ส่องเทรนด์ใหม่ “ฟรีซร่าง” หลังตุย รอฟื้นกลับมาใช้ชีวิตที่ 2

Share

 

เป็นประเด็นขึ้นมาทันทีที่ในงานเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะครบรอบ 80 ปีของจีน ปรากฏภาพประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเดินเคียงวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ข่าวว่าทั้งสองพูดคุยกันถึงอายุขัยของมนุษย์ในศตวรรษหน้าที่อาจจะอายุยีนถึง 150 ปี เพราะ…

“ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ อวัยวะของมนุษย์สามารถปลูกถ่ายได้เรื่อยๆ และผู้คนจะมีอายุยืนขึ้นจนอาจถึงขั้นมีชีวิตเป็นอมตะ”

การแสวงหาความเป็นอมตะเป็นความฝันใฝ่ของมนุษย์มานาน…

ปัจจุบันเราสามารถช็อตคัท ข้ามไปรอชีวิตที่ 2 ได้เลย เพียงมีเงินราว 7.3 ล้านบาท สำหรับการแช่แข็งทั้งร่าง แต่ถ้าใช้บริการแช่แข็งเฉพาะสมอง มีสนนราคาค่าใช้จ่ายราว 2.75 ล้านบาทเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม มีเงื่อนไขว่าเมื่อตกลงทำสัญญากันแล้ว การให้บริการในทางปฏิบัติจะเริ่มต้นขึ้นหลังจากเจ้าของร่างได้รับการยืนยันทางกฎหมายแล้วว่าเสียชีวิตแล้วจริง

บริการดังกล่าวเป็นของ Tomorrow.Bio สตาร์ทอัปจากเยอรมัน ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 โดย ดร.เอมิล เคนด์ชิออร์รา อดีตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งและทีมงานสายไบโอเทค ที่มีความเชื่อว่า ความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิตถ้าเราสามารถหยุดกระบวนการเสื่อมสลายของเซลล์ในร่างกายได้

เบื้องหลังของการเปิดให้บริการแช่แข็งร่างมนุษย์ รวมถึงร่างสัตว์เลี้ยงสุดเลิฟ ได้แรงบันดาลใจมาจากเคสผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้นเพราะอุณหภูมิที่เย็นจัด แต่ภายหลังไม่นานก็กลับฟื้นกลับมาหายใจได้อีกครั้ง ซึ่งหนึ่งในเคสที่เกิดขึ้นจริงคือ แอนนา เบเกนโฮล์ม นักท่องเที่ยวที่ไปประสบอุบัติเหตุระหว่างเล่นสกีที่นอร์เวย์เมื่อปี 1999 แม้แพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตไปแล้ว 2 ชั่งโมงให้หลังหัวใจที่หยุดเต้นไปแล้วกลับเริ่มต้นทำงานใหม่อีกครั้ง

ทั้งนี้ กระบวนการแช่แข็งร่างเพื่อรอวันฟื้นคืนใหม่อีกครั้ง เรียกว่า “ไครโอพรีเซอร์เวชัน” (Cryopreservation) เป็นการแช่แข็งร่างภายหลังเสียชีวิต โดยร่างนั้นจะถูกทำให้อุณหภูมิลดลงถึง -196 องศาเซลเซียส ด้วยการแช่ในไนโตรเจนเหลว ฟรีซร่างกายให้กระบวนการทางชีวภาพทั้งหมดหยุดลง เข้าสู่ภาวะจำศีล เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาสำหรับใช้งานในอนาคต เหมือนการแช่แข็งไข่ อสุจิ และตัวอ่อน

ฉะนั้น เพื่อการหลีกเลี่ยงเซลล์เนื้อเยื่อเสียหายเพราะการแช่แข็ง ส่วนของน้ำทั้งหมดในร่างกายจะต้องถูกแทนที่ด้วยไครโอโพรเทกแทนต์ (Cryoprotectant) จากนั้นจึงนำร่างไปเก็บรักษาอย่างถาวรที่ European Biostasis Foundation ในสวิตเซอร์แลนด์

แม้ว่า ณ วันนี้ยังไม่มีหลักฐานใดที่พิสูจน์ได้ว่าสิ่งมีชีวิตที่มีโครงสร้างทางสมองที่ซับซ้อนเท่ามนุษย์สามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้สำเร็จ ทาง Tomorrow.Bio ยังคงยืนหยัดในหลักการอย่างเต็มเปี่ยม โดยหยิบยกหนึ่งในงานวิจัยเมื่อปี 2023 ที่คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยมินนิโซตาทวินซิตีส์ ทดลองแช่แข็งไตของหนูเป็นเวลา 100 วัน และนำมาปรับให้อุณหภูมิอุ่นขึ้น รวมทั้งขจัดของเหลวป้องกันการเกิดน้ำแข็งออกจนหมด ก่อนปลูกถ่ายไตที่แช่แข็งนี้เข้าไปในตัวหนู 5 ตัว ผลปรากฏว่าระบบการทำงานของไตหนูฟื้นคืนกลับมาได้ภายใน 30 วัน

“หลายอย่างที่ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐาน แต่มันอาจจะได้ผลก็ได้ เพียงแค่ไม่มีใครได้ลองทำเท่านั้น” ดร.เคนด์ชิออร์รา บอก

จนถึงวันนี้มีผู้ใช้บริการแช่แข็งร่างแล้ว 20 คน กับสัตว์เลี้ยงอีก 10 ตัว ไม่รวมผู้ที่ลงชื่อเข้าร่วมโครงการอีกกว่า 800 รายจากกว่า 45 ประเทศทั่วโลก

ถามว่าแล้วร่างที่แช่แข็งอยู่นั้นต้องรอไปจนถึงเมื่อไหร่?

ยังไม่มีคำตอบแน่ชัด ต้องรอคอยกันต่อไปว่าสักวันเมื่อวิทยาการก้าวหน้ามาจนถึงจุดๆหนึ่ง ร่างที่รออยู่เหล่านี้จะสามารถฟื้นขึ้นมามีชีวิตที่ 2 อีกครั้ง

ต่อให้ต้องแช่แข็งรอคอยไปอีก 50 ปี หรือ 100 ปี ก็ตามที เพียงแต่เมื่อถึงเวลานั้น โลกจะเปลี่ยนไปแค่ไหน-ในยุคที่โลกหมุนเร็วขนาดนี้ เป็นเรื่องน่าคิด.

rabbit2themoon

rabbit2themoon

คอลัมนิสต์หน้าไม่ใหม่ เคยพำนักอยู่ใต้ชายคามติชน ประจำกอง บก.นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ก่อนขยับมาเป็นผู้สื่อข่าวเซ็กชั่นประชาชื่น เขียนสัมภาษณ์บุคคล-สกู๊ปเชิงไลฟ์สไตล์-ท่องเที่ยว-อาหาร-จิปาถะ สถานะปัจจุบัน นอกจากเป็นคอลัมนิสต์ ยังเป็นนักเขียนอิสระ เขียนบทความเชิงประชาสัมพันธ์

Related Articles