เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ (NITMX) มุ่งมั่นพัฒนาระบบการชำระเงินของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ขานรับทิศทางการพัฒนาระบบการชำระเงินภายใต้ภูมิทัศน์ใหม่ภาคการเงินไทยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โชว์จุดยืนการมีส่วนร่วมผ่านบทบาทผู้พัฒนา “พร้อมบิซ” (PromptBiz) แพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินและการชำระเงินดิจิทัลที่เปิดกว้างและมีมาตรฐานสำหรับภาคธุรกิจ เพื่อปรับเปลี่ยนไปสู่การทำธุรกิจดิจิทัลอย่างครบวงจร เชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้า ตั้งแต่ข้อมูลใบแจ้งหนี้ การชำระเงิน จนถึงการออกใบเสร็จ ต่อยอดไปยังการให้บริการด้านสินเชื่อ โดยเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปแล้ว พร้อมประกาศความเชื่อมั่น PromptBiz จะเป็น Game Changer ของภาคธุรกิจ ที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างแท้จริง
จากความมุ่งมั่นของธนาคารแห่งประเทศไทย ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลและรักษาเสถียรภาพระบบการชำระเงิน ได้พัฒนาและส่งเสริมระบบการชำระเงินของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการชำระเงิน ด้วยการสนับสนุนให้ผู้ใช้บริการมีช่องทางชำระเงินที่สะดวกรวดเร็ว สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการและได้มาตรฐาน ตลอดจนเดินหน้าสร้างแนวทางเชื่อมต่อระหว่างภาคธุรกิจ ภาคการเงินธนาคาร และภาครัฐ ให้สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เชื่อมโยงกันได้
ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงประกาศเปิดให้บริการระบบ “พร้อมบิซ” (PromptBiz) ซึ่งพัฒนาโดย เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ เพื่อให้บริการระบบที่เชื่อมโยงข้อมูลการค้าของภาคธุรกิจ ทั้งด้านการค้าและการชำระเงิน (Digital Trade and Payment) ตั้งแต่ข้อมูลใบแจ้งหนี้ การชำระเงิน การออกใบเสร็จ ที่มีความปลอดภัย สอดคล้องกับมาตรฐานสากล รวมทั้งต่อยอดการใช้ข้อมูลไปยังธุรกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง ด้วยการให้บริการด้านสินเชื่อ (Digital Supplychain Finance)
ทั้งนี้ PromptBiz ได้รับการยอมรับว่าจะเข้ามาเป็น Game Changer ของภาคธุรกิจไทย โดยสามารถขจัด Pain point เดิมๆ ด้านการบริหารจัดการภายในองค์กร และเปลี่ยนระบบธุรกิจของประเทศแบบกระดาษไปสู่การทำธุรกิจแบบดิจิทัลอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายจากการใช้เอกสารกระดาษ ค่าขนส่ง ค่าจัดเก็บเอกสาร ค่าจ้างพนักงาน มาเป็นการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ และยังเอื้อประโยชน์สร้างความยั่งยืนให้กับโลกด้วยการลดปริมาณคาร์บอนจากการใช้กระดาษประมาณ 1 ล้านเมตริกตันต่อปี (ข้อมูลอ้างอิงจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย)
นอกจากนั้นยังช่วยแก้ปัญหาจากกระบวนการทำงานต่างๆ ในอดีต เช่น ลดข้อผิดพลาดจากการคีย์ข้อมูลเอกสารการค้าและข้อมูลการชำระเงินด้วยตัวเอง (Manual) เข้าระบบ ลดเวลาในการกระทบยอด (Reconcile) ทางบัญชี รวมทั้งลดภาระของผู้ซื้อในการติดตามหรือทวงถามใบเสร็จรับเงินจากผู้ขาย โดยเปลี่ยนกระบวนการทางธุรกิจมาใช้ระบบอัตโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้น เช่น การชำระเงินพร้อมข้อมูลเอกสารใบแจ้งหนี้ที่ชำระ ผู้ขายสามารถ Reconcile ได้ง่ายขึ้น และส่งข้อมูลใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ PromptBiz ได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนรองรับธุรกรรมข้ามธนาคาร ทำให้ภาคธุรกิจมีข้อมูลดิจิทัลที่เชื่อถือได้ (Digital Footprint) จึงช่วยเพิ่มโอกาสให้ภาคธุรกิจโดยเฉพาะ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย อีกทั้งส่งเสริมบทบาทแพลตฟอร์มสนับสนุนการขยายธุรกิจได้อย่างแท้จริง
เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ ซึ่งอยู่เบื้องหลังการพัฒนา PromptBiz เชื่อมั่นว่าแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินและการชำระเงินกลางรูปแบบดิจิทัล PromptBiz จะช่วยส่งเสริมภาคธุรกิจไทยให้สามารถบริการลูกค้าและคู่ค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ สามารถต่อยอดขยายการให้บริการ เพื่อก้าวสู่การทำธุรกิจแบบดิจิทัลอย่างครบวงจร และตอบโจทย์ธุรกิจดิจิทัลในอนาคต
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจใช้บริการ PromptBiz สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าธุรกิจและเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ของธนาคารนำร่อง 5 แห่ง ได้แก่ กรุงไทย (KTB) กรุงเทพ (BBL) กรุงศรีอยุธยา (BAY) กสิกรไทย (KBANK) และทีเอ็มบีธนชาต (TTB) หรือติดต่อธนาคารแห่งประเทศไทย โทร. 1213 เพื่อขอคำแนะนำในการปรับระบบงานสำหรับการทำธุรกรรมในรูปแบบดิจิทัล
