ฉลองสถิติตู้สินค้าผ่านท่าเทียบเรือสะสมครบ 40 ล้าน TEU ตั้งเป้าปรับเปลี่ยนระบบให้เป็นท่าเทียบเรือขนส่งสินค้าที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมนำระบบจัดการอัตโนมัติพร้อมพลังงานสะอาด สู่ท่าเทียบเรือสีเขียว
บริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย (HPT) ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือขนถ่ายตู้สินค้า ท่า A2, A3, C1&C2 และท่าเทียบเรือชุด D ณ ท่าเรือแหลมฉบัง นำโดย มร. สตีเฟ้นท์ อาร์ชเวิรท กรรมการผู้จัดการ ฮัทชิสัน พอร์ท ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำทีมผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย (HPT) ร่วมประกาศความสำเร็จในการบันทึกสถิติขนถ่ายตู้สินค้าผ่านท่าเทียบเรือของบริษัทฯ สะสม 40 ล้าน ทีอียู ในเดือนกันยายน 2566 นี้
นำระบบอัตโนมัติพ่วงพลังงานไฟฟ้า สู่ท่าเทียบเรือสีเขียว
ในโอกาสเดียวกันนี้ มร. สตีเฟ้นท์ ยังได้กล่าวสุนทรพจน์เสริมสร้างกำลังใจในการทำงานและขอบคุณบุคลากรทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันผลักดันการให้บริการจนบรรลุผลสำเร็จมาโดยตลอด และพร้อมก้าวสู่เป้าหมายใหม่ ที่ 50 ล้าน ทีอียู ในอนาคตอันใกล้ ควบคู่ไปกับการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมการปฏิบัติการที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“ปัจจุบัน Huchison Port Thailand กำลังอยู่ในช่วงของการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีทั้งในด้านของการขนส่งสินค้าภายในท่าเทียบเรือไปสู่ระบบอัตโนมัติ เช่น เครนและรถลากตู้สินค้าถูกเปลี่ยนไปเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด โดยระบบเครนยกสินค้านั้นปัจจุบันจะไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นไปบังคับที่ด้านบนแล้ว โดยทำการเปลี่ยนมาเป็นบังคับการทำงานจากระยะไกล พนักงานขนส่งตู้สินค้าจากเรือสามารถบังคับการทำงานจากห้องควบคุมในอาคารผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา”
มร. สตีเฟ้นท์ ได้เสริมข้อมูลเพิ่มเติมว่า “สำหรับรถลากตู้สินค้านั้นมีการเปลี่ยนไปใช้รถแบบที่ไม่มีคนขับสามารถขนเคลื่อนตู้สินค้าแบบอัตโนมัติ เพียงแค่สั่งให้ไปรับตู้สินค้าและกำหนดพื้นที่ปลายทาง ตัวรถลากตู้สินค้าก็จะสามารถทำงานได้เองหรือในกรณีจำเป็นจะสามารถควบคุมผ่านห้องปฏิบัติการได้เช่นกัน”
นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้ตั้งเป้าหมายสู่การเป็น ท่าเทียบเรือสีเขียว ด้วยการเปลี่ยนพลังงานที่ใช้ในการขนส่งตู้สินค้าผ่านทางท่าเทียบเรือปัจจุบันที่บริษัทดูแลไปสู่การใช้ไฟฟ้าทั้งหมด โดยที่ภารกิจการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือว่าเป็นเป้าหมายของกลุ่มบริษัทที่กระจายอยู่ทั่วโลกในการลดมลภาวะและเป็นการวางแผนสู่ความยั่งยืนของธุรกิจท่าเทียบเรือสินค้า
พื้นที่ท่าเทียบเรือสินค้าของ Huchison Port Thailand
ท่าเทียบเรือขนส่งสินค้าของบริษัทได้รับการออกแบบก่อสร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจขนส่งตู้สินค้าของประเทศไทย บริษัทฯ ตั้งอยู่ในบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยบนชายฝั่งของจังหวัดชลบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 130 กิโลเมตร
HPT ให้บริการอำนวยความสะดวกเต็มรูปแบบ รวมถึงบริการสถานีขนถ่ายสินค้า ระบบรถไฟขนส่งรางคู่และมีเส้นทางเชื่อมต่อที่ดีกว่าสู่ทางหลวงสายหลักเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางในที่ต่างๆ ในประเทศไทย โดยปัจจุบันเปิดให้บริการในท่าเทียบเรือ A2, A3, C1&C2, D1 และกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาส่วนที่เหลือของท่าเทียบเรือชุด D
มร. สตีเฟ้นท์ ได้อธิบายในเรื่องพื้นที่การให้บริการว่า “ปัจจุบันเปิดให้บริการในท่าเทียบเรือ A2, A3, C1&C2, D1 และกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาส่วนที่เหลือของท่าเทียบเรือชุด D โดยพื้นที่หลังสุดนี้ก็กำลังมีการเตรียมการในการพัฒนาเพิ่มเติมให้รองรับการจราจรของเรือขนส่งสินค้าให้ได้มากขึ้น ด้วยการพัฒนาพื้นที่ท่าเทียบเรือชุด D นี้จะทำให้ HPT เองสามารถรับการขนส่งสินค้าจากเรือขนส่งขนาดใหญ่ที่สุดในโลกได้มากขึ้น”
ซึ่งนั่นแปลว่านอกจากการนำเข้าสินค้าผ่านทางเรือขนส่งขนาดใหญ่ที่สุดเข้ามาที่ประเทศไทยได้แล้ว ยังหมายถึงการที่สามารถขนส่งสินค้าของไทยไปยังต่างประเทศได้มากขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งปัจจุบันปริมาณการขนส่งสินค้าทางเรือของประเทศไทยนั้น หากเปรียบเทียบเฉพาะภายในบริเวณของท่าเทียบเรือแหลมฉลังแล้ว HPT ถือว่ามีปริมาณมากที่สุดอยู่ที่ประมาณ 40% และหากเทียบในประเทศปริมาณสินค้าที่ผ่านเข้าออกในพื้นที่ของบริษัทเป็นอันดับ 2 ที่ 30%
ท่าเทียบเรือที่ทันสมัย นำเอาระบบเอกสารอิเล็คทรอนิกส์มาใช้ ลดขั้นตอนการทำงาน
นอกจากเรื่องของเทคโนโลยีด้านการขนส่งตู้สินค้าที่ถูกปรับเปลี่ยนแล้ว สำหรับ HPT เองก็ได้มีการปรับเปลี่ยนกระบวนการออกเอกสารสำคัญต่างๆ สำหรับการนำออกสินค้าจากท่าเทียบเรือไปสู่ระบบอิเล็คทรอนิกส์เกือบทั้งหมดแล้ว ซึ่งนอกจากเอกสารที่จำเป็นต่อกระบวนการศุลกากรต่างๆ แล้วปัจจุบันงานด้านเอกสารอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับลูกค้าหรือบริษัทชิปปิ้งถูกเปลี่ยนสู่ระบบอิเล็คทรอนิกส์
มร. สตีเฟ้นท์ ได้เล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า “ที่นี่เราไม่ได้แค่ทำให้เอกสารทั้งหมดกลายเป็นอิเล็คทรอนิกส์เท่านั้น แต่ยังสร้างความสะดวกสบายในการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น ลูกค้าหรือบริษัทชิปปิ้งสามารถตรวจสอบและขอเอกสารต่างๆ ได้จากมือถือผ่านทางแอพพลิเคชัน Line เพราะทุกวันนี้ทุกคนไม่ได้นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตลอดเวลา มีเพียงมือถือเครื่องเดียวก็สามารถดำเนินการเรื่องเอกสารต่างๆ ได้ทันที”
“เรามองว่าเรื่อง Digitalization เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ เพราะมันคืออนาคตที่มาถึงแล้วและสิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เฉพาะเราที่ทำงานคล่องตัวขึ้น แต่หมายถึงสามารถบริการให้กับทุกๆ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับเราให้ทั้งยืดหยุ่นและรวดเร็ว สุดท้ายคือทั้งหมดที่จะทำให้เราสามารถประกาศฉลอง 50 ล้าน TEU ได้ในเวลาที่เร็วขึ้นกว่าเดิมแบบที่เราอาจจะไม่ทันตั้งตัว”
Timeline ของ Huchison Port Thailand ในประเทศไทย
ปี พ.ศ. 2545 เปิดให้บริการ ท่าเทียบเรือ A2 อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545
ปี พ.ศ. 2549 เปิดให้บริการท่าเทียบเรือ A3
ปี พ.ศ. 2550 เปิดให้บริการท่าเทียบเรือ C1&C2
ปี พ.ศ. 2559 เริ่มการก่อสร้างท่าเทียบเรือ ชุด D
ปี พ.ศ. 2562 เปิดให้บริการท่าเทียบเรือ ชุด D
ปี พ.ศ. 2565 ครบรอบ 20 ปี ในการดำเนินธุรกิจท่าเทียบเรือในประเทศไทย
ปี พ.ศ. 2566 มียอดสะสมตู้สินค้าผ่านท่า รวมกว่า 40 ล้าน ทีอียู
ข้อมูลทั่วไปของบริษัท
HPT เป็นหนึ่งในเครือสมาชิกของกลุ่มฮัทชิสัน พอร์ท ซึ่งเป็นส่วนงานหนึ่งของบริษัท ซีเค ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ จำกัด (CK Hutchison Holdings Limited) ที่ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านท่าเทียบเรือและบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ ฮัทชิสัน พอร์ท เป็นผู้ลงทุน พัฒนาและประกอบการด้านท่าเทียบเรือชั้นนำของโลก มีเครือข่ายท่าเทียบเรือถึง 53 แห่ง กระจายอยู่ใน 24 ประเทศทั่วโลก ทั้งในเอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ฮัทชิสัน พอร์ท ได้ขยายกิจการครอบคลุมไปถึงธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ในด้านอื่นๆ ด้วย อาทิ ท่าเทียบเรือโดยสาร บริการท่าอากาศยาน ศูนย์กระจายสินค้า บริการขนส่งด้วยระบบรางและอู่ซ่อมเรือ
สำหรับท่านผู้อ่านที่ติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหว ของธุรกิจในด้านต่างๆ สามารถติดตามอ่านได้ ที่นี่
