ดูเหมือนว่าตอนนี้บรรดาผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก หันมาเล็งเทคโนโลยีเก็บข้อมูลบนโลกบล็อกเชน อย่าง NFT ด้วยการเริ่มเอาผลงานศิลปะดิจิทัลมาจัดเก็บไว้ในรถ ซึ่งอาจเป็นการนำร่องว่าในอนาคต NFT อาจถูกพัฒนาเพื่อใส่ข้อมูลจำเป็นเกี่ยวกับรถยนต์ก็เป็นได้
ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีข่าวที่สะท้อนให้เห็นถึงการเชื่อมโยงโลกดิจิทัลใหม่เข้ากับอุตสาหกรรมรถยนต์ นั่นก็คือข่าวการเปิดตัวเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยี NFT มาใส่ไว้บนรถยนต์แบรนด์ดัง อย่าง Audi (อ่านตามภาษาเยอรมันว่า “อาวดี้”) โดยเป็นการนำเอาผลงานศิลปะดิจิทัลมาเก็บไว้บนระบบความบันเทิงภายในรถ และจะประเดิมเปิดตลาดในประเทศจีนเป็นที่แรก
เรื่องนี้ ผ่านการจัดการของ สตูดิโอ อย่าง Ouchhh Studio ในการนำเอางานศิลปะดิจิทัลที่มีอยู่ (รวมถึงงานที่เจ้าของรถซื้อมาเอง ต่อไปก็จะสามารถเพิ่มเข้าไปได้) โดยเอามาทำเป็นอนิเมชันด้วยการใช้ AI เพื่อที่จะทำให้งานศิลปะเหล่านั้นกลายเป็นงานศิลป์ชิ้นใหม่ที่สวยงามยิ่งขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นเจ้า AI ที่ Ouchhh Studio นำมาใช้ ก็มาจากการเรียนรู้ของผู้คนที่เข้าเยี่ยมชมงานอีเวนต์หนึ่งของบริษัทด้านการตลาดบนอินเทอร์เน็ตที่ชื่อ OMR โดยที่งานดังกล่าว ได้มีการแสดงภาพศิลปะดิจิทัลขนาดใหญ่ไว้ในงานอีกด้วย ทำให้เห็นว่าตอนนี้ในเยอรมันเริ่มตื่นตัวกับงานศิลปะดิจิทัลกันมาก
นอกเรื่องจากประเด็นข่าวเรื่องรถยนต์ก็คือ ภาพศิลปะดิจิทัลที่นำขึ้นแสดงในงานอีเวนต์ของ OMR นั้น ตั้งราคาขายไว้ที่ 50,000 ยูโร (ประมาณ 1,855,000 บาท) แต่นำมาขายในราคาเพียง 50 ยูโร (ประมาณ 1,800 บาท) โดยร่วมมือกับบริษัทอย่าง Timeless ที่มีความเชี่ยวชาญในการแยกงานศิลปะดิจิทัล และหลังจากวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น เงินที่ได้รับเกินจากราคาภาพก็จะถูกนำไปบริจาคให้องค์กรผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เพื่อส่งต่อให้ผู้ลี้ภัยชาวยูเครน
หากถามถึงเบื้องหลังของเทคโนโลยีที่ Audi นำมาใช้เพื่อโอนงานศิลป์ดิจิทัลเข้าสู่ระบบความบันเทิงในรถยนต์ได้นั้น เรียกว่า xNFT โดยเป็นโปรโตคอลหรือระบบที่ทำให้สามารถเชื่อมต่อเข้ากับโลกออนไลน์และดูดเอางานศิลป์ที่เจ้าของรถนั้นเลือกซื้อแล้วนำมาโชว์บนจอความบันเทิงในรถ
มีการออกมาบอกประโยชน์ของ xNFT ว่าในอนาคตจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ได้เป็นแค่เพียงพางานศิลปะดิจิทัลมาไว้ในรถยนต์ แต่สามารถจะเชื่อมต่อข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับรถยนต์เข้ามาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับรายละเอียดและการทำงานของรถยนต์ที่สามารถดาวน์โหลดมาเพื่อปรับปรุงและเพิ่มสมรรถนะการทำงาน โดยปัจจุบันระบบแบบนี้บนรถยนต์จะเรียกว่า FOTA (Firmware Over-The-Air) แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นเทคโนโลยีเฉพาะแบรนด์ ซึ่งทำให้ยากต่อการพัฒนาต่อยอด
หรือจะเป็นเรื่องข้อมูลแยกประเภทเฉพาะรถยนต์แต่ละคัน ซึ่งการพกพาเอกสารแบบกระดาษนั้นเป็นปัญหาอย่างมาก เช่น ทะเบียนรถ เอกสารการต่อภาษี ไปจนถึงประกันภัยรถยนต์ โดยเฉพาะเรื่องของการต่อประกันภัยรถยนต์และภาษีทะเบียนรถในเยอรมันนั้น มีรูปแบบที่แตกต่างกันมาก เพราะคุณสามารถต่อทะเบียนรถยนต์และประกันภัยเฉพาะช่วงหน้าร้อน เนื่องจากโอกาสในการประสบอุบัติเหตุนั้นน้อยกว่าหน้าหนาวที่มีหิมะตก เป็นต้น
ไม่ได้มีแค่ Audi เพียงเจ้าเดียวที่มองเห็นประโยชน์ของการนำเอา xNFT เข้ามาสู่ผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ผู้ผลิตอย่าง Mercedes Benz ได้ประกาศไปแล้วว่าจะนำเอา NFT เข้ามาใช้ในรถยนต์ของตัวเอง รวมถึง Lamborghini, Porsche แบรนด์ร่วมค่าย VW ของ Audi และ McLaren จากเกาะอังกฤษ ก็เตรียมนำเอาเทคโนโลยีนี้มาใช้ด้วย
เริ่มเห็นแล้วว่า Blockchain และ Token นั้นไม่ได้มีประโยชน์แค่เรื่องของเงินและงานศิลป์ดิจิทัล แต่ถ้าเข้าใจถึงประโยชน์ของมันโดยแท้จริงแล้ว เทคโนโลโลยีที่ว่า ก็จะสามารถพัฒนาไปสู่การใช้งานรูปแบบใหม่ที่กว้างไกลกว่าสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน
