นวัตกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ยุคใหม่ของเดลล์ เทคโนโลยีส์ คือรากฐานสำคัญของกลยุทธ์โครงสร้างพื้นฐานแบบแยกส่วน ขณะที่การพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลและความมั่นคงทางไซเบอร์ ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดเก็บและปกป้องข้อมูลสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น และนวัตกรรมล้ำหน้าที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์จากเดลล์ ช่วยให้ปรับใช้โซลูชันไพรเวทคลาวด์และเอดจ์พร้อมบริหารจัดการได้แบบอัตโนมัติ
เดลล์ เทคโนโลยีส์ ช่วยลูกค้าออกแบบดาต้าเซ็นเตอร์ยุคใหม่แบบแยกส่วนการทำงาน (modern disaggregated data centers) ด้วยนวัตกรรมด้านระบบจัดเก็บข้อมูล ความมั่นคงทางไซเบอร์ (cyber resilience) ซอฟต์แวร์ และโซลูชันที่ผสานการทำงานได้แบบครบวงจร
องค์กรต่างๆ ต้องเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในการบริหารจัดการและรักษาความปลอดภัยเวิร์กโหลดทั้งแบบดั้งเดิมและเวิร์กโหลดรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ภายในองค์กร รวมถึงสภาพแวดล้อมคลาวด์ และเอดจ์ ในขณะที่ความต้องการด้านไอทีและธุรกิจยังคงเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง ดาต้าเซ็นเตอร์ยุคใหม่จึงต้องพร้อมรับทุกสถานการณ์ ซึ่งแนวทางของเดลล์ในการจัดการโครงสร้างพื้นฐานแบบแยกส่วนการทำงาน จะเป็นการผสานการบริหารจัดการทรัพยากรด้านการประมวลผล ระบบเครือข่าย และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ใช้ร่วมกัน เข้ากับระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ ระบบความปลอดภัย และสามารถทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ได้
ศักยภาพขั้นสูงด้านการจัดเก็บข้อมูลและความมั่นคงทางไซเบอร์
นวัตกรรมล้ำหน้าด้านการจัดเก็บข้อมูลและความมั่นคงทางไซเบอร์ของเดลล์ ช่วยยกระดับประสิทธิภาพและการปกป้องข้อมูลที่ตอบโจทย์ความต้องการดาต้าเซ็นเตอร์ยุคใหม่ได้อย่างครอบคลุม
Dell PowerProtect Data Domain All-Flash ช่วยเพิ่มความมั่นคงทางไซเบอร์ ด้วยความสามารถในการกู้คืนข้อมูลได้เร็วขึ้นถึง 4 เท่า และการทำซ้ำข้อมูล (replication) ได้เร็วขึ้นถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับระบบแบบเดิม ทั้งยังให้ประสิทธิภาพมากขึ้นโดยใช้พื้นที่ตู้แร็คน้อยลงถึง 40%³ และประหยัดพลังงานได้มากถึง 80% เมื่อเทียบกับระบบที่ใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ HDD
ความล้ำหน้าของซอฟต์แวร์ Dell PowerScale ช่วยเสริมประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลแบบอ็อบเจกต์ (Object Storage) และให้ความมั่นคงทางไซเบอร์ โดย PowerScale Cybersecurity Suite มอบโซลูชันที่ครบวงจรเพื่อการปกป้อง การเข้าถึง และการกู้คืนข้อมูลสำคัญ ลูกค้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชันด้วย Amazon EC2 cloud burst และลดต้นทุนด้วยการสำรองข้อมูลไปยัง Dell ObjectScale, Amazon S3 หรือ Wasabi
PowerStore Advanced Ransomware Detection ช่วยให้องค์กรสามารถตรวจสอบความสมบูรณ์ถูกต้องของข้อมูล และลดการดาวน์ไทม์จากการโจมตีของแรนซัมแวร์ ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งข่าวดีนี้มาในโอกาสที่เดลล์เฉลิมฉลองครบรอบ 5 ปีของ PowerStore กับการให้บริการลูกค้าทั่วโลกมากกว่า 17,000 ราย
ยกระดับการดำเนินงานด้านไพรเวทคลาวด์และเอดจ์ด้วยระบบอัตโนมัติ
ซอฟต์แวร์ของเดลล์ ให้ระบบอัตโนมัติในการดำเนินงานและบริหารจัดการโซลูชันไพรเวทคลาวด์และเอดจ์แบบแยกส่วนที่สร้างด้วยโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำของเดลล์ร่วมกับเทคโนโลยีของพันธมิตร
Dell Private Cloud ให้แนวทางใหม่ในการติดตั้ง บริหารจัดการ และปรับขยายการใช้งานไพรเวทคลาวด์ ที่สร้างด้วยซอฟต์แวร์คลาวด์จากผู้ให้บริการอย่าง Broadcom Nutanix และ Red Hat บนโครงสร้างพื้นฐานแบบแยกส่วนของเดลล์ องค์กรสามารถปกป้องการลงทุนด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้ ลดความซับซ้อนของการดำเนินงานด้วยการบริหารจัดการตลอดวงจรการใช้งาน และรองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าด้วยแบบแผนการทำงานที่ผ่านการรับรอง โดยระบบอัตโนมัติช่วยให้องค์กรสามารถจัดเตรียมสแต็กคลาวด์ส่วนตัวได้โดยลดขั้นตอนน้อยลงจากเดิมถึง 90% เมื่อเทียบกับการดำเนินการด้วยตนเอง และสามารถขึ้นคลัสเตอร์ได้ภายในเวลาเพียงสองชั่วโมงครึ่งโดยไม่ต้องดำเนินการเอง
โดย Dell Private Cloud ทำงานบน Dell Automation Platform ที่ออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อนในการติดตั้งและใช้งานโซลูชันแบบแยกส่วน ด้วยกระบวนการเริ่มต้นใช้งาน (Onboarding) ที่ปลอดภัยแบบ Zero Touch และการจัดการแบบรวมศูนย์
“Dell Private Cloud ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าเหมาะสมอย่างยิ่งในการช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ” คีธ แบรดลีย์ รองประธานฝ่ายไอทีและความปลอดภัยของ Nature Fresh Farms กล่าว “ความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนผ่านระหว่างระบบนิเวศคลาวด์และความสามารถในการนำฮาร์ดแวร์กลับมาใช้ใหม่นั้น ช่วยพลิกโฉมการดำเนินงานของเราโดยสิ้นเชิง ช่วย ปกป้องการลงทุน และทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว”
คุณสมบัติใหม่ของ Dell NativeEdge ทำให้โซลูชันนี้ มีความล้ำหน้าและให้ความคุ้มค่ามากที่สุดสำหรับงานประมวลผลเสมือนจริง (Virtualized workloads) ทั้งที่เอดจ์และที่สำนักงานสาขาที่อยู่ห่างไกล ช่วยปกป้องข้อมูลธุรกิจที่สำคัญและรักษาความปลอดภัยด้วยการกระจายการประมวลผลตามนโยบายที่กำหนดได้ (policy-based load balancing) รวมถึงการสร้าง VM snapshots พร้อมให้ความสามารถในการสำรองและย้ายข้อมูล ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถบริหารจัดการสภาพแวดล้อมเอดจ์ที่หลากหลายได้อย่างสอดคล้อง แม้ว่าจะใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ใช่ของเดลล์ หรือโครงสร้างพื้นฐานเดิม (Legacy infrastructure) ก็ตาม
มุมมองผู้บริหาร
“ที่เดลล์ เทคโนโลยีส์ เรากำลังกำหนดสถาปัตยกรรมแห่งอนาคตขององค์กรอัจฉริยะ” อาร์เธอร์ ลูอิส ประธานกลุ่มธุรกิจโซลูชันโครงสร้างพื้นฐาน เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าว “แนวคิดด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบแยกส่วน (disaggregated infrastructure) ของเรา ช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ที่ทันสมัย ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเปลี่ยนข้อมูลให้เป็นองค์ความรู้ และเปลี่ยนความซับซ้อนให้เป็นความชัดเจน”
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
Achieving Cyber Resilience with Dell PowerProtect
PowerScale and ObjectScale, Innovation at Light Speed, Storage That Delivers
Unlocking the Edge: The Latest Innovations from Dell NativeEdge
Simplicity meets Flexibility with Dell’s No Compromise Private Cloud
เชื่อมต่อกับเดลล์บน X และ LinkedIn
