Opn Tag ยกระดับเมนูดิจิทัลลุยธุรกิจแบบ ‘Tap into new experiences’ ตอบโจทย์โซลูชันร้านอาหารและโรงแรม ตั้งเป้า 10,000 รายภายในปี 65
Opn Tag (โอเพ่น แท็ก) รุกธุรกิจร้านอาหารและโรงแรม หนุนโมเดล O2O เร่งสปีดสู่ Digital Economy พร้อมเปิดประสบการณ์ผู้ใช้งานเพียงปลายนิ้วสัมผัสด้วยเมนูดิจิทัล ตอบโจทย์ยุค เน็กซ์นอร์มัล ด้านผู้บริหาร ภัทรพร โพธิ์สุวรรณ มั่นใจผลิตภัณฑ์ตอบสนองความเป็น Contactless Payments ตั้งเป้าเข้าถึงหมื่นรายภายในปี 65 หนุนมาตรฐานใหม่ด้านบริการในธุรกิจร้านอาหารและโรงแรมด้วยคอนเซ็ปต์ Tap into new experiences
นายสุทธิพร เมฆาอภิรักษ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ บริษัท โอเพ่น จำกัด เปิดเผยว่า Opn (โอเพ่น) พร้อมเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ‘Opn Tag’ (โอเพ่น แท็ก) แพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นเพื่อผู้ประกอบการการร้านอาหาร โรงแรม โซลูชันใหม่ที่ตอบสนองการใช้งาน ในอุตสาหกรรมบริการ อาทิ Digital Menu, Ordering System, Contactless Payments และ Delivery ช่วยแก้ปัญหาจากสถานการณ์ โควิด-19 รวมถึงการขาดแคลนแรงงานด้านการบริการ ซึ่งเชื่อว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวจะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ด้านการให้บริการไร้สัมผัสในวงกว้างภายใต้คอนเซ็ปต์ Tap into new experiences และด้วยความเชี่ยวชาญในวงการเทคโนโลยีมาอย่างยาวนาน มีความมั่นใจว่า Opn Tag จะเติบโตในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน โดยตั้งเป้าหมายในการเข้าถึงผู้ประกอบการภายในปี 2565 ประมาณ 10,000 ราย
“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 ส่งผลกระทบไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันถูกเปลี่ยนแปลงแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะการชำระเงินที่เปลี่ยนจากเงินสด มาเป็นการชำระแบบไร้สัมผัสด้วยสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวในรูปแบบ Contactless Payments สะท้อนว่าพฤติกรรมผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนเข้าสู่โลกดิจิทัลกันเร็วมากขึ้น ในฐานะที่เราเป็นบริษัทเทคโนโลยีจึงพร้อมมีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Opn Tag เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในยุคดิจิทัลไปพร้อมกัน” สุทธิพร กล่าว
นายภัทรพร โพธิ์สุวรรณ รองประธานอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มแอปพลิเคชัน บริษัท โอเพ่น จำกัด เปิดเผยว่า Opn Tag เป็นแพลตฟอร์มที่สนับสนุนให้เกิด Digital Transformation ด้วยการนำเทคโนโลยีในปัจจุบันมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจไม่ว่าจะเป็นการทำเมนูดิจิทัล ลดการใช้กระดาษ ลดการสัมผัส และช่วยประหยัดเวลาในการให้บริการลูกค้า รวมถึงสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกจากการใช้งานของลูกค้า เช่น เมนูขายดีของร้านและช่วงเวลาที่ขายดี ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปต่อยอดธุรกิจ เพิ่มยอดขาย บริหารธุรกิจได้ง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้นท่ามกลางสถานการณ์แวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
“ผมเชื่อว่าต่อไปทุกร้านอาหารหรือแม้กระทั่งโรงแรมจะต้องมี Opn Tag เพราะเป็นการใช้งานแบบ Interaction ผ่านเทคโนโลยี NFC (Near-Field Communication) หรือ QR Code ลูกค้าที่มาใช้บริการสามารถได้รับประสบการณ์ใหม่เพียงนำสมาร์ทโฟนแตะหรือแสกนที่แผ่น Tag ก็สามารถดูเมนูดิจิทัลเพื่อเลือกอาหารที่ต้องการ กดสั่งและสามารถชำระเงินได้ทันที ทำให้ร้านอาหารที่ใช้ Opn Tag สามารถให้บริการลูกค้าในรูปแบบสั่งอาหารแบบไร้สัมผัส สะดวกสบาย ถือเป็นการยกระดับร้านอาหารไปอีกขั้น ตอบโจทย์ลูกค้าในยุคใหม่” ภัทรพร กล่าว
ผู้บริหารกล่าวต่อไปว่า ความสำเร็จของ Opn Tag ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพียงองค์กรเดียว โดยมีบริษัทในเครือเข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง คือ Omise (โอมิเซะ) ผู้ให้บริการระบบรับชําระเงินออนไลน์แบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การรับชําระเงินจากผู้ซื้อ การบริหารจัดการความเสี่ยง การดูแลด้านความปลอดภัย รวมไปถึงการโอนเงินออกจากระบบไปยังบัญชีธนาคาร โดยบริการของโอมิเซะช่วยผู้ประกอบการร้านค้าลดความซับซ้อนในการทําธุรกรรมด้านการเงินอีกด้วย และ พันธมิตรอย่าง SKOOTAR (สกู๊ตตาร์) ผู้ช่วยจัดการขนส่งอาหาร และบริการ นอกจากนี้ในประเทศไทย มี Pilot Merchants ซึ่งก็คือกลุ่มผู้ใช้งาน Opn Tag เป็นกลุ่มแรก จำนวน 22 ราย ดังนี้ Skal, The Baking Bureau, Port Coffee, Factory BKK, Knock Knock, Krobkun, OOO BKK, 10010Bar, Nip Coffee Rama4, Gallery Drip CNX, Nana Coffee Roasters, Mayrai Wine Bar, Kenzou Sushi, KRS Ratchaburi, Haru Dot, Grindsize.Wanchai, Grindsize.Friends, Espressoman CDC, Marni, Hottobun, Hoshi และโรงแรม Mangrove Phuket ส่วนในประเทศญี่ปุ่น PRONTO จะเป็น Pilot Merchant แรก ที่กำลังจะเริ่มใช้งาน Opn Tag ในปีนี้ (PRONTO Corporation เป็นเชนร้านอาหารและคาเฟ่ของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงมากและมีถึง 307 ร้านทั่วโลก) .