ออโต้แพร์ ก้าวสู่ปีที่ 5 ตอกย้ำความสำเร็จ ระดมทุน Series A มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท จาก มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น พลิกโฉมอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ทดแทนยานยนต์ของไทย

Share

 

ออโต้แพร์ (AUTOPAIR) บริษัทให้บริการโซลูชั่นซอฟต์แวร์ ด้านระบบสั่งซื้อชิ้นส่วนยานยนต์ออนไลน์ ระบบบริหารอู่ซ่อมรถยนต์แบบครบวงจร และระบบบริหารคลังสินค้าสำหรับผู้จำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ เดินหน้าเตรียมก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 เผยภาพรวมความสำเร็จการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย พร้อมประกาศการระดมทุนมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท จากบริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่และเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ เช่น UI/UX ของระบบ โดยในปี 2568   ออโต้แพร์ตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาด 1% ของส่วนแบ่งการตลาดอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ทดแทนยานยนต์ทั้งหมด และสร้างรายได้ต่อปีสูงถึง 2,000 ล้านบาท พร้อมยกระดับกระบวนการทำงานของอุตสาหกรรมอะไหล่ทดแทนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดด้านการให้บริการโซลูชั่นซอฟต์แวร์ของวงการชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์แบบครบวงจรในประเทศไทย

นายสันติ วจนพานิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ออโต้แพร์ จำกัด

นายสันติ วจนพานิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ออโต้แพร์ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยเห็นได้ชัดจากการนำเทคโนโลยีและระบบดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเชิงธุรกิจ เราในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจและให้บริการด้านการสั่งซื้อชิ้นส่วนและอะไหล่ทดแทนยานยนต์ได้เล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจ ด้วยการเข้าไปมีส่วนในการเติมเต็มให้วงการอะไหล่รถยนต์สามารถก้าวผ่านกำแพงของยุคดิจิทัลไปได้อย่างสมบูรณ์ โดยเราตั้งใจที่จะพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการมอบประสบการณ์ใหม่ให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว และโปร่งใสในการซื้อขายอะไหล่รถมากขึ้น โดยปัจจุบันออโต้แพร์มีเครือข่ายของอู่ซ่อมรถยนต์และร้านค้าอะไหล่ที่ใช้งานระบบนี้อยู่มากกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ พร้อมตั้งเป้าต่อยอดนำบริการขยายไปสู่กลุ่มเป้าหมายและอู่ซ่อมรถทั่วประเทศ”

สำหรับมูลค่าตลาดรวมของตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ทดแทนนั้นสูงถึง 306,145 ล้านบาทต่อปี โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 6.9 เปอร์เซ็นต่อปี เนื่องจากผู้ใช้รถเลือกที่จะยืดระยะเวลาการใช้รถเก่าออกไปแทนการซื้อรถใหม่เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย โดยในมูลค่ารวมของตลาดนั้นแบ่งออกเป็นค่าอะไหล่ต่างๆ ประมาณ  200,000 ล้านบาท และค่าบริการ 100,000 ล้านบาท และปัจจุบัน ออโต้แพร์ มีรายได้ต่อปีมากกว่า 100 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 385% ต่อปี และจากการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมาช่วงเริ่มต้น บริษัทได้รับทุน Seed Round จาก KK Fund ซึ่งเป็น Venture Capital จากสิงคโปร์ และ Pre-Series A จากบริษัท ซัมมิท โอโต บอดี้ อินดัสตรี จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งจากการระดมทุนครั้งนี้ช่วยขยายฐานลูกค้าของ ออโต้แพร์ โดยตั้งเป้ามีอู่ซ่อมรถกว่า 1,000 แห่ง ที่ใช้ระบบจัดการนี้ และนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานเป็นรูปแบบดิจิทัลผ่านระบบต่างๆ ให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์ และเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ล่าสุดได้ระดมทุน Series A อีกครั้ง จากบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น พร้อมตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาด 1% ของมูลค่าตลาดรวมของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ทดแทนยานยนต์ สร้างรายได้ถึง 2,000 ล้านบาท ในอีก 2 ปีข้างหน้า

ปัจจุบันออโต้แพร์ (AUTOPAIR) ให้บริการโซลูชันแบบครบวงจรในอุตสาหกรรมตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ทดแทนผ่าน 3 ระบบหลัก ดังนี้

1.ระบบสั่งซื้ออะไหล่ด่วนสำหรับร้านอะไหล่และอู่ฟาสฟิต (AutoTrade) โดยอู่ฟาสฟิตสามารถบริหารข้อมูลอะไหล่ด่วนได้อย่างโปร่งใส และสามารถสั่งซื้อสินค้าในระบบมากกว่า 50,000 รายการ รองรับรถมากกว่า  20 ยี่ห้อ 400 รุ่นย่อย จัดส่งภายใน 60 นาที พร้อมบริการทุกวันไม่เว้นวันหยุด ครอบคลุมกว่า 29 จังหวัดทั่วประเทศ โดยร้านอะไหล่ที่ใช้ระบบนี้สามารถเพิ่มยอดขายได้มากกว่า 100,000 บาทต่อเดือน และปัจจุบันเรามีอู่ฟาสฟิตมากกว่า 200 แห่งที่ใช้บริการ อาทิ Cockpit, Fit Auto, Auto1 และ Autobacs เป็นต้น ซึ่งได้จัดส่งอะไหล่ด่วนผ่านระบบแล้วมากกว่า 100,000 รายการ โดยมีระบบ AI ช่วยในการจัดหาอะไหล่ที่รวดเร็วและแม่นยำ ด้วยอัตราการส่งสินค้าถูกต้องสูงถึง 99%

2.ระบบบริหารจัดการอู่พร้อมตลาดค้าส่งออนไลน์ (AutoHero) สำหรับอู่ทั่วไปที่ไม่เคยติดตั้งระบบใดๆ     มาก่อน สามารถใช้ระบบนี้ในการบันทึกงานซ่อม เก็บข้อมูลลูกค้า รวมไปถึงสั่งอะไหล่จากตลาดค้าส่งออนไลน์ได้ในราคาต้นน้ำ ช่วยลดต้นทุนเพราะไม่ต้องซื้อสินค้าครั้งละมากๆ และยังซื้อได้ในราคาพิเศษ โดยสินค้าในตลาดค้าส่งออนไลน์ไม่เพียงแต่มีอะไหล่รถที่ครอบคลุมมากกว่า 85% ของรถยนต์ส่วนบุคคลทั้งหมดในประเทศ แต่ยังมียางรถยนต์มากกว่า 10,000 รายการ ทำให้อู่สามารถรองรับลูกค้าได้ทุกรูปแบบ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องหาอะไหล่ซึ่งระบบถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่มีข้อผูกมัด พร้อมรองรับการทำงานทั้งบนคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และ มือถือ ในราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 799 บาทต่อเดือน

3.ระบบบริการคลังสินค้าอะไหล่และยางพร้อมจัดส่ง (AutoExpress) คือ ระบบที่อำนวยความสะดวกเพื่อธุรกิจค้าขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ในเรื่องของพื้นที่จัดเก็บสินค้า การแพ็กสินค้า และการจัดส่งสินค้า ช่วยตอบโจทย์ให้กับผู้ขายที่มีเวลาไม่มากพอสำหรับการแพ็กออเดอร์และจัดส่งสินค้าด้วยตนเองเมื่อมียอดขายจำนวนมากและยิบย่อย ซึ่งระบบจัดการออเดอร์ยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบ API ระหว่างคลังสินค้าและตลาดค้าส่งออนไลน์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายให้แก่ลูกค้าใหม่ โดยปัจจุบันเรามีคลังสินค้าบริการอยู่ 3 แห่งครอบคลุมกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมตั้งเป้าขยายคลังสินค้าให้ครบ 10 แห่งในหัวเมืองจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ภายในปี 2567

“ออโต้แพร์ (AUTOPAIR) มุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบต่างๆ ในอนาคต เพื่อให้รองรับการทำงานที่หลากหลายและครบถ้วนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และเราไม่มีนโยบายในการสร้างร้านค้าอะไหล่รถใด ๆ เนื่องจากเราตั้งใจที่จะสร้างระบบให้ทุก ๆ คนในวงการทำงานง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเราไม่ต้องการที่จะเป็นคู่แข่งกับใคร” นายสันติ กล่าวทิ้งท้าย

Related Articles

“เกีย เซลส์ (ประเทศไทย)” จัดงาน “Kia EV Playground” สนามเด็กเล่นแห่งแรกที่เกียชวนเด็กๆ มาเรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานสะอาด พร้อมสัมผัส The Kia EV5 และ The Kia EV9 ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 12 พฤษภาคม 2567 ที่เมกาบางนา

“เกีย เซลส์ (ประเทศไทย)” เปิดตัว “The Kia EV5” รถเอสยูวีขนาดกลาง ไฟฟ้า 100% ครบไลน์อัป ที่ให้ความอเนกประสงค์เต็มรูปแบบรุ่นแรกในไทย ราคาพิเศษช่วงเปิดตัวเริ่มต้น 1,249,000 บาท ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45