ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แค่คิดว่าออกกำลังกายก็แข็งแรงได้!

Share

 

เป็นข่าวฮือฮาในสายคนรักสุขภาพและรวมทั้งสายคนรักการพักผ่อน เมื่อนักวิชาการออกมายืนยันว่า แค่ “จินตนาการ” ว่าออกกำลังกายก็แข็งแรงได้จริง โดยมีงานวิจัยรองรับเป็นประจักษ์พยาน

ทั้งนี้ งานวิจัยที่สร้างความน่าประหลาดใจราวกับรางวัลอิกโนเบลนี้ได้รับการเปิดเผยโดย ดร. กวง เย่ว์ นักวิทยาศาสตร์จาก Cleveland Clinic Foundation ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ทำการทดลองให้อาสาสมัคร 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่ง “จินตนาการ” ว่ากำลังออกกำลังกล้ามเนื้อบริเวณมือและแขนด้วยการเกร็งนิ้วโดยที่ไม่ได้ออกแรงจริง การทดลองนี้ทำวันละหลายครั้งต่อเนื่องกันนาน 12 สัปดาห์ ขณะที่อาสาสมัครอีกกลุ่มลงมือปฏิบัติจริง

เมื่อวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อปรากฏว่า กลุ่มที่จินตนาการว่าออกกำลังมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 13.5 ขณะที่กลุ่มที่ออกกำลังกายจริงมีกำลังเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 30

นั่นหมายความว่า แค่ใช้สมองจินตนาการก็สามารถกระตุ้นระบบประสาทและส่งผลต่อร่างกายได้จริง!

แค่คิดก็แข็งแรงได้…อย่างไร

นักประสาทวิทยาอธิบายว่า เมื่อเราจินตนาการถึงการเคลื่อนไหว สมองในส่วนที่ควบคุมกล้ามเนื้อ (motor cortex) จะทำงานในลักษณะคล้ายกับเวลาที่เราเคลื่อนไหวจริงๆ การส่งสัญญาณประสาทนี้ช่วยให้ระบบประสาท-กล้ามเนื้อปรับตัวและเรียนรู้ได้แม้ไม่มีแรงต้านจากภายนอก

ผลพลอยได้คือ กล้ามเนื้อส่วนนั้นจะตอบสนองได้ดีขึ้นเมื่อใช้งานจริง และด้วยประโยชน์โพดผลเช่นนี้เองจึงมีการนำการจินตนาการการเคลื่อนไหวนี้ไปใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะทางด้านการกีฬา เนื่องจากช่วยให้เกิดการพัฒนาทักษะ สร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ ยังช่วยเพิ่มสมาธิอีกด้วย ไม่เว้นแม้แต่ในช่วงที่นักกีฬาพักฟื้นจากการบาดเจ็บยังสามารถใช้วิธีการนี้ในการเสริมประสิทธิในการฝึกซ้อม โดยจินตนาการถึงการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง

รวมถึงช่วยผู้ป่วยฟื้นฟูจากโรคหลอดเลือดสมอง หรือผู้ที่ต้องพักฟื้นร่างกาย สามารถฝึกสมองส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวได้ หรือในคนทั่วไปที่ต้องการเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงจากภายในได้อย่างน่าอัศจรรย์

จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว

ทางด้าน ดร. เฮเลน โอเชีย นักจิตวิทยาด้านการรู้คิด (Cognitive psychologist) ซึ่งมีประสบการณ์ทำวิจัยด้านการฝึกใช้จินตภาพ กล่าวถึงเบื้องหลังเทคนิคอันน่าทึ่งนี้ว่า เมื่อเราเริ่มศึกษาในด้านนี้ เราพบว่าการจินตนาการการเคลื่อนไหวไม่ได้แค่ช่วยพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวของเราเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของสมองและวิธีการทำงานทางสรีรวิทยาของเราด้วย และให้ผลที่คล้ายคลึงกับผลของการออกกำลังกายอย่างน่าอัศจรรย์

“การจินตนาการการเคลื่อนไหวสามารถเพิ่มความแข็งแรงของเราได้โดยการปรับแต่งแรงกระตุ้นไปยังกล้ามเนื้อเหล่านั้น เราสามารถใช้การจินตนาการการเคลื่อนไหวเพื่อเตรียมระบบการเคลื่อนไหวของเราให้พร้อม เพื่อที่เมื่อเราลงมือเคลื่อนไหวจริงๆ เราจะพร้อมและได้รับการเตรียมพร้อมอย่างดีแล้ว”

ดร.โอเชีย ย้ำอีกว่า ที่ผ่านมาการจินตนาการการเคลื่อนไหวถูกนำไปใช้ในกิจกรรมหลากหลายประเภท ผู้เชี่ยวชาญสามารถนำเทคนิคนี้ไปประยุกต์ใช้ได้นอกเหนือจากกีฬา ยังมีประสิทธิภาพมากในนักดนตรี ศัลยแพทย์ โดยเฉพาะใช้ในการฟื้นฟูการเคลื่อนไหว โดยมีงานวิจัยอีกมากมายที่ยืนยันข้อเท็จจริงนี้

เมื่อรู้วิธีการทำงานของจินตนาการแล้ว ลองหยิบไปใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การเตรียมตัวพรีเซนต์งาน ฝึกวาดรูป หรือคิดถึงตัวเองในชุดออกกำลังกายเพื่อขุดให้ลุกจากเตียงไปออกวิ่งยามเช้า เชื่อว่าพลังของจินตนาการจะนำผลลัพธ์ที่น่าพอใจมาให้ได้บ้าง.

 

 

rabbit2themoon

rabbit2themoon

คอลัมนิสต์หน้าไม่ใหม่ เคยพำนักอยู่ใต้ชายคามติชน ประจำกอง บก.นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ก่อนขยับมาเป็นผู้สื่อข่าวเซ็กชั่นประชาชื่น เขียนสัมภาษณ์บุคคล-สกู๊ปเชิงไลฟ์สไตล์-ท่องเที่ยว-อาหาร-จิปาถะ สถานะปัจจุบัน นอกจากเป็นคอลัมนิสต์ ยังเป็นนักเขียนอิสระ เขียนบทความเชิงประชาสัมพันธ์

Related Articles