Confluent เผยผลสำรวจด้าน Data Streaming เผย 90% ขององค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเห็นตรงกันว่า แพลตฟอร์ม Data Streaming ช่วยเร่งการปรับใช้ AI ในองค์กร ชี้โอกาสในการขับเคลื่อนนวัตกรรมขององค์กรไทย
คอนฟลูเอนท์ ผู้บุกเบิกด้าน Data Streaming นำงาน Data Streaming World Tour มายังกรุงเทพฯ รวมตัวทั้งผู้นำอุตสาหกรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และผู้ริเริ่มนวัตกรรม เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับศักยภาพของข้อมูลแบบเรียลไทม์ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในประเทศไทยและทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
Confluent ยังได้เปิดเผยผลการสำรวจประจำปีจากรายงาน Data Streaming Report ซึ่งจัดทำเป็นปีที่ 4 โดยได้สำรวจผู้นำด้านไอทีกว่า 4,175 คนจาก 12 ประเทศ ผลการสำรวจนี้ชี้ชัดว่า แพลตฟอร์ม Data Streaming (DSPs) ไม่ใช่เพียงทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของการนำ AI มาใช้งาน รวมถึงการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ
โดยผู้นำด้านไอทีส่วนใหญ่ (89%) เล็งเห็นว่า DSPs ช่วยลดอุปสรรคของการใช้ AI โดยเฉพาะปัญหาด้านการเข้าถึงข้อมูล คุณภาพข้อมูล และธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance) ด้วยเหตุนี้เอง ผู้นำด้านไอทีกว่า 90% จึงมีแผนที่จะเพิ่มการลงทุนใน DSPs ภายในปี 2568
รายงานฉบับนี้อ้างอิงจากการสำรวจที่ออกแบบโดย Freeform Dynamics และดำเนินการโดย Radma Research ซึ่งรวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากผู้นำด้านไอทีกว่า 4,175 คน ในออสเตรเลีย, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, สเปน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยผู้ตอบแบบสำรวจล้วนเป็นผู้ที่มีความคุ้นเคยกับ Data Streaming และทำงานในองค์กรที่มีพนักงานตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป
ทำไมข้อมูลเรียลไทม์จึงจำเป็นต่อ AI
ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ถือเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการใช้งาน AI ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น AI agent, แชทบอท หรือผู้ช่วย AI ล้วนต้องการการเข้าถึงข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับธุรกิจ ลูกค้า และสภาพแวดล้อมภายนอกได้ทันที สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาด แพลตฟอร์ม Data Streaming ที่ครบวงจร ซึ่งช่วยให้มีกระแสข้อมูลที่ต่อเนื่อง มีคุณภาพสูง และสามารถเข้าถึงได้ เพื่อนำไปใช้งานได้ทุกที่ในองค์กร
ดังนั้น แพลตฟอร์ม Data Streaming จึงไม่เพียงแต่เป็นพื้นฐานของ AI ยุคใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างทันท่วงทีแบบเรียลไทม์อีกด้วย
“ในขณะที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI องค์กรต่าง ๆ จำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลที่เหมาะสมและสามารถปรับขนาดได้ตามความต้องการ เพื่อรองรับระบบอัจฉริยะแบบเรียลไทม์” เคนนี่ ชิน ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท คอนฟลูเอนท์ กล่าว “Confluent พร้อมสนับสนุนองค์กรไทยให้สามารถปลดล็อกศักยภาพของข้อมูลได้อย่างเต็มที่ ผ่านแพลตฟอร์ม Data Streaming ที่ช่วยเชื่อมต่อข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้น Confluent ยังรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้มีส่วนร่วมในการผลักดันเป้าหมายดิจิทัลของประเทศ และช่วยให้องค์กรไทยสร้างสรรค์นวัตกรรมได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยขุมพลังข้อมูล AI”
ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แพลตฟอร์ม Data Streaming กำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในฐานะรากฐานสำคัญสู่ความสำเร็จของ AI โดย 89% ของผู้นำด้านไอทีระบุว่า Data Streaming เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดย 90% ระบุว่า DSPs ช่วยให้การนำ AI มาใช้งานง่ายขึ้น โดยการจัดการกับความท้าทายที่สำคัญ อาทิ การเข้าถึงข้อมูล คุณภาพของข้อมูล และธรรมาภิบาลข้อมูล ผลการสำรวจเหล่านี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ AI แห่งชาติของประเทศไทย
รวมถึงการลงทุนกว่า 5 แสนล้านบาท ในโครงสร้างพื้นฐานและโครงการริเริ่มด้านดิจิทัล เพื่อเร่งการพัฒนา AI ในภาคส่วนสำคัญ เช่น สาธารณสุข การท่องเที่ยว และการเกษตร ในขณะที่องค์กรไทยก้าวหน้าตามแผนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล การประยุกต์ใช้ Data Streaming แบบเรียลไทม์จะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการเปลี่ยนเป้าหมายเหล่านี้ให้กลายเป็นจริง
“หากปราศจากแพลตฟอร์ม Data Streaming ผมคิดว่าเราคงไม่อาจดำเนินธุรกิจต่อไปได้แล้ว” Sudhakar Gopal ตำแหน่งEVP & CIO ที่ Citizens Bank กล่าว “แพลตฟอร์ม Data Streaming ช่วยให้เราสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างแอปพลิเคชันแบบ Point-to-Point ได้อย่างราบรื่น ทำให้เราสามารถสร้างการตัดสินใจที่พลิกโฉมการดำเนินงานได้อย่างทันท่วงทีแบบเรียลไทม์”
Data Streaming ปี 2568 สำหรับ APAC
แรงขับเคลื่อนเบื้องหลังความก้าวหน้าของ AI: 89% ระบุว่า DSPs จะถูกนำมาใช้มากขึ้นเพื่อป้อนข้อมูลแบบเรียลไทม์ ข้อมูลแวดล้อม และข้อมูลที่เชื่อถือได้ ให้กับระบบ AI
สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ: 89% จัดอันดับให้ Data Streaming เป็นกลยุทธ์สำคัญลำดับต้น ๆ
การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง: 81% รายงานว่า Data Streaming ให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) สูงถึง 2-5 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 80% ในปี 2567
แนวคิด “Shift left” ได้รับแรงผลักดันเพิ่มขึ้น: 81% ของผู้นำด้านไอที ลดต้นทุนและความเสี่ยงตลอดกระบวนการพัฒนาและปฏิบัติการได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการนำแนวคิด Shift-left มาใช้ในการประมวลผลและธรรมาภิบาลข้อมูล