“คริปโตเอ็กซ์เพรส” ผนึก บล. ฟินันเซีย พร้อมลงศึกสินทรัพย์ดิจิทัล จ่อคิวขอรับใบอนุญาตจาก กลต.

Share

 

บริษัท คริปโตเอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด เล็งขอใบอนุญาต Digital Asset Dealer และ ICO Portal จากสำนักงาน ก.ล.ต. หลังลงนามร่วมกับ บล. ฟินันเซีย ไซรัส ลุยพัฒนาระบบ หวังต่อยอดธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

ซึ่งบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจ License Consult สำหรับผู้ที่ต้องการขอใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ด้านผู้บริหาร “ดุสิต มาดาน” กรรมการผู้จัดการ ระบุจุดแข็งอีก 2 ธุรกิจ คือ White Label มีทีมที่คอยดูแลรักษาระบบให้สามารถทำงานได้ดีอยู่ตลอดเวลา ส่วนธุรกิจระบบ e-KYC Solution ของบริษัทมีความทันสมัยด้วยระบบ AI หวังช่วยต่อยอดธุรกิจให้การเปิดบัญชีสะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น

นายดุสิต มาดาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท คริปโตเอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการระบบ AI และ Machine learning แพลตฟอร์มซื้อ-ขายคริปโทเคอร์เรนซีในรูปแบบออโต้เทรดรายแรกในไทย โดยบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจ License Consult โดยเป็นที่ปรึกษาในการขอใบอนุญาต สำหรับผู้ที่ต้องการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมและความเชี่ยวชาญที่จะให้คำปรึกษาให้แก่บุคคลทั่วไป รวมไปจนถึงบริษัทที่ต้องการขยายธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเมื่อช่วงต้นปี 2565 บริษัทฯ ได้ร่วมลงนามในสัญญาพัฒนาระบบให้กับ บล. ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) โดย FSS ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท เพื่อจัดตั้งบริษัทย่อย เพื่อรองรับการดำเนินงานขยายธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ประเภทนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ภายใต้ชื่อ บริษัท ฟินันเซีย ดิจิทัล แอสเซท จำกัด ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการเตรียมความพร้อม เพื่อขอใบอนุญาต Broker License จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

นอกจากนี้ ยังดำเนินธุรกิจ ไวท์เลเบล (White Label) โดยเป็นโมเดลธุรกิจในรูปแบบ B2B (Business to Business model) ซึ่งบริษัทฯ สามารถออกแบบหรือให้บริการได้ตามความต้องการของลูกค้าได้ทุกรูปแบบ โดยในวงการดิจิทัล ก็มีผลิตภัณฑ์ไวท์เลเบลที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อให้บริการ เช่น เว็บไซต์สำเร็จรูป e-commerce ร้านค้าออนไลน์ หรือ ระบบสะสมแต้มออนไลน์

“จุดแข็งของ White Label คือ มีการดูแลรักษาระบบ-ผู้ให้บริการ โดยผู้ผลิตจะมีทีมที่คอยดูแลรักษาระบบให้สามารถทำงานได้ดีอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะมีการทดสอบระบบอย่างถี่ถ้วน จึงทำให้ข้อผิดพลาดน้อยที่สุด และพร้อมต่อการใช้งานได้เลยทันที” นายดุสิต กล่าว

อีกทั้ง บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจระบบ e-KYC Solution ที่ทันสมัยด้วยระบบ AI ซึ่งภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ผู้ประกอบการทุกรายที่ทำธุรกรรมเกี่ยวกับการเงิน จำเป็นต้องใช้ KYC โดยต้องผ่านเกณฑ์ PDPA ทั้งนี้ บริษัทฯ มองว่าระบบ e-KYC Solution เป็นการช่วยต่อยอดธุรกิจให้การเปิดบัญชีสะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันการเปิดบัญชีออนไลน์ผ่าน e-KYC Solution มีความรวดเร็วไม่เกิน 15 นาที ลูกค้าก็สามารถซื้อขายหลักทรัพย์ กองทุน หุ้น ได้ทันที ถือเป็นการเปิดบัญชีที่รวดเร็วตอบสนองความต้องการลงทุนของลูกค้าในปัจจุบัน ซึ่งระบบ e-KYC Solution ของบริษัทฯ เป็นซอฟต์แวร์สำหรับ e-KYC (การพิสูจน์และยืนยันตัวตน) โดยเป็นหลักเกณฑ์ที่ได้รับการยอมรับจากทั้งสำนักงาน ก.ล.ต. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน  (ปปง.)  ธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานอื่นๆ ที่กำกับด้านการยืนยันตัวตน

อย่างไรก็ตาม หากท่านใดสนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าเยี่ยมชมบริษัทฯ ได้ที่บู๊ท Crypto Expo โดยงานจะจัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ในวันที่ 12-15 พฤษภาคม 2565

innomatter

innomatter

ข่าวไอที นวัตกรรม พลังงาน และความยั่งยืน

Related Articles