GreenIO ขับเคลื่อนนวัตกรรมแก้มลพิษ สู้วิกฤตฝุ่น PM2.5 ชู AI บนเครื่องตรวจวัดอากาศ ปกป้องลมหายใจสะอาด ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย
โครงการนี้ถือเป็นการยกระดับความสามารถในการตรวจวัดมลพิษ ด้วยการผสานเทคโนโลยี AI บนอุปกรณ์ (On-Device AI) ขั้นสูงของ Qualcomm Technologies เข้ากับเซนเซอร์อัจฉริยะ กล้อง และโดรนของกรีนไอโอ (GreenIO) ทำให้สามารถตรวจจับคุณภาพอากาศและควันไฟได้อย่างแม่นยำแบบเรียลไทม์ โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องชุมชนจากผลกระทบของมลพิษ PM2.5 ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดซ้ำและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองบริษัท ที่ต้องการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของความเชื่อเดียวกันว่า อากาศบริสุทธิ์คือสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน และคือหัวใจของการมีชีวิตที่ดี
โครงการ Qualcomm® Wireless Reach™ เป็นโครงการระดับโลกที่ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมการสื่อสารไร้สายเพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางสังคมและเศรษฐกิจ นับตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา โครงการนี้ได้ดำเนินการแล้วกว่า 150 โครงการ ใน 75 ประเทศ ส่งผลกระทบเชิงบวกให้กับผู้คนมากกว่า 27 ล้านคนทั่วโลก สำหรับประเทศไทย โครงการตรวจวัดมลพิษทางอากาศที่ได้ร่วมมือกับกรีนไอโอ (GreenIO) ถือเป็นการต่อยอดสำคัญ ที่จะช่วยสนับสนุนการกำหนดนโยบายด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและทันเวลา และยังเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันการพัฒนาที่ยั่งยืน
ชารอน อลาลอฟ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ควอลคอมม์ ซีดีเอ็มเอ เทคโนโลยี เอเชีย-แปซิฟิก จำกัด กล่าวว่า เชื่อว่าศักยภาพสูงสุดของเทคโนโลยีอยู่ที่ความสามารถในการรับมือกับความท้าทายที่เร่งด่วนที่สุดของมนุษยชาติ โครงการ Qualcomm® Wireless Reach™ ที่เราร่วมมือกับกรีนไอโอในประเทศไทย เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า นวัตกรรม AI บนอุปกรณ์ สามารถสร้างประโยชน์ที่แท้จริงต่อสุขภาพของประชาชนและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมได้ ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ที่ได้จากโครงการนี้ ไม่เพียงช่วยปกป้องชุมชนในวันนี้ แต่ยังช่วยวางรากฐานสำหรับการออกนโยบายที่แม่นยำขึ้น และสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับประเทศไทย
กรีนไอโอ เป็นผู้นำในการประยุกต์ใช้เซนเซอร์อัจฉริยะและเทคโนโลยี AI-on-Device เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในเขตเมือง เมื่อระดับ PM2.5 สูงเกินเกณฑ์ปลอดภัย ระบบของ GreenIO จะสร้างการแจ้งเตือนแบบ เรียลไทม์ ผ่านแดชบอร์ดเฉพาะกิจโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ อุปกรณ์เซนเซอร์แต่ละตัวยังมีหน้าจอในตัว ทำให้สถาบันต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน และพื้นที่สาธารณะ สามารถติดตามคุณภาพอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบริหารจัดการสภาพแวดล้อมของตนเองได้อย่างทันท่วงทีในช่วงที่มีค่ามลพิษผิดปกติ
นอกเหนือจากการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์แล้ว วิสัยทัศน์ของกรีนไอโอยังมุ่งสู่การสร้างเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืน โดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกจากเทคโนโลยี AIoT เพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบายเชิงรุกในการสร้างอากาศที่สะอาดและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ความมุ่งมั่นนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) โรงพยาบาลของรัฐ และโรงเรียนทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีระบบปรับเทียบอัตโนมัติ (self-calibration) และออกแบบให้คงความแม่นยำในการตรวจวัดได้อย่างน่าเชื่อถืออย่างน้อย 3 ปี เพื่อรับประกันว่าข้อมูลที่ได้มีความต่อเนื่องและเชื่อถือได้
อิทธิชัย ภูมิศิริวิไล กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท กรีนไอโอ จำกัด (GreenIO) กล่าวว่า ความร่วมมือกับ Qualcomm Technologies ในครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงพันธกิจของกรีนไอโอ ที่ต้องการทำให้โซลูชัน AIoT เข้าถึงได้ง่ายและสร้างประโยชน์ให้กับทุกคน ปัจจุบัน เราได้ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดไปแล้วกว่า 200 ชุด ใน 10 จังหวัด ครอบคลุมประชากรมากกว่า 200,000 คน โดยเปลี่ยนข้อมูลสิ่งแวดล้อมดิบให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริง ความร่วมมือนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องเทคโนโลยีเท่านั้น
แต่มอบเครื่องมือให้ชุมชนและผู้กำหนดนโยบาย สามารถสร้างอากาศที่สะอาดและอนาคตที่ยั่งยืนได้อย่างมั่นคง นอกจากนี้ เรายังคงมุ่งมั่นสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมในประเทศ โดยที่โซลูชัน AI-on-Device ที่ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตของ Qualcomm® สามารถตอบโจทย์ความท้าทายได้แบบหลากหลาย ตั้งแต่การปกป้องสิ่งแวดล้อมไปจนถึงความปลอดภัยของประชาชน และอื่นๆ
ในอนาคต กรีนไอโอมุ่งขยายโมเดลที่ได้รับการพิสูจน์แล้วให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ผ่านความร่วมมือกับกระทรวง มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาล เพื่อนำข้อมูลคุณภาพอากาศมาใช้สนับสนุนมาตรการด้านสุขภาพและนโยบายความปลอดภัยในโรงเรียน พร้อมยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำระดับภูมิภาคด้านนวัตกรรม AI บนอุปกรณ์ เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและการดูแลสุขภาพ
ตลอดจนสร้างโครงสร้างพื้นฐานการดำรงชีวิตที่ยั่งยืนให้แก่ชุมชน นอกจากนี้ ความร่วมมือครั้งนี้ยังต่อยอดไปสู่การประยุกต์ใช้โซลูชัน AI บนอุปกรณ์ในมิติอื่น ๆ นอกเหนือจากคุณภาพอากาศ เช่น โครงการระบบนำทางสำหรับผู้มีความบกพร่องทางการมองเห็นที่กำลังพัฒนาอยู่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันกว้างไกลของ AI บนอุปกรณ์ในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนในหลากหลายภาคส่วน