กรมสงเสริมอุตสาหกรรม ชูกลยุทธ์เชื่อมโยงทุนวัฒนธรรมและเทคโนโลยี คาดกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 300 ล้านบาท

RESHAPE THE FUTURE กลยุทธ์ใหม่ของ DIPROM เชื่อมโยงทุนวัฒนธรรมและเทคโนโลยี สร้างการเติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืน
Share

 

ในภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกเจอปัญหา อุตสาหกรรมการผลิตของไทยต้องหาช่องทางใหม่เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ภาครัฐเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จำเป็นต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตในครั้งนี้

 

DIPROM ชู “เปิดโลกวัสดุใหม่ด้วยนวัตกรรมและการออกแบบเชิงสร้างสรรค์”
เชื่อมโยงทุนวัฒนธรรมและเทคโนโลยี คาดกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 300 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ “RESHAPE THE FUTURE : โลกเปลี่ยน อุตสาหกรรมปรับ พร้อมรับอนาคต”

 

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม ชูกลยุทธ์ “โลกเปลี่ยน อุตสาหกรรมปรับ พร้อมรับอนาคต” เดินเครื่องออกสตาร์ทกิจกรรม “เปิดโลกวัสดุใหม่ด้วยนวัตกรรมและการออกแบบเชิงสร้างสรรค์” (DIPROM The Unlock Materials Design) ผ่านแนวคิด “From Local To Luxury” ดึงผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุ นักออกแบบ และผู้ประกอบการที่พร้อมสนุกไปกับการผสมผสานและพัฒนาวัสดุใหม่เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์มุ่งสู่สากล คาดกระตุ้นมูลค่าทางเศรษฐกิจเงินสะพัดหมุนเวียนกว่า 300 ล้านบาท

 

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การบริหารงานของนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมไทยในการปรับตัว เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในบริบทต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจและพร้อมรับกับอนาคต

โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสร้างสรรค์มีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยยุคใหม่   บนพื้นฐานของการใช้องค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเชื่อมโยงกับทุนทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยี นวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรม เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และบริการ สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน

ประกอบกับประเทศไทยมีความได้เปรียบในแง่ความหลากหลายทางชีวภาพ ทุนทางสังคม วัฒนธรรม และภูมิปัญญา รวมถึงความโดดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งผู้ประกอบการยุคใหม่ต้องมีความพร้อมทั้งทักษะการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ และทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนาให้เกิดมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าและบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน

ในปี 2567 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม มีแผนขับเคลื่อนผู้ประกอบการและภาคอุตสาหกรรมภายใต้นโยบาย “RESHAPE THE FUTURE : โลกเปลี่ยน อุตสาหกรรมปรับ พร้อมรับอนาคต” ผ่านกลยุทธ์การปรับตัวให้ก้าวทันอุตสาหกรรมใหม่ “RESHAPE THE INDUSTER” เพื่อให้ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์มุ่งเน้นการปรับตัวสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคสมัยใหม่

โดยอาศัยนวัตกรรมและการออกแบบ (Design Innovation) ด้วยการประยุกต์ใช้วัสดุต่อทุนทางวัฒนธรรมควบคู่การผลักดันซอฟต์เพาเวอร์ไทย ผ่านการเปิดตัวกิจกรรม “เปิดโลกวัสดุใหม่ด้วยนวัตกรรมและการออกแบบเชิงสร้างสรรค์” (DIPROM The Unlock Materials Design) ภายใต้ชื่องาน The Cultural Discovery ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ณ มิวเซียมสยาม   ที่ผ่านมา

ดีพร้อม” ได้ออกแบบกระบวนการเรียนรู้ในรูปแบบการลงพื้นที่อย่างมีส่วนร่วม (Action Research) ที่ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทำงานข้ามสายงานร่วมกับชุมชน นักวิจัย และนักออกแบบ รวมถึงการ “คิด” และ “ทดลอง” อย่างมีระบบจนกระทั่งได้แนวทางการพัฒนาวัสดุใหม่ “ปลดล็อค” วัสดุเดิม สร้างโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความ “ใหม่” ในเชิงวัสดุ

โดย “ดีพร้อม” ได้ระดมผู้เชี่ยวชาญและนักออกแบบระดับสากลทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ มาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ ช่วย “คิด” และ ช่วย “ทดลอง” ร่วมกับผู้ประกอบการทั้งในรูปแบบ Creative Seminar การร่วมทำ Design Workshop รวมถึงการพัฒนาวัสดุใหม่อย่างสร้างสรรค์ พร้อมลงลึกในรายละเอียดการทดสอบ ทดลอง ตลอดระยะเวลา 6 เดือนข้างหน้า

ทั้งนี้ ดีพร้อมเชื่อมั่นว่ากิจกรรมนี้จะมีบทบาทสำคัญในการยกระดับศักยภาพและช่วยผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในการปรับตัวเรียนรู้ทรัพยากรทางวัฒนธรรมและเอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่น ตลอดจนเรียนรู้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีและองค์ความรู้วัสดุศาสตร์ในการยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองให้มีจุดเด่นและอัตลักษณ์เชิงพื้นที่ในการแข่งขันในระดับสากลในอนาคตควบคู่กับการผลักดันซอฟเพาเวอร์ไทยไปพร้อมกัน

อีกทั้ง จะสามารถสร้างปรากฏการณ์ “ปลดล็อควัสดุสร้างสรรค์เพื่องานออกแบบใหม่ (The Unlock Materials Design)” สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ สร้างโอกาสทางการตลาดกระตุ้นยอดขาย สร้างรายได้หมุนเวียนในเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาทในอนาคต

 

Remark:

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม:

– คุณภาพของความคิดใหม่ ๆ และนำไปสู่ความเป็นจริงคือความคิดสร้างสรรค์  ส่วนการดำเนินการตามความคิดสร้างสรรค์เพื่อให้ได้สิ่งใหม่ๆออกมา ในการปฏิบัติคือนวัตกรรม

– ความคิดสร้างสรรค์เป็นกระบวนการจินตนาการ ส่วนนวัตกรรมเป็นกระบวนการที่มีประสิทธิผลออกมาเป็นรูปธรรม

– ความคิดสร้างสรรค์ไม่สามารถวัดผลได้  แต่นวัตกรรมสามารถวัดผลได้

– ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวข้องกับการสร้างความคิดที่ใหม่และไม่เหมือนใคร ตรงกันข้ามนวัตกรรมเกี่ยวข้องกับการนำเสนอสิ่งที่ดีกว่าเข้าสู่ตลาด

– ความคิดสร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องใช้เงิน (หรืออาจจะใช้น้อยในการจัดระดมสมอง,สำรวจ เป็นต้น) ในทางกลับกันนวัตกรรมต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากในการค้นคว้า ทดสอบ ผลิตออกมา

– ไม่มีความเสี่ยงในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์หรือมีความเสี่ยงน้อย ในขณะการพัฒนานวัตกรรมมักจะมีความเสี่ยงในด้านต่างๆเสมอ

 

แล้วความเกี่ยวข้อง ของนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์

ความคิดสร้างสรรค์ เป็นจุดกำเนิดแรกของนวัตกรรม เพราะ นวัตกรรมดีๆหลายชิ้น ก่อกำเนิดมาจากความคิดสร้างสร้างสรรค์  ความคิดสร้างสรรค์มีได้เยอะมาก  เพราะความคิดที่แปลกใหม่ แนวทางการแก้ปัญหาใหม่ คิดได้ตลอด แต่นวัตกรรมที่สามารถออกมาเป็นผลลัพธ์ เป็นชิ้นเป็นอันนั้นมีน้อยค่ะ นวัตกรรมจึงเป็นการนำความคิดสร้างสรรค์ Creativity มาต่อยอดออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมให้จับต้องได้ สร้างประโยชน์ให้กับผู้คน และสามารถสร้างผลประโยชน์ในเชิงพาณิยช์ได้

 

สำหรับข่าวสาร บทความ ที่เกี่ยวข้องกับวงการ อุตสาหกรรม สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

 

innomatter

innomatter

ข่าวไอที นวัตกรรม พลังงาน และความยั่งยืน

Related Articles