Give Me A Sci : Pentagon’s Unidentified Aerial Phenomena (UAP) Report

UAP UFO
Share

 

เมื่อกระทรวงกลาโหมและรัฐสภาสหรัฐฯ ออกมายอมรับอย่างเป็นทางการว่า UFO/UAP มีจริงและจำเป็นต้องศึกษา

 

ด้วยเดือนสิงหาคมของทุกปีถือเป็นเดือนวิทยาศาสตร์ของประเทศไทย ดินแดนแห่งสายมูที่ขนาดเรื่อง UFO/UAP ที่น่าจะวิทยาศาสตร์จ๋า ยังกลายเป็นแนวสิ่งศักสิทธิ์และเทพไปได้ซะงั้น ผมจึงเห็นเป็นโอกาสอันดีที่เปิดคอลัมน์ Give Me A Sci ที่จะมาเล่าเรื่องวัตถุลึกลับที่หาที่มาไม่ได้แบบแนวพยายามวิทยาศาสตร์กันนะครับ

พวกเรารู้จักคำว่า UFO (Unidentified Flying Object) กันดีอยู่แล้ว มีรายงานการพบเห็นตั้งแต่อดีตกาลเป็นบันทึก จนปัจจุบันมีทั้งภาพถ่าย คลิป VDO มากมาย เบลอบ้างชัดบ้าง (ชัดเกินไปก็อดสงสัยไม่ได้ว่า CG ไปอีก) ที่น่าแปลกใจคือดูเหมือนว่าทางประเทศตะวันตกจะพบเห็นวัตถุลึกลับพวกนี้ กันง่ายกันเยอะกว่าเรื่องผี แต่ฝั่งโลกตะวันออกโดยเฉพาะประเทศเราจะกลับกัน!

อย่างไรก็ตาม พอมีใครคุยเรื่อง UFO กันจริงจังทีไร มันมักจะกลายเป็นเรื่องเพ้อเจ้อไร้สาระ จะมีคนออกมาพยายาม debunk อย่างรวดเร็วว่าไม่จริงหรอก ขนาดที่อเมริกาผู้นำด้านแนวคิดวิทยาศาสตร์สุดโต่งของโลก เราก็พบว่ามีหลายท่านที่เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือเช่น นักบินรบ นักบินอวกาศ นักการเมือง ฯลฯ ที่มีประสบการณ์พบเห็นโดยตรง มักจะเลี่ยงไม่พูดเพราะมันถูกฝังคำว่า “เพ้อเจ้อ” ติดอยู่มานานแล้ว (stigma) หรืออาจถูกสั่งห้ามพูด? แต่กระนั้นช่วงหลังมานี้เราเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ ที่มีนัยสำคัญเกิดขึ้นครับ

เปลี่ยนคำเรียกจาก UFO เป็น UAP

ทางการสหรัฐ เริ่มเปลี่ยนคำเรียกปรากฏการณ์อย่างเป็นทางการจาก UFO เป็น UAP (Unidentified Aerial Phenomena) เพื่อพยายามสลัด stigma ที่ติดกับคำว่า UFO คนที่พูดคำนี้ออกสื่ออย่างเป็นทางการคนแรกๆ น่าจะเป็น Hillary Clinton1 ตอนสมัยหาเสียงแข่งกับ Donald Trump โดยมีกุนซือใหญ่ท่านนึงช่วยทั้งงานบริหารและหาเสียง มาตั้งแต่สมัย Bill Clinton นามว่า John Padesta (จำชื่อนี้ไว้) ซึ่งเป็นเจ้าของไอเดียให้ Hillary ตอนนั้นหาเสียงว่าถ้าชนะการเลือกตั้งจะเอาเรื่อง Area51 และวัตถุลึกลับทั้งหลายที่ (ไม่เกี่ยวกับความมั่นคง) มาแฉให้ประชาชนรับทราบ แต่เมื่อไม่ได้รับเลือกก็ต้องเก็บเข้าลิ้นชักไป

แต่แล้วในช่วงเดือนธันวาคม 2017 สื่อแนวหน้าอย่าง The New York Times ก็ยิงข่าวใหญ่หน้าหนึ่งชื่อว่า Glowing Auras and ‘Black Money’: The Pentagon’s Mysterious U.F.O. Program2 จากเหตุการณ์พบ UAP ตอนซ้อมรบในน่านฟ้าสหรัฐปี 2004 ที่เรียกว่า USS Nimitz ‘Tic Tac’ UFO3 โดยนักบินหลักที่ประจันหน้าจะๆ คือ Cmdr. Dave Fravor ซึ่งเป็นหัวหน้าฝูง (ระดับ Top Gun ของจริง) และ Lt. Cmdr. Alex Dietrich เป็น Wingman ที่คอยช่วยเฝ้าระวังสังเกตการณ์ (มีเกร็ดเล่ากันว่าที่เค้าเรียกว่า Tic Tac เพราะรูปร่างมันเหมือนเม็ดอมมิ้นต์ Tic Tac และตอนแรกที่ Dave Fravor กลับมาที่เรือ Nimitz มีคนเสนอว่ารูปร่างมันเหมือนยาแก้ไข้ Tylenol แต่คุยไปคุยมาเค้าชอบ Tic Tac มากกว่า)

และมีกลุ่มลึกลับ (ตอนนั้น) ทยอยแอบปล่อยคลิปออกมาเป็นระยะ โดยทั้งหมดเป็นภาพจากจอมอนิเตอร์บนเครื่องบินรบ F18 (ซึ่งถือว่าล้ำที่สุดรุ่นนึงในยุคนั้น) ที่ไม่ใช่ภาพ VDO full HD แบบที่คนทั่วไปคาดหวังจะได้เห็นแบบกล้องมือถือที่ทุกคนมี ซึ่งในช่วงแรกๆ Pentagon ทำเงียบไม่มีความเห็นและแน่นอนว่ามีชาวเน็ตออกมาพยายามจับผิดและให้เหตุผลต่างๆ นาๆ ว่าทำไมมันไม่ใช่ วัตถุลึกลับหรอก

ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยและ “โล่งใจ” กันไปและแน่นอนว่ามีแฟนๆ อีกกลุ่มใหญ่ที่แอบผิดหวัง แต่ต่อมาไม่นานทาง Pentagon โดนกดดันด้วยใครหรืออะไรบางอย่าง จนออกมายอมรับอย่างเป็นทางการว่าคลิป VDO เหล่านั้นเป็นของจริงถือเป็นข้อมูลลับ ไม่รู้รั่วออกไปได้ยังงัยและเป็นเหตุการณ์ที่ผู้เชี่ยวชาญทางการทหารก็อธิบายไม่ได้ ซึ่งเป็นการปัดตกเหล่าคำอธิบายมากมายที่ผู้เชียวชาญทางบ้านพยายามอธิบายว่ามันไม่ใช่บรรดาวัตถุลึกลับทั้งหลาย โดนปัดตกหมดสิ้น (จะปล่อยให้ “โล่งใจ” นานๆ หน่อยก็ไม่ได้)

เมื่อรายงานฉบับจริงถึงมือสื่อมวลชน

ในบทความดังกล่าวของ New York Times มีการพูดถึงโครงการลับเพื่อศึกษา UFO ของกระทรวงกลาโหม มีการพบว่าเหตุการณ์แนวนี้เกิดขึ้นอีกหลายครั้งในระหว่างซ้อมรบบนน่านฟ้าสหรัฐเอง มีการอ้างถึงวุฒิสมาชิกคนสำคัญท่านนึงชื่อ Harry Reid (ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว) ที่ถือเป็นผู้มีอิทธิพลและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหน่วยงานและโครงการลับดังกล่าว เกิดการขุดคุ้ยว่า Harry Reid ชงงบประมาณ “Black Budget” ให้ใครไปศึกษา

เรียกว่าบทความดังกล่าวสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ เกิดการล็อบบี้และทำงานหลังม่านจนมีวุฒิสมาชิกหลายคนรวมตัวกันผลักดันให้รัฐบาล Donald Trump ออกคำสั่งในช่วงสุดท้ายก่อนหมดสมัยช่วงเดือนธันวาคม 2019 ให้ Pentagon ต้องทำรายงานเรื่อง UAP มารายงานต่อรัฐสภาภายใน 6 เดือน จนมีการเผยแพร่รายงาน Preliminary Assessment: Unidentified Aerial Phenomen อย่างเป็นทางการโดย Office of the Director of National Intelligence เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2021 แน่นอนว่ามีรายงานอีกฉบับเป็นเวอร์ชั่น Classified ที่ใช้คุยกันภายในไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้

รายงานยืนยัน UAP มีจริง

หลายท่านอาจสงสัยว่า ก็มีอีกตั้งหลายเคสที่มีทั้งภาพถ่ายและคลิป VDO ชัดกว่านี้ตั้งเยอะ ทำไมไม่เคยสนใจกัน (ทำไมไม่มาเขากะลาบ้านเราบ้าง) ก็พอจะอธิบายได้ว่าสำหรับฝ่ายทหารและรัฐบาลแล้วเรื่องความมั่นคงของชาติต้องมาก่อน การที่ใครหรืออะไรไม่รู้มาบินเพ่นพ่านในท้องฟ้าเขตซ้อมรบบ่อยครั้ง หลายครั้งที่นักบินเขียนรายงาน complain ว่าเกือบจะเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินชนกับสิ่งเหล่านี้ (ถ้าเคยชนจริงก็คงไม่บอกสาธารณะอยู่ดี)

ยิ่งความคิดที่ว่า ถ้ามันเป็นเทคโนโลยีของรัสเซียหรือจีนนี่ยิ่งยอมไม่ได้ใหญ่ เพราะสิ่งที่มาล้ำน่านฟ้าแบบแหย่หนวดเสือขนาดนี้ มันเกินหน้าอาวุธของสหรัฐไปมากขนาดที่ว่าความรู้ด้านฟิสิกส์ของมนุษย์ในปัจจุบันเองก็อธิบายไม่ได้ เหนือสิ่งอื่นใดคือ data ที่เก็บได้จากสารพัดอุปกรณ์ตรวจวัดจากเหตุการณ์ประเภทนี้ทุกครั้ง ทั้งจากตัวเครื่องบินรบ

จากการสังเกตของนักบินฝีมือดีที่สุดของกองทัพ เครื่องบินตรวจการ เรือบรรทุกเครื่องบิน เรือรบบัญชาการ มันสอดคล้องกันหมด แปลว่าตัดเรื่องภาพลวงตา ภาพหลอน (ที่ชอบใช้อธิบายเคสการพบเห็นของประชาชนทั่วไป) และความผิดพลาดจากระบบ ฯลฯ ไปหมดสิ้น มันเกิดบ่อยและมี data สอดคล้องทุกครั้งจนมั่นใจว่าของจริง

ดูเหมือนว่ากลุ่มลึกลับที่วิ่งล็อบบี้รัฐสภาอยู่เบื้องหลังจับจุดได้ว่าจะดันเรื่องนี้ ต้องพุ่งเป็นไปที่เรื่องการทหารและความมั่นคง (วันหลังจะมาเล่าเหตุการณ์ที่วัตถุลึกลับนี้มาวุ่นวายกับฐานปล่อยขีปนาวุธนิวเคลียร์) ล็อบบี้กันสำเร็จจนรัฐสภาให้ความสำคัญเรื่องนี้จน Pentagon ประกาศจัดตั้ง UAP Taskforce อย่างเป็นทางการขึ้นมาศึกษา ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Airborne Object Identification and Management Group (AOIMSG) และล่าสุดเปลี่ยนชื่ออีกเป็น All-domain Anomaly Resolution Office (AARO)4

ถามว่าทำไมเรื่องนี้ ที่ทางการทหารและรัฐบาลเคยว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ถึงเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ทำไมถึงมีการขุดเหตุการณ์ Tic Tac UFO ที่เกิดตั้งแต่ปี 2004 ขึ้นมา ทำไมอยู่ๆ The New York Times ถึงเล่นข่าวใหญ่เรื่องนี้ ทำไมอยู่ๆ Commander Dave Fravor ถึงมาออกสื่อเล่าละเอียดกับเหตุการณ์นี้ ไอ้กลุ่มลึกลับที่ว่าเค้าเป็นใครกันนะ? แล้วเนื้อหาใน UAP Report เค้าว่ายังงัยบ้าง? โปรดติดตามตอนต่อไปครับ…

Tong DeLom

Tong DeLom

อดีตวิศวกรคอมพิวเตอร์ ที่ปรึกษาธุรกิจ Startup และผู้บริหารบริษัทไอทีชั้นนำ ผู้เชื่อในกฏ 80/20 และมักสงสัยว่าทำไมโลกตะวันตกพบเห็น Alien/UFO 80% พบเห็นผี 20% แต่โลกตะวันออก (โดยเฉพาะประเทศไทย) ทำไมกลับกัน? ภายหลังได้หันมาสนใจศึกษาด้าน Quantum Physics, Psychology และ Spiritual ไปพร้อมๆ กันเพื่อหวังว่าจะมีเรื่องสนุกๆ มาเล่าสู่กันฟัง

Related Articles