Battery Passport ตั๋วรักษ์โลก สำคัญอย่างไรต่อระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน

Battery Passport ตั๋วรักษ์โลก สำคัญอย่างไรต่อระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ตัวช่วยในการติดตามการใช้งานและจัดการกับแบตเตอรี่ ในยุคไฟฟ้าครองเมือง
Share

 

หลายคนอาจเคยสงสัย ว่าแบตเตอรี่ที่ใช้กันในอุปกรณ์ต่างๆ หรือกระทั่งในยานยนต์ไฟฟ้า มีการจัดการกันอย่างไร ปัจจุบัน เราอยู่ในยุคไฟฟ้า 4.0 ซึ่งแบตเตอรี่ มีบทบาทสำคัญมาก และเป็นตลาดใหญ่มหาศาล ที่สร้างรายได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ ทั้งภาคอุตสาหกรรมตลอดจนภาคการค้า เพราะแทบจะทุกอุปกรณ์ที่ใช้งานปัจจุบัน ล้วนอาศัยแหล่งพลังงานจากแบตเตอรี่กันทั้งสิ้น

 

จากข้อกำหนดของ EU ในการประกาศว่าภายในปี ค.ศ. 2035 จะต้องยกเลิกการผลิตรถยนต์ใหม่ที่ใช้พลังงานน้ำมันออกขายในพื้นที่สหภาพยุโรป (แม้ว่าล่าสุดมีการขยับขยายและปรับระเบียบต่าง รวมถึงมีการยืดเวลาการบังคับเรื่อง Carbon Neutral ในเรื่องของเดินทางขนส่งคมนาคมไปแล้ว) แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดผลตามมาคือมีการกำหนดกฎระเบียบที่น่าสนใจ

หนึ่งในนั้นก็คือ Battery Passport หรืออาจจะเรียกว่า ตั๋วควบคุมการใช้งานแบตเตอรี่ ซึ่งบรรดาผู้นำระดับโลกต่างเห็นพ้องต้องกันว่าเรื่องนี้ คือเรื่องสำคัญที่ต้องมีการผลักดัน เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่จะนำไปสู่ความยั่งยืนตั้งแต่เรื่องการผลิต ตลอดจนการนำมาใช้งาน และการทำลาย หรือหมุนเวียนต่อไปในระบบ

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่สร้างผลกระทบในเรื่องของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนทั่วโลกเลยทีเดียว

เรื่องนี้ มีการหยิบยกมาพูดคุยกันในเวทีใหญ่ระดับโลก World Economic Forum ที่จัดขึ้นเมื่อต้นปีที่กรุงดาวอส และในเรื่อง proof-of-concept ยังได้รับความร่วมมือจากผู้ผลิตรถยนต์ค่ายใหญ่อย่าง Tesla และ Audi สองรายแรกที่เข้าร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตร Global Battery Alliance ที่มีสมาชิกกว่า 100 องค์กรจากอุตสาหกรรมเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อพัฒนา proof-of-concept ของ Battery Passport

เป้าหมายของเรื่องนี้ อยู่ที่การสร้าง value chain หรือห่วงโซ่คุณค่าที่ยั่งยืนให้กับแบตเตอรีให้ได้ภายในปี 2030 และนั่นคือภาพใหญ่ของเศรษกิจหมุนเวียนในระดับมหภาค ที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ แต่ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จัก Battery Passport กันก่อน

 

ที่มาของ Battery Passport

เส้นทางของแบตเตอรี่พาสปอร์ตเริ่มต้นในปี 2017 จากความต้องการในการติดตามและกำกับดูแลเรื่องการจัดการแบตเตอรี่ที่ใช้ในอุปกรณ์พกพาและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ  โดย IEC (International Electrotechnical Commission) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำหรับมาตรฐานอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ได้เสนอแนวคิดเรื่องของ แบตเตอรี่ พาสสปอร์ต หรือตั๋วควบคุมการใช้งานแบตเตอรี่เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการใช้งานและประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ได้ รวมถึงวิธีการจัดเก็บและการตรวจสอบความปลอดภัยของแบตเตอรี่ต่าง ๆ

หลักการก็คือ แบตเตอรี่พาสปอร์ต จะเก็บข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับแบตเตอรี่ในรูปแบบของไฟล์ดิจิทัล และมีรหัส QR หรือรหัสแท็กที่ติดอยู่กับตัวแบตเตอรี่เพื่อให้อ่านข้อมูลได้ง่าย ด้วยการใช้อุปกรณ์ที่รองรับในการอ่าน

แบตเตอรี่พาสปอร์ตมีประโยชน์หลายด้าน เช่น การช่วยให้ผู้ผลิตและผู้นำเข้าสามารถตรวจสอบความปลอดภัยและความสามารถของแบตเตอรี่ได้ อีกทั้งผู้บริโภคสามารถติดตามประวัติการใช้งานและประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ก่อนที่จะซื้อหรือใช้งาน นอกจากนี้ แบตเตอรี่พาสปอร์ตยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดการและกำกับดูแลเรื่องของการทำลายแบตเตอรี่ในอุปกรณ์ที่หมดอายุการใช้งานให้เป็นไปตามข้อกำหนด

นับตั้งแต่มีการเสนอแนะในปี 2017 สมาคม IEC และสมาคมมาตรฐานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์แห่งสหรัฐอเมริกา (American National Standards Institute, ANSI) ได้ร่วมมือกันในการพัฒนามาตรฐานสำหรับแบตเตอรี่พาสปอร์ต และเผยแพร่เป็นครั้งแรกในปี 2020 โดยได้รับการยอมรับจากอุตสาหกรรมและผู้บริโภคทั่วไป ปัจจุบันนี้ สามารถพบแบตเตอรี่พาสปอร์ตในหลายอุปกรณ์พกพาและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อย่าง สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แล็ปท็อป กล้องดิจิตอล อุปกรณ์เครื่องเขียน และอื่นๆ

การใช้แบตเตอรี่พาสปอร์ต นอกจากจะให้ประโยชน์สำหรับผู้ผลิตและผู้นำเข้าแล้ว ยังให้ประโยชน์ในมุมของผู้บริโภคด้วย โดยช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบประวัติการใช้งานของแบตเตอรี่ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ นอกจากนี้ ยังสามารถประเมินและเปรียบเทียบความสามารถของแบตเตอรี่ในอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สนใจก่อนการซื้อเพื่อใช้งานจริง

นอกจากนี้ แบตเตอรี่พาสปอร์ตยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินการตรวจสอบและประเมินความปลอดภัยของแบตเตอรี่ได้ ทั้งในเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์ การดัดแปลงฮาร์ดแวร์ หรือการเพิ่มความจุของแบตเตอรี่ ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการตรวจสอบและการควบคุมคุณภาพของแบตเตอรี่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของตัวเองได้

ผู้ผลิตและผู้นำเข้ายังสามารถนำแบตเตอรี่พาสปอร์ตมาใช้เป็นแหล่งข้อมูลเพื่อตรวจสอบประวัติการใช้งานและความสามารถของแบตเตอรี่ จึงช่วยลดการสร้างข้อมูลในการตรวจสอบและการรับรองความปลอดภัยของแบตเตอรี่ในกระบวนการผลิตได้

สุดท้าย การใช้แบตเตอรี่พาสปอร์ตยังสร้างความโปร่งใสและเป็นการเปิดกว้างให้กับอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ โดยผู้บริโภคสามารถตรวจสอบและเปรียบเทียบข้อมูลเกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความต้องการได้อย่างเหมาะสมด อีกทั้งสามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการตรวจสอบและการรับรองความปลอดภัยของแบตเตอรี่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองใช้อยู่ได้อีกด้วย ทั้งหมดนี้ช่วยสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นในการใช้งานและการจัดการแบตเตอรี่ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

 

Battery Passport ใช้งานอย่างไร

แบตเตอรี่พาสปอร์ต ใช้ในการสร้างและเก็บรวบรวมข้อมูล โดยผู้ผลิตแบตเตอรี่จะสร้างและบันทึกข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับแบตเตอรี่ในรูปแบบของไฟล์ดิจิทัล ในเรื่องต่อไปนี้

  • รหัสแบตเตอรี่หรือรหัสผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับแบตเตอรี่
  • ความจุของแบตเตอรี่
  • สถานะแบตเตอรี่ (เช่น ใหม่, ใช้งานแล้ว)
  • ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
  • ข้อมูลความปลอดภัยและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
  1. การแนบแบตเตอรี่พาสปอร์ต: แบตเตอรี่พาสปอร์ตจะแปะอยู่กับตัวแบตเตอรี่หรือบนบรรจุภัณฑ์ของแบตเตอรี่ ในรูปแบบสติกเกอร์ ที่มีรหัส QR หรือรหัสแท็กเพื่ออ่านข้อมูลได้ง่าย ๆ ผ่านอุปกรณ์อ่านแบตเตอรี่พาสปอร์ตที่รองรับ
  2. การเข้าถึงข้อมูล: ผู้ใช้สามารถใช้อุปกรณ์อ่านแบตเตอรี่พาสปอร์ต เช่น สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ที่รองรับการอ่านแบตเตอรี่พาสปอร์ต ให้สแกนหรืออ่านรหัส QR หรือแท็กบนแบตเตอรี่ ทำให้เข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ได้
  3. การตรวจสอบข้อมูล: เมื่อผู้ใช้สแกนหรืออ่านแบตเตอรี่พาสปอร์ต ระบบจะแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ เช่น ประวัติการใช้งาน ประสิทธิภาพ หรืออายุการใช้งาน ผู้ใช้สามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการประเมินและเปรียบเทียบคุณสมบัติของแบตเตอรี่กับผลิตภัณฑ์ที่สนใจ
  4. การจัดการและควบคุม: ผู้ผลิตและผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลจากแบตเตอรี่พาสปอร์ตในกระบวนการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพของแบตเตอรี่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของตน นอกจากนี้ยังช่วยในการตรวจสอบความปลอดภัยและความเชื่อถือของแบตเตอรี่

 

สรุปได้ว่า แบตเตอรี่พาสปอร์ตเป็นรูปแบบของข้อมูลที่แนบมากับแบตเตอรี่เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบประวัติการใช้งานและคุณสมบัติของแบตเตอรี่ได้ในวิธีที่ง่ายและรวดเร็ว

 

เรื่องของการนำไปสู่เทคโนโลยียุคใหม่

แบตเตอรี่พาสปอร์ต ช่วยให้สามารถอัปเดตและตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ได้ตลอดอายุการใช้งาน เพื่อให้มั่นใจว่ามีข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นข้อมูลปัจจุบันสำหรับผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น หากแบตเตอรี่ผ่านการซ่อมแซม เปลี่ยน หรืออัปเกรด ข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะมีการอัปเดตไว้ใน แบตเตอรี่พาสปอร์ต

ใช้ในการตรวจสอบย้อนกลับและการปฏิบัติตามข้อกำหนด  แบตเตอรี่พาสปอร์ต ช่วยเพิ่มความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับตั้งแต่ต้นทาง รวมถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ ด้วยการบันทึกและติดตามประวัติการใช้แบตเตอรี่ ผู้ผลิตและผู้นำเข้าสามารถแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับด้านความปลอดภัยและมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถระบุแบตเตอรี่ที่ต้องทิ้งหรือรีไซเคิลอย่างเหมาะสมได้ง่ายขึ้น

ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและข้อมูลเชิงลึก โดยข้อมูลที่รวบรวมจาก แบตเตอรี่พาสปอร์ต จะสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์ที่มีค่าสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ ผู้ผลิตและนักวิจัยสามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ระบุรูปแบบ และตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์

ผสานรวมกับแพลตฟอร์มดิจิทัล  แบตเตอรี่พาสปอร์ต สามารถผสานรวมกับแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหรือแอพมือถือ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลแบตเตอรี่ได้ง่าย การผสานรวมนี้ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกได้อย่างชาญฉลาดโดยพิจารณาจากประวัติของแบตเตอรี่ ประสิทธิภาพ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

สร้างมาตรฐานและการยอมรับทั่วโลก แบตเตอรี่พาสสปอร์ต ได้รับการออกแบบให้เป็นระบบมาตรฐานที่สามารถนำไปใช้ได้ทั่วโลก การกำหนดมาตรฐานช่วยให้มั่นใจถึงความสอดคล้องและความเข้ากันได้ของแบตเตอรี่ยี่ห้อแลประเภทต่างๆ ทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถแลกเปลี่ยนและเข้าถึงข้อมูลแบตเตอรี่ทั่วโลกได้ง่ายขึ้น

 

โดยรวมแล้ว แบตเตอรี่พาสปอร์ต ทำหน้าที่เป็นระบบที่ครอบคลุมสำหรับการติดตาม จัดการ และเข้าถึงข้อมูลแบตเตอรี่ ให้ประโยชน์แก่ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้บริโภคด้วยการให้ความโปร่งใส การรับประกันความปลอดภัย และการตัดสินใจอย่างรอบรู้ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่

สิ่งเหล่านี้มาผสานรวมกับเทคโนโลยียุคใหม่อย่าง Web3 ได้อย่างไร มีการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ เพื่อให้สามารถตรวจสอบข้อมูลทุกส่วนได้ในแต่ละบล็อก โดยที่ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ จึงสร้างความน่าเชื่อถือของข้อมูลตั้งแต่ต้นทางตลอดจนปลายทาง

 

ล่าสุดเราได้เห็นค่ายรถอย่าง Audi ที่ออกมาเปิดตัว แบตเตอรี่พาสปอร์ต เพื่อยืนยันความโปร่งใสของที่มาแหล่งพลังงานในงาน World Economic Forum และคงต้องจับตาความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญนี้ต่อไป เพราะเป็นประเด็นใหญ่ระดับโลกที่สั่นสะเทือนถึงสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่แค่ประโยชน์ในแง่ของความโปร่งใสต่อผู้ผลิตและผู้บริโภคเพียงอย่างเดียว

 

หากสนใจในประเด็นเรื่องของ รถยนต์ไฟฟ้าและการขับเคลื่อนด้วยพลังงานแบบใหม่ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ 

Related Articles