“พลังทวี” ในยุคดิจิทัล เพื่อสมดุลชีวิตที่ดีขึ้น

สร้างสมดุลของชีวิตให้ดีขึ้นด้วย พลังทวี

คุณอาจเคยได้ยินคนพูดว่า “อยากมีมือสัก 10 มือ” “อยาก clone ตัวเองออกมาอีกสักคน” หรือ “อยากให้วันหนึ่งมีมากกว่า 24 ชั่วโมง”  เพื่อจะได้ทำงานทัน .. แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่จะช่วยคุณได้ดี ก็คือ “พลังทวี”

พลังทวี คืออะไร

หลักการง่ายๆ ของ พลังทวี (Leverage) คือการผนวกเวลาและความสามารถของผู้อื่น หรือสิ่งอื่น มาช่วยขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เร็วขึ้น มากกว่าการทำสิ่งต่างๆ หรืองานต่างๆ ด้วยตัวเองแต่เพียงลำพัง คำอธิบายสั้นๆ ที่เข้าใจง่ายที่สุดคือ ทำน้อยแต่ได้มาก

คำว่าทำน้อยได้มาก อาจหมายถึงการทำงานโดยใช้เวลาเท่าเดิมหรือน้อยลงกว่าเดิม แต่ได้ผลลัพธ์มากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณอยู่เฉยๆ โดยที่ไม่ทำอะไรเลย พลังนี้จะถูกเอามาใช้ได้ดีที่สุดเมื่อคุณรู้สึกตัวเองว่าทำคนเดียวไม่ได้แล้ว หรือต้องการขยับขยาย หรือต่อยอดธุรกิจ

ตัวอย่างง่ายๆ เช่น เจ้าของร้านสะดวกซื้อ เดิมเปิดแค่วันละ 10 ชั่วโมง มีรายได้วันละ 5,000 บาท แต่ถ้าต้องการเพิ่มรายได้ ก็คือต้องขยายให้บริการ หรือเปิดร้านแบบไม่ต้องหลับนอนตลอดเวลา 24 ชั่วโมง แต่ที่แน่นอนก็คือ เจ้าของร้านย่อมไม่ต้องการสละเวลาทั้งวันทั้งคืนไปกับการดูแลร้านคนเดียวแน่ๆ สิ่งที่จำเป็นในยามนี้ ก็คือการแบ่งเวลาในการดูแลร้าน โดยหาคนมาช่วยทำงานแทนในช่วงเวลาอีก 14 ชั่วโมง ไม่ว่าจะจ้างพนักงาน หรือหาคนที่ไว้ใจได้มาดูแลแทน และเมื่อกิจการของร้านไปได้ดี ก็อาจจะขยายสาขา เปิดเพิ่มอีกสองหรือสาขาสาม ก็เป็นได้ โดยที่ตัวเองก็ยังคงทำงานแค่ 10 ชั่วโมงเหมือนเดิม หรืออาจจะน้อยกว่านั้นก็เป็นได้ หากมีการวางโครงสร้างระบบธุรกิจได้ดีพอ และนำเครื่องมือหรือเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมาช่วย อย่างระบบดูแลสินค้าคงคลัง ซอฟต์แวร์บริหารจัดการต่างๆ เป็นต้น รวมถึงการจ้างทีมบริหาร หรือพนักงานมาช่วยดูแล โดยบทบาทของเจ้าของก็คือการดูแลภาพรวม และส่วนงานสำคัญเช่นเรื่องการลงทุน การขยายผลลัพธ์ให้มากขึ้นได้อย่างไร

นั่นคือตัวอย่างง่ายๆ ที่เห็นได้ทั่วไป เพียงแต่เราไม่รู้ว่า นี่คือหลักการพื้นฐานของ พลังทวี นั่นเอง ซึ่งเป็นการออกแบบระบบ กระบวนการหรือเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ เพื่อมาช่วยในธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นคน หรือเป็นการนำเทคโนโลยีมาช่วยก็ตาม เพราะทุกคนต่างๆ มีเวลาจำกัด และมีขีดจำกัดด้านศักยภาพหรือแรงกายในการลงมือทำอะไรด้วยตัวเอง และทุกคนควรจะมีเวลาส่วนตัวที่ใช้ไปกับกิจกรรมส่วนตัว อย่างครอบครัว หรือการให้เวลากับตัวเองนั่นเอง

โลกดิจิทัล คือโลกแห่งพลังทวี

ปัจจุบัน เราอยู่ในยุคดิจิทัล ทำให้การใช้พลังทวี ยิ่งเป็นไปได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน อย่างเช่น ถ้าเราต้องการเปิดร้านขายของ เราอาจไม่จำเป็นต้องเสียเงินไปกับการสร้างหน้าร้าน และจ้างพนักงานมาดูแล แค่เราต้องใช้เทคโนโลยีให้เป็น รู้ว่าจะใช้เทคโนโลยีอย่างไรให้เป็นพลังทวี เช่น การเปิดหน้าร้านออนไลน์ และใช้ระบบแชตอัตโนมัติในการตอบลูกค้า แทนที่จะต้องนั่งตอบทุกข้อความเอง เช่นการกำหนดชุดคำตอบ สำหรับคำถามที่คนมักจะถามบ่อย และทำเป็นระบบแชตอัตโนมัติแทน

ในการโปรโมทสินค้า พลังทวีที่ช่วยได้คือ การใช้ social media เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมาก หรือกระทั่งการจ้าง influencer ที่มีคนเชื่อถือในกลุ่มแบรนด์ของตัวเอง ที่มีคนติดตามจำนวนมาก มาเป็นตัวแทนนำเสนอสินค้าแทนเรา แทนการไปแจกใบปลิว หรือจ้างพนักงานไปยืนพูดข้อดีของผลิตภัณฑ์ตามแหล่งชุมชน ที่ไม่ต่างอะไรกับการหว่านแห ที่อาจจะได้ปลาติดแหมาไม่มากนัก ถึงแม้ว่าจำนวนคนเห็นหรือการรับรู้อาจไม่แตกต่างกันมากก็ตาม แต่พลังแห่งความเชื่อในตัว influencer คือพลังทวี ที่จะช่วยให้เราขายเพิ่มได้ ยิ่งถ้าเราเลือก Influencer ที่มีผู้ติดตามเป็นกลุ่มเดียวกับที่เราต้องการเข้าถึง อาจทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าได้ในทันทีเลยก็เป็นได้

ถ้าคุณเป็นเจ้าของโรงงาน พลังทวีของคุณ คือการใช้ระบบอัตโนมัติแทนการขยายโรงงาน ทุกวันนี้มีระบบอัตโนมัติ หรือระบบออโตเมชั่นที่ช่วยให้ฝ่ายต่างๆ ในโรงงานทำงานได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปโรงงานตลอดเวลา หรือการนำหุ่นยนต์มาใช้ในสายการผลิต แล้วให้มนุษย์คอยควบคุมประสิทธิภาพการทำงานได้จากระยะไกล ข้อดีของระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์คือทำงานได้ 24 ชั่วโมงตามที่เราโปรแกรมไว้ หรือ 24 x 7 โดยไม่หยุดพัก ในขณะที่คุณก็สามารถมอนิเตอร์กระบวนการทำงานหรือสถานะต่างๆ ได้จากที่ใดที่หนึ่ง แล้วเอาเวลาที่เหลือไปโฟกัสสิ่งที่สำคัญกว่าในขณะนั้น

นวัตกรรม และความสร้างสรรค์ คือพลังทวี ช่วยขยายผลลัพธ์แบบไม่ต้องเหนื่อย

หากคุณเป็นนักออกแบบหรือพัฒนาเว็บไซต์ เครื่องผ่อนแรงคุณ คือการใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อเป็นพลังทวี คุณอาจทำแอปพลิเคชั่นเพื่อขายเครื่องมือในการช่วยอีคอมเมิร์ชขายของ หรือขายเครื่องมือในการทำเว็บไซต์สำเร็จรูป ให้คนเข้ามาคลิกซื้อ และนำไปใช้งานได้ทันที โดยตัดเงินอัตโนมัติ ได้ 24 ชั่วโมง เป็นการลงทุนลงแรงในการทำระบบครั้งเดียว และใช้คนเพียงไม่กี่คนในการดูแลความเสถียรของระบบ เมื่อต้องการขยายการรับรู้ไปยังต่างประเทศ อาจจ้างฝ่ายการตลาดเพียงไม่กี่คนดูแลในแต่ละประเทศ แล้วก็เอาเวลาที่เหลือของคุณไปคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไอเดียใหม่ในการต่อยอดธุรกิจ เพื่อสร้างรายได้แบบอัตโนมัติแบบทวีคูณต่อไป

ในหลายกรณี เราจะได้พบเห็นสตาร์ทอัพ หรือเอสเอ็มอีรายใหม่ๆ ในตลาด ที่คิดค้นเทคโนโลยีให้เป็นพลังทวี ได้อย่างลงตัว ด้วยการสร้างนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี เพื่อช่วยลูกค้า “ทำน้อยแต่ได้มาก” เพื่อเป็นพลังทวี ให้ผู้คนไม่ต้องทุ่มเวลาส่วนใหญ่ไปกับสิ่งใดจนเกินไป แลสามารถใช้เวลาที่เหลือไปกับสิ่งสำคัญอื่นๆ ในชีวิตได้ เพราะการสร้างสมดุลในการใช้ชีวิต คือสิ่งที่จะช่วยมนุษย์ทุกคนไม่ให้เหนื่อยล้ากับกิจกรรมใดหนึ่งจนเกินไป และนั่นคือบทบาทสำคัญของ “พลังทวี”