5 คาดการณ์ กับอนาคตของ Bitcoin, NFT และภาคการเงิน

Cover
Share

 

บรรดาผู้เชี่ยวชาญในวงการต่างกำลังจับตามองว่า โลกของเงินดิจิทัล นั้นจะเดินไปในแนวทางไหนในปี 2022 นี้

 

Cryptocurrency เป็นประเด็นที่คนทั้งโลกพูดถึงมากในปี 2021 ฝ่ายที่สนับสนุนก็ยกย่องว่ามันจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนโลก รวมถึงให้ศักยภาพในการสร้างเศรษฐกิจใหม่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับประชากรโลกในบางพื้นที่ที่ยังไม่สามารถมีบัญชีธนาคาร แต่ก็มีนักวิจารณ์ที่ออกแนววิพากษ์ถึงผลกระทบอันมหาศาลของ ทรัพย์สินดิจิทัล นี้ เพราะมีอีกหลายคนที่มองว่ามันเป็นการสบช่องสำหรับการยักย้ายเงินมาใช้ในแวดวงการก่ออาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งดูจะเป็นมุมมองสองด้านที่เชื่อมเข้าหากันได้ยากพอควร

ตลาดของ Cryptocurrency นั้นออกจะประหลาดๆ อยู่บ้าง เพราะดูเหมือนว่าถูกผลักดันด้วยไอคอนแปลกๆ อย่าง สุนัขพันธ์น่ารักและสัญลักษณ์จากนอกโลก แต่ในทางกลับกัน ไอคอนน่ารักเหล่านี้ กลับดึงเงินทุนมหาศาลจากนักลงทุนและเอกชนผู้สนใจได้ซะด้วย แถมยังมีเทคนิคในระดับนวัตกรรมที่สามารถเปลี่ยนวิธีการในปฏิสัมพันธ์กับการเงินได้อย่างสิ้นเชิง โดยสิ่งที่ได้รับอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนคาดหวัง ซึ่งข้อมูลต่อจากนี้ จะเป็นคาดการณ์ในเรื่องของ สินทรัพย์ดิจิทัล ในปี 2565 ตามที่ผู้เชี่ยวชาญได้บอกกล่าวเอาไว้

  1. Crypto จะกลายเป็นกระแสเงินหลักมากขึ้น

บริษัทใหญ่ๆ ต่างพยายามค้นหาว่าสกุลเงินดิจิทัลนั้นเหมาะกับธุรกิจของตนในแง่ไหน อย่างไร ทุกคนตั้งแต่ระดับผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ไปจนถึงผู้บริหารของสตาร์บัคส์กำลังเริ่มเคลื่อนไหว และอาจส่งผลกระทบต่อวิธีที่เราใช้เงินดิจิทัลในปีนี้

ก่อนหน้านั้นเมื่อพูดถึง สกุลเงินดิจิทัล ก็มักจะเป็นเรื่องของ Tweet โดย  Elon Musk, เศรษฐีใหม่, งานอาร์ตดิจิทัลราคาแพงระยับและการเจาะระบบขโมยเงินดิจิทัลมูลค่ามหาศาล แต่หากพูดถึงเรื่องพื้นฐานมักไม่ใช่เรื่องตื่นเต้นและดึงดูดความสนใจเท่าไหร่นัก

“เราหวังว่าจะได้เห็นการนำมาใช้งานที่เป็นรูปแบบพื้นฐานมากขึ้น แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การใช้งานเพียงแค่ไม่กี่กรณีแต่ก่อให้เกิด Talk of the Town ได้ ปีนี้จะได้เห็นการนำมาใช้ แบบที่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงในตัวมันมากขึ้น และมีการถกกันถึงรูปแบบบริการทางการเงินใหม่ๆ มากขึ้น” Denelle Dixon ซีอีโอของ Stellar Development Foundation กล่าว “”

  1. NFTs สร้างโอกาสใหม่และผสมผสานสิ่งที่เคยมีให้ดีขึ้น

NFT หรือ Non-Fungible Token เรียกว่าเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่สามารถเปลี่ยนสภาพได้ เป็นศัพท์ที่ส่วนใหญ่เริ่มได้ยินกันมากขึ้นในปี 2564 ที่ผ่านมา และก็กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในแวดวงศิลปะและของสะสม ตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดที่ผ่านมาคือ ชุดภาพงานศิลปะดิจิทัลที่มีชื่อว่า Bored Ape Yacht Club

Picture : Bored Ape Yacht Club Collection

แต่ศักยภาพของ NFTs นั้นไปไกลเกินกว่างานศิลปะดิจิทัล เพราะยังสามารถนำไปใช้ซื้อที่ดินดิจิทัลในโลกเสมือนจริง รวมถึงการเป็นเจ้าของเพลง การออกใบอนุญาต และการเผยแพร่ในอนาคต บางคนยังมองว่าในอนาคตจะถูกนำไปใช้กับการขายอะไรที่พิเศษๆ หรือสินค้ารุ่นลิมิเต็ด รวมถึงบัญชีผู้เล่นเกมส์ นั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2565

“สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ NFT นั้นไม่มีที่สิ้นสุด เนื่องจากสามารถใช้เพื่อบันทึกความเป็นเจ้าของเนื้อหาที่ไม่ซ้ำกัน ที่เห็นมาแล้วคือการนำไปใช้กับ ตั๋วเข้างาน ใบอนุญาตซอฟต์แวร์ การเป็นสมาชิกแฟนคลับ หรือสิ่งที่เชื่อมโยงกับเรื่องประสบการณ์ด้าน Interactive” Alex Atallah ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenSea กล่าว

Picture : Bored Ape Yacht Club Collection

อุตสาหกรรมวิดีโอเกมมูลค่า 85 พันล้านดอลลาร์อาจเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีศักยภาพมากที่สุดสำหรับ NFT สตูดิโอขนาดใหญ่บางแห่งกำลังทดลองสิ่งใหม่อยู่แล้ว รวมไปถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ metaverse ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมดิจิทัล 3 มิติที่สมจริงและนำเสนอโดย Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta (เดิมคือ Facebook) รวมถึงนักเคลื่อนไหวและผู้เขย่าวงการอื่นๆ โดยอุตสาหกรรมเทคโนโลยี NFT สามารถรับบทบาทในการเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับโลกดิจิทัลยุคหน้า

  1. อาชญากรรมไซเบอร์เพื่อขโมยเงินดิจิทัลในวงกว้างและเรียกค่าไถ่ด้วยมูลค่าที่สูงขึ้น

สกุลเงินดิจิทัลถูกนำมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเงินค่าไถ่มูลค่าหลายล้านดอลลาร์ในปี 2564 นั่นเพราะมีคุณสมบัติที่ดึงดูดใจอาชญากร ยากต่อการติดตาม ไร้พรมแดน และเมื่อชำระเงินแล้ว แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตามรอยเจอ

“เราคาดว่า อาชญากรไซเบอร์ จะใช้สกุลเงินดิจิทัลและบริการต่างๆ มากยิ่งขึ้น ซึ่งมันสร้างความสับสนให้กับนักลงทุนและกองทุนต่างๆ ในแนวคิดเรื่องนี้ เพราะโดยความเป็นจริง Bitcoin ถูกออกแบบมาเพื่อกำจัดเรื่องพรมแดนและให้ความคล่องตัวมากกว่าระบบการเงินแบบเดิม อีกทั้งยังได้รับเงินทันที” Gurvais Grigg เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีอาวุโสของ Chainalysis กล่าว

DeFi ซึ่งเป็นระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ หรือไร้ศูนย์กลาง เพราะตัดตัวกลางในการทำธุรกรรมต่างๆ ออกไป โดยไม่ขึ้นกับหน่วยงานหรือสถาบันกลาง แทนที่จะพึ่งพาธนาคารหรือเครือข่ายบัตรเครดิต ผู้คนสามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับผลิตภัณฑ์ DeFi บนเครือข่ายแบบกระจายศูนย์นี้

แม้ว่าอุตสาหกรรมจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ DeFi จัดว่าเป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ใช้เทคนิคขั้นสูงและมีศักยภาพมหาศาล ด้วยเหตุนี้ จึงดึงดูดความสนใจและการลงทุนอย่างมาก ทำให้กลายเป็นพื้นที่สุกงอมสำหรับการเก็บเกี่ยวทางอาชญากรรม

  1. คุณจะได้ยินเกี่ยวกับ stablecoins มากขึ้น

Bitcoin และ cryptocurrencies อื่น ๆ ต่างได้รับความสนใจจากความผันผวนในตัวเอง คุณสามารถกลายเป็นเศรษฐีหรือสูญเสียทุกอย่างได้ภายในพริบตาด้วยความรวดเร็วระดับไฮเปอร์สปีดของอินเทอร์เน็ต แต่ถ้าอยากจะลองซื้อลาเต้สักแก้วด้วย bitcoin ความผันผวนที่ว่าก็จะสร้างความสับสนให้สิ่งต่าง ๆ อย่างรวดเร็วเช่นกัน

Stablecoins ช่วยลดความผันผวนได้มาก และต่อไปอาจมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลให้กลายเป็นสิ่งที่เราใช้ทำธุรกรรมตามปกติในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย

การโอนสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น คือหนึ่งในคุณค่าหลักของ Stablecoin ซึ่งนับว่าให้ประสิทธิภาพสำหรับบริษัทที่ต้องการย้ายสินทรัพย์ดิจิทัลและเงินสดอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

“ในด้านการชำระเงิน อุตสาหกรรมต่างๆ จะเริ่มนำเหรียญ stablecoin มาใช้เป็นวิธีการชำระเงินที่ให้ประสิทธิภาพมากขึ้นปริมาณการใช้งานจะยังคงเติบโต แต่ส่วนแบ่งของการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย crypto เท่านั้นจะลดลง” Omid Malekan ผู้เขียน The Story of the Blockchain และศาสตราจารย์จาก Columbia Business School กล่าว

  1. กฎการเข้ารหัสลับใหม่ กำลังมา

ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลท้องถิ่นรัฐวอชิงตัน มองว่า สกุลเงินดิจิทัลนั้นเป็นเรื่องใหญ่และมีความสำคัญ และกำลังพยายามอย่างหนักที่จะทำความเข้าใจกับมัน ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของการซื้อเวลาก่อนที่ Crypto จะทำให้เกิดการต่อต้านจากตัวแทนที่ไม่ได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้

ในเดือนธันวาคม ผู้บริหารจากบริษัท cryptocurrency หกแห่งถูกเรียกเพื่อไปให้การเป็นพยานต่อหน้าคณะกรรมการบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกำลังหารือถึงแนวทางที่เป็นไปได้สำหรับการออกกฎหมายในอนาคต ฝ่ายนิติบัญญัติในสหรัฐอเมริกาได้แสดงความสนใจในหัวข้อต่างๆ เช่น ผู้ออก stablecoin ควรได้รับการพิจารณาว่าเป็นธนาคารหรือเปล่า? เมื่อใดที่ต้องเก็บภาษีจากสกุลเงินดิจิทัล และวิธีการสร้างกฎเกณฑ์การทำงานในอุตสาหกรรมที่มีความซับซ้อนและใช้เทคนิคขั้นสูง นี่คือสิ่งที่ยุ่งยาก การสร้างมาตรฐานที่ถูกต้องอาจต้องใช้เวลาพอสมควร

อาจจะมีเป้าหมายหลายเรื่องที่ต้องบรรลุให้ได้ก่อนเรื่องของกรอบการทำงานที่ครอบคลุมสำหรับกฎหมายที่เน้นการเข้ารหัสในตัวสินทรัพย์ แต่ถ้าผู้นำในอุตสาหกรรมและเจ้าหน้าที่ที่มาจากการเลือกตั้งสามารถทำงานร่วมกันได้ ผู้ใช้สกุลเงินดิจิทัลและนักลงทุนทั่วไปอาจได้รับประโยชน์ พร้อมๆ กับที่มีการจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยได้ดี

เมื่ออุตสาหกรรมกระแสเงินคริปโตเติบโตขึ้นก็จะมีการเปลี่ยนแปลงในแบบที่เราอาจจะยังคิดไม่ถึง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจน นั่นก็คือ Crypto จะเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตของเราอย่างแน่นอน

innomatter

innomatter

ข่าวไอที นวัตกรรม พลังงาน และความยั่งยืน

Related Articles