่างสุดนั้นจะสามารถเร่งออกตัวจากหยุดนิ่งไปถึงความเร็ว 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.5 วินาที ส่วนในรุ่นมอเตอร์คู่จะทำเวลาน้อยลงมาเหลือที่ 4.5 วินาที แล้ววิ่งไปจนความเร็วปลายประมาณที่ 192 กม./ชม.

ส่วนรุ่นมอเตอร์สามตัวนั้น สามารถเปิดวาร์ปในการออกตัวด้วยเวลา 2.9 วินาทีพร้อมกับความเร็วปลาย 208 กม./ชม. โดยประมาณ โดยทุกรุ่นจะติดตั้งช่วงล่างแบบถุงลมที่สามารถปรับระดับสูงต่ำได้ในขณะขับขี่และสามารถเพิ่มระดับความสูงสุดใต้ท้องรถถึง 16 นิ้ว หรือ 40 เซนติเมตร เรียกว่ายกรถหนีน้ำท่วมใน กทม. ได้สบาย

หลายคนที่อาจสนใจในกรณีเอารถไปออฟโรด ข้อมูลที่เปิดเผยออกมาแล้วก็คือ Cybertruck มีมุมเข้าที่ 35º และมุมจากที่ 28º นั่นหมายถึงถ้าคุณเป็นเจ้าของกระบะรุ่นนี้ก็สบายใจในการพาเข้าไปลุยในพื้นที่ได้ ถ้าไม่ติดเรื่องการหาที่ชาร์จไฟฟ้าเพื่อเติมพลังให้ออกมาจากป่าได้

 

ความสามารถในการลากจูงและบรรทุก

หากข้อมูลที่ Tesla แจ้งออกมาทำได้จริง ก็จะทำให้ Cybertruck มีตัวเลขเรื่องระดับความสามารถในการลากจูงและบรรทุกพอๆ กับรถกระบะยอดนิยมสุดไฮโซของชาวอเมริกันอย่าง RAM 1500 (ซึ่งมีทั้งเครื่อง v6 Hybrid ความจุกระบอกสูบ 3,000 cc และ V8 5,700cc)

โดยที่รุ่นมอเตอร์เดี่ยวและคู่นั้นจะมีกำลังลากจูงที่ 3,400 และ 4,500 กิโลกรัม ตามลำดับ ส่วนรุ่นสามมอเตอร์นั้นมีกำลังเพิ่มเป็น 6,300 กิโลกรัม ส่วนความสามารถในการบรรทุกในกระบะขนาด 6.5 ฟุตนั้น เท่ากันทุกรุ่นคือ 1.5 ตัน เรียกว่าเทียบได้กับความสามารถที่กฎหมายของรถกระบะของเมืองไทยกำหนด (แม้จะไม่ค่อยปรากฏว่ามีการบรรทุกต่ำกว่า 2 เท่าของน้ำหนักตามกฎหมายก็ตาม)

 

ระยะทาง ระบบการชาร์จและอายุแบตเตอรี่

โดยปกติแล้ว Tesla จะไม่ได้บอกขนาดความจุของแบตเตอรี่ที่ติดตั้งไว้ในรถแต่ละรุ่น แต่สิ่งที่เป็นเรื่องแน่ยิ่งกว่าแช่แป้งก็คือกระบะยุค Cyberpunk คันนี้จะได้รับระบบการชาร์จไฟกระแสตรงแบบ DC 250 kWh. ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานทุกคันแน่นอน แม้จะมีแหล่งข่าวก่อนหน้านี้ ที่เคยปล่อยข่าวลือว่า Tesla Cybertruck นั้นอาจจะเป็นรถยนต์ขนาดกลางและเล็กที่จะมาพร้อม 1 MWh charging port แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันข้อมูลดังกล่าว

ในส่วนของระยะเดินทางนั้นขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกมา อย่างเช่นสำหรับรุ่นมอเตอร์เดี่ยวนั้นจะทำระยะได้อย่างน้อย 400 กม. ต่อการชาร์จ ส่วนในรุ่นมอเตอร์คู่และรุ่นท็อปสุดที่มีมอเตอร์สามตัวนั้น จะทำระยะได้ไกลขึ้นเป็น 480 กม. และโดดไปที่ 800 กม. ตามลำดับ

ส่วนระยะทางจริงนั้น คงจะต้องรอหลังจากที่ได้มีการทำการทดสอบจากทาง EPA สํานักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกา (U.S. Environmental Protection Agency) โดยมาตรฐานนี้เป็นมาตรฐานการสอบอัตราสิ้นเปลืองที่ถือว่าโหดที่สุด และแน่นอนว่าผลการทดสอบที่ได้มานั้นก็เชื่อถือได้มากที่สุดเช่นเดียวกัน

 

Interior และรูปแบบของกระบะบรรทุกสัมภาระ

ถ้าคุณคิดว่าการออกแบบภายในของ Model3 นั้นเรียบง่ายเอามากๆ แล้ว แต่ก็ยังมีข่าวลือหนาหูว่าการออกแบบภายในของกระบะไฟฟ้าคันยักษ์นี้จะง่ายกว่านั้นอีก โดย ณ ขณะนี้ ก็ยังไม่ใครได้เห็นข้อมูลต่างๆ ในส่วนของระบบความบันเทิงและการจัดวางทุกอย่าง นอกจากการตีความจากรูปถ่ายที่ส่องมาได้เพียงรูปเดียว

จากข้อมูลเบื้องต้นที่ออกมาอย่างเป็นทางการ รถกระบะไฟฟ้าคันใหม่นี้จะสามารถโดยสารได้สูงสุด 6 ที่นั่งรวมคนขับ ส่วนพื้นที่กระบะขนาด 6.5 ฟุตนั้นแปลงมาเป็นความจุได้ประมาณ 100 ลูกบาศก์ฟุต แถมด้วยลูกเล่นในการสไลด์ถาดในกระบะออกมาเพื่อใช้ในการขนของได้ง่ายขึ้น คล้ายกับมอเตอร์ไซค์ก็ไม่ปาน

 

บทสรุปจากข้อมูลที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน

ระบบความบันเทิงภายในรถที่อาจจะไม่ต่างจากที่มีอยู่ในรถทุกรุ่นของแบรนด์ ส่วนเรื่องระบบความปลอดภัย น่าจะไม่มีอะไรต้องห่วง เพราะนอกจากระบบพื้นฐานแล้ว Tesla เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันมาให้เพียบ

สุดท้ายคำถามที่อาจไม่ต้องรอคำตอบ ในเรื่องความเป็นไปได้ในการเปิดขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ก็คือ “ถ้า Cybertruck มีการประกอบที่ประเทศจีนเมื่อไหร่” คนไทยอาจจะได้มีเฮกันบ้าง แต่ด้วยนโยบายใหม่ของแบรนด์ที่ออกจากปากนายหัวอย่าง Elon Musk ก็คือจะไม่มีการประกอบรถพวงมาลัยขวาในรถระดับบนหรือรุ่นที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง

 

คงต้องรอสักพัก ให้มีการส่งรถสู่มือผู้ใช้ที่รอคอยอย่างอดทนหลังแห่จองกันยาวนาน เพื่อดูกันว่ากระบะไฟฟ้ายักษ์คันนี้ “ดีพอ” สมกับที่รอมานาน หรือจะเป็น Product ที่ยังอยู่ในช่วงลมเพลมพัด ตามอารมณ์ของเจ้าของแบรนด์กันหรือไม่

 

ถ้าคุณสนใจ ยานยนต์ไฟฟ้า หรือพลังงานขับเคลื่อนแบบใหม่ๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Contentder

Contentder

มือเขียนคอนเทนต์ประจำ กอง บก. มีความรู้พอประมาณทั้ง ไอที ยานยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจ และพยายามศึกษางานด้าน พลังงานและความยั่งยืน เพราะยึดในคำที่ Steve Jobs เคยกล่าวกับเหล่าบัณฑิต มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด ในปี 2005 ที่ว่า "Stay Hungry, Stay Foolish" แปลเป็นไทยง่ายๆ "อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว" นั่นเอง

Related Articles