ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา Toyota พยายามปั้นเมืองแห่งไอเดียมาหลายที่ ไม่ว่าจะ Aichi เมืองที่พัฒนาจากพื้นที่จัดงาน World Expo 2005 หรือ Shirakawa-Go เมืองย้อนยุควัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ๆ ล่าสุดกับเมืองใหม่ที่ฝันของบริษัทในการถ่ายทอดไอเดีย “เมืองในฝันแห่งอนาคต” ที่ คน พลังงานและเทคโนโลยี เป็นหนึ่งเดียว
พื้นที่ขนาด 175 เอเคอร์ ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิในเมืองซูโซโนะ จังหวัดชิซูโอกะ ห่างจากกรุงโตเกียวราว 100 กม. บนพื้นที่เดิมของโรงงานฮิกาชิ-ฟูจิของโตโยต้า มอเตอร์ ตะวันออก ญี่ปุ่น มีขนาดทั้งหมด 708,000 ตร.ม. นั่นคือที่ตั้งของ Mega Project ใหม่ล่าสุดจากยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่นและโลกอย่าง Toyota
ในระยะแรกจะมีผู้อยู่อาศัย 360 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้พัฒนาโครงการ ครอบครัวที่มีเด็ก และผู้สูงอายุในชุมชน ขณะที่ในอนาคตภายใน 5 ปีนับจากก่อสร้างแล้วเสร็จ ตั้งเป้าให้มีผู้อยู่อาศัยราว 2,000 คน ที่จะย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองนี้ และใช้ชีวิตในบ้านอัจฉริยะ
Toyota หมายมั่นปั้นมือว่าพื้นที่แห่งนี้จะคืออนาคตที่บริษัทเตรียมมอบให้แก้มนุษยชาติ ในฐานะของพื้นที่ในการทดลองแนวคิดของ “เมืองแห่งอนาคต” ที่ความจริงแล้วบริษัทนั้นวาดฝันมานานตั้งแต่ World Expo Aichi 2005
Woven City
คือชื่อของเมืองแห่งอนาคต ที่ Toyota วางแผนไว้ทดสอบยานยนต์ไร้คนขับ เทคโนโลยีอัจฉริยะและหุ่นยนต์ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน โดยสามารถรองรับคนอยู่อาศัยได้ราว 2,000 คน ซึ่งในนั้นรวมถึงเรื่องพลังงานโดยเฉพาะ ไฮโดรเจน เชื้อเพลิงที่บริษัทนั้นแม้จะจุดติดในระบบเครื่องยนต์แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถจุดความสนใจและอยากนำมาใช้ในวงกว้างทั่วโลกได้เสียที ข่าวล่าสุดมีการชวนพันธมิตรเข้ามาสร้างต้นแบบของ เมืองอัจฉริยะ ด้วยแล้ว
Akio Toyoda อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ Toyota ได้อธิบายถึงความเป็น ต้นแบบเมืองอัจฉริยะแห่งใหม่นี้ไว้เมื่อครั้งวางศิลาฤกษ์โครงการย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีกว่าๆ ที่แล้วว่าเมืองแห่งนี้เป็นเหมือน “ห้องปฏิบัติการที่มีชีวิต” โดยจะอนุญาตให้นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ และวิศวกรได้ทดสอบเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ในสภาพแวดล้อมในชีวิตจริงนั่นเอง
“ผู้คนในอาคารบ้านเรือนและยานพาหนะทั้งหมด จะสามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกันผ่านดาต้าเเละระบบเซ็นเซอร์ โดยจะสามารถทดสอบเทคโนโลยี AI ได้ทั้งในโลกเสมือนและโลกจริง เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ได้สูงสุด เราต้องการจะเปลี่ยนปัญญาประดิษฐ์ให้กลายเป็นระบบสารสนเทศอัจฉริยะ”
หลักการออกแบบ 3 ประการ
แนวทางของเราขับเคลื่อนด้วยหลักการที่แน่วแน่ 3 ประการ ได้แก่
- Human-Centered คำนึงถึงมนุษย์ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางและการจัดลำดับความสำคัญตามความต้องการและความชอบของผู้คน
- Living Laboratory หรือห้องปฏิบัติการที่มีชีวิตซึ่งช่วยให้สามารถทดสอบเทคโนโลยีใหม่ๆ ในโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างราบรื่น และ
- Ever-Evolving หรือแนวทางการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งเทคโนโลยีและบริการใหม่ดังกล่าวจะต้องเติบโตและมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
Woven City จะนำเสนอการเคลื่อนไหว/การขับเคลื่อน (mobility) ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของโตโยต้าที่ต้องการเป็น “Mobility for All” ด้วยการออกแบบทางหลากหลายประเภทที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางทั้งบนดินและใต้พื้นดิน เพื่อให้มีการสัญจรอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยแยกการขนส่งเชิงพาณิชย์ การขนส่งในเมือง คนเดินเท้า และการขนส่งสาธารณะและส่วนบุคคลออกจากกัน
บนพื้นผิวของเมืองจะมีเส้นทางที่แตกต่างกัน 3 แบบ แบบแรกสำหรับการเคลื่อนที่แบบอัตโนมัติ หรือสำหรับยานพาหนะไร้คนขับ อีกแบบหนึ่งสำหรับคนเดินถนน และแบบสุดท้ายสำหรับทั้งคนเดินถนนและการเคลื่อนไหวส่วนบุคคล เช่น รถจักรยาน และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ส่วนใต้พื้นดินจะเป็นเส้นทางเฉพาะสำหรับการเคลื่อนย้ายสินค้าซึ่งจะมีการติดตั้งเครือข่ายโลจิสติกส์ของเมืองด้วย
Remark: Vision Mobility นี้ Toyota เองเคยนำออกมาเสนอแนวคิดยานยนต์เพื่อการขับเคลื่อนในอนาคตมาตั้งแต่ปี 2005 แล้ว โดยนำเสนอในพาวิลเลี่ยนของ Toyota เองในงาน World Expo 2005 Aichi, Nagoya
ภายใน Woven City ยังมีนวัตกรรมต่างๆ รวมถึงหุ่นยนต์ที่มีหน้าที่ในการช่วยเหลือและทำให้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยดีขึ้น เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ AI ที่สามารถตรวจสอบสุขภาพของผู้อยู่อาศัย และยานพาหนะอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วยตนเองสำหรับจัดส่งสินค้า
พลังงาน อีกหนึ่งในอนาคตที่จะได้เห็น

เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนและพลังงานแสงอาทิตย์จะเป็นแหล่งพลังงานหลัก และที่สำคัญใน Woven City มีความต้องการผู้ที่จะเข้ามาพัฒนาและยกระดับในด้านการใช้พลังงานอย่างมาก ทำให้เกิดการรวมตัวของนักสร้างนวัตกรรมและนักพัฒนาในการรับฟังพันธมิตรที่มีศักยภาพในหลากหลายสาขา รวมถึงการศึกษา เกษตรกรรม พลังงาน และการขนส่งภายในเมือง
ปัจจุบัน ENEOS Corporation หนึ่งในบริษัทด้านพลังงานเจ้าใหญ่ของญี่ปุ่น ร่วมเป็นพันธมิตรกับทาง Toyota ในการทำการวิจัยขั้นสูงในการนำ ไฮโดรเจน มาผลิตสำหรับใช้เป็นพลังงานหลัก และตอบโจทย์การผลิตและการใช้ไฮโดรเจนที่ปราศจากคาร์บอนไดออกไซด์ภายในเมืองใหม่นี้
โดยในส่วนของ Woven Planet จะสร้างศูนย์กลางการสาธิตภายในและรอบๆ เมืองอัจฉริยะแห่งนี้ เพื่อให้บรรลุความเป็นกลางของคาร์บอน
เปลี่ยน Woven City สู่ Smart City ด้วย IoT
แน่นอนถ้าจะทำให้เมืองต้นแบบสำหรับอนาคตที่สมบูรณ์แบบ การสร้างเมืองใหม่นี้ในรูปแบบของ Smart City ย่อมเป็นเรื่องที่สำคัญ
หน้าที่นี้ถูกยกให้กับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมอีกแห่งอย่าง NTT Corporation ในการปรับใช้เทคโนโลยีสื่อสารไร้สายยุคใหม่เข้ามาติดตั้งในลักษณะของ เซนเซอร์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ รอบเมืองสำหรับการรายงานสถานะของทั้งเมืองผ่านไปยังศูนย์ความคุมกลาง
NTT ได้เลือกเอาเทคโนโลยียุคต่อไปของระบบ IoT เข้ามาติดตั้ง และไม่เพียงแต่อุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ เหล่านี้ยังมีการปรับใช้เทคโนโลยีอย่าง EDGE Computing หรือระบบประมวลผลที่จุดเชื่อมต่อปลายทางหรือ เอดจ์ ร่วมกับเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงอย่าง 5G Advance ซึ่งเป็นอีกระดับของการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ที่มีการใช้กับผู้บริโภคทั่วไป
อาหารการกินสมบูรณ์ไปด้วยสุขภาพ
ภาพของการเป็นเมืองอัจฉริยะในอนาคต หลายคนอาจจะมองเห็นถึงภาพของประชากรที่เดินทางด้วย Hitech Mobility รวดเร็ว ไม่ติดขัด ปราศจากควันพิษ พร้อมระบบบริการข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็วไม่ต้องรอการดาวน์โหลดเอกสาร ดีทุกอย่างแต่อาจจะต้องได้กินอาหารที่หน้าตาคล้ายที่กินกันบนอวกาศ ทั้งหน้าตา และรสชาติ แต่อาจไม่อร่อยและไม่ค่อยเจริญตาเพราะหน้าตาที่มองกี่ทีก็เหมือนก้อนดินน้ำมันสี่เหลี่ยม
พันธมิตรด้านอาหาร ถูกมอบให้กับ Nissin Foods ที่ได้ริเริ่มข้อตกลงร่วมกับโตโยต้าเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ผ่านการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ด้วยการนำเสนออาหารที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของบริษัทนิชชิน ที่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างอาหารกับการยืดอายุขัยเพื่อสร้างสุขภาพที่ดี โดยอิงจากวิทยาศาสตร์ทางโภชนาการระดับโมเลกุลล่าสุด เพื่อจัดหา “อาหารโภชนาการที่สมบูรณ์” ในแบบเฉพาะบุคคล อร่อย และดีต่อสุขภาพสำหรับผู้ที่อยู่อาศัย
โดยสรุปนั้น Woven City คืออีกโมเดลอนาคตที่น่าสนใจอย่างมาก ในแง่ของการปรับใช้เทคโนโลยีด้านต่างๆ ทั้ง คน สิ่งแวดล้อม และพลังงาน ที่ไขว้กันไปมาสมชื่อเมืองที่ถูกถักทอเพื่อเชื่อมโยงกัน และในอีก 5 ปีถ้ามีโอกาสเราคงได้ไปเหยียบที่เมืองแห่งนี้ แล้วเอาทุกอย่างที่เกิดขึ้นจริงมาเล่าให้คุณๆ ได้ฟังกัน
สำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจติดตาม บทความ และสาระน่ารู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง และรูปแบบการใช้ชีวิต สามารถติดตามอ่านข่าวสารและบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่